กาฬสินธุ์ - ผู้จัดการตลาดกลางข้าวและพืชไร่ จ.กาฬสินธุ์ เชื่อมั่นโครงการประกันรายได้เกษตรกรจะทำให้เกษตรกรพ้นจากภาวะขาดทุน และการถูกกลุ่มนายทุนเอาเปรียบได้ พร้อมแนะเกษตรกรควรเร่งเข้าโครงการเพื่อขอรับเงินชดเชย
ที่ตลาดกลางข้าวและพืชไร่ จ.กาฬสินธุ์ นายธนาพล ธรรมโนขจิต ผู้จัดการตลาดกลางข้าวและพืชไร่ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในช่วงต้นฤดูกาลการเก็บเกี่ยวข้าวนาปีฤดูกาลผลิตปี2552/2553 ขณะนี้เริ่มมีเกษตรกรจากพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และ จ.มหาสารคาม นำข้าวเข้ามาจำหน่ายจำนวนมากเฉลี่ยวันละ 10-15 รายส่วนใหญ่เป็นข้าวเบา กข.06 ประมาณ 30 ตัน โดยราคาข้าวเปลือกที่รับซื้อตอนนี้ข้าวเปลือกเหนียวรับซื้อที่ราคาตันละ 8,500 บาท จากราคากลางที่ 9,500 บาท
ส่วนข้าวหอมมะลิราคากลางอยู่ที่ตันละ 13,000 บาท ตอนนี้รับซื้อที่ตันละ 10,000 บาท ซึ่งสิ่งที่เกษตรกรควรทำในตอนนี้คือการเข้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรกับรัฐบาล เพื่อจะได้ขอรับเงินชดเชยส่วนต่างจากรัฐบาลได้เร็ว ซึ่งส่วนต่างที่เกษตรกรจะได้รับจากรัฐบาลในช่วงนี้นับว่าอยู่ในเกณฑ์อัตราที่เหมาะสมที่จะช่วยให้เกษตรกรไม่ขาดทุน
นายธนาพลกล่าวอีกว่า สำหรับโครงการประกันรายได้ของเกษตรกรของรัฐบาลนับเป็นการแก้ไขปัญหาวงจรการทุจริตในการค้าข้าว ที่จะสามาระเอื้อประโยชน์เข้าถึงประชาชนอย่างแท้จริง อีกทั้งกรอบแนวทางการป้องกันกรฉวยโอกาสจากกลุ่มนายทุนโรงสีและพ่อค้าคนกลางที่จะเอาเปรียบโกงเกษตรกร โดยมีการวางกรอบที่รอบครอบ ที่มองว่ารัฐบาลได้เข้ามาแก้ไขปัญหาการทุจริตข้าว และช่วยเกษตรกรได้อย่างถูกทางแล้ว
โดยเฉพาะการกำหนดให้นำข้าวเข้าโครงการ 16 ตันต่อคน ในเงื่อนไขของการขึ้นทะเบียนเกษตรกร โดยขั้นตอนเป็นการร่วมมือระหว่าง ธกส.และกระทรวงเกษตรกรฯ ที่จะเป็นผู้ดำเนินการจ่ายเงินให้กับเกษตรกรได้เลย โดยไม่ต้องมีบุคคลกลางอย่างนายทุนโรงสีเป็นตัวกำหนดเหมือนอย่างที่เคย
สำหรับยอดการขึ้นทะเบียนเกษตรกรจ.กาฬสินธุ์มีจำนวน 106,077 คน แยกเป็นข้าวนาปี 90,082 รายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 72 ราย แล มันสำปะหลัง 15,923 ราย สำหรับข้าวนาปีมีผู้ผ่านการประชาคมแล้ว 75,400 ราย พื้นที่นาข้าวกว่า 869,649 ไร่ โดยคาดว่าจะมีผลผลิตประมาณ 396,675,270 กิโลกรัม