พัทลุง - เกษตรกรชาวนาในพื้นที่ ต.ลำปำ และ ต.พญาขันธ์ อ.เมืองพัทลุง กว่า 30 คน วอนรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในจังหวัดพัทลุง เร่งทำการช่วยเหลือชาวนา ที่มีปัญหาโรงสีข้าวไม่รับซื้อข้าวเลือกพร้อมอ้างว่าข้าวล้นสต๊อก
วันนี้ (13 ต.ค.) ที่บ้านไสยอม ม.2 ต.ลำปำ อ.เมือง จ.พัทลุง เกษตรกรชาวนาในพื้นที่ ต.ลำปำ และ ต.พญาขันธ์ อ.เมืองพัทลุง กว่า 30 คน วอนรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในจังหวัดพัทลุง เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน กรณีโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวปฏิเสธการรับซื้อ และหากซื้อก็ปล่อยให้รอคิวเป็นเวลาข้ามคืน โดยอ้างว่าข้าวเปลือกล้นสต๊อก
ในขณะที่เกษตรกรนั้นปฏิบัติถูกต้องตามขั้นตอนทุกอย่าง และเกษตรกรทุกรายมีใบประทวนที่ขึ้นทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว แต่สุดท้ายต้องจำใจขายข้าวแก่นายหน้านาคาเกวียนละ 6,500-7,000 บาท ทั้งนี้ ในความเป็นจริงราคาข้าวเปลือกของเกษตรกรที่เข้าร่มโครงการรับจำนำข้าวอยู่ที่เกวียนละ 16,000 บาท
นายวิรัช ชายเกตุ อายุ 44 ปี เกษตรกรชาวนา อยู่บ้านเลขที่ 135 ม.4 ต.พญาขันธ์ อ.เมือง จ.พัทลุง กล่าวว่า ปีนี้ตนทำนาในพื้นที่ 30 ไร่ พร้อมที่จะเก็บเกี่ยวจำนวน 10 ไร่ แต่ต้องชะลอไว้ก่อน เนื่องจากทางโรงสีไม่ยอมรับซื้อ อ้างว่าข้าวเปลือกที่มีอยู่นั้นล้นสต็อก ในขณะที่กลุ่มเกษตรกรด้วยกัน รอไม่ไหวต้องเกี่ยวข้าวก่อนเพราะสุกงอมเต็มที่ แม้ต้องเสียเวลาเข้าคิวรอจนข้ามคืนก็ตาม ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน ส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกตกตามไปด้วย
นายวิรัชยังกล่าวอีกว่า จำเป็นต้องจำหน่ายข้าว ถึงแม้ราคาจะต้องก็ตาม และพร้อมจำหน่ายราคาเกวียนละ 6,500-7,000 บาท แม้จะขาดทุนก็ต้องยอมดีกว่าปล่อยให้ข้าวในนาเน่าเสีย ล่าสุดขณะนี้พื้นที่ 2 ตำบล ทั้งลำปำและพญาขันธ์ข้าวที่รอการเก็บเกี่ยวกว่า 2,000 ไร่ เกษตรกรกว่า 150 ราย กำลังได้รับความเดือดร้อน จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดพัทลุงเร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน และจะต้องรับผิดชอบกับโครงการดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ข้าวเปลือกล้นสต๊อกในโรงสีข้าวนั้น มาจากการที่ผู้ประกอบการโรงสีติดต่อสั่งข้าวเปลือกมาจาก อ.ระโนด จ.สงขลา เพิ่มเติม เนื่องจากข้าวใน อ.ระโนดนั้นมีคุณภาพดีกว่า และเป็นที่ต้องการของตลาดมากกว่า
วันนี้ (13 ต.ค.) ที่บ้านไสยอม ม.2 ต.ลำปำ อ.เมือง จ.พัทลุง เกษตรกรชาวนาในพื้นที่ ต.ลำปำ และ ต.พญาขันธ์ อ.เมืองพัทลุง กว่า 30 คน วอนรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในจังหวัดพัทลุง เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน กรณีโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวปฏิเสธการรับซื้อ และหากซื้อก็ปล่อยให้รอคิวเป็นเวลาข้ามคืน โดยอ้างว่าข้าวเปลือกล้นสต๊อก
ในขณะที่เกษตรกรนั้นปฏิบัติถูกต้องตามขั้นตอนทุกอย่าง และเกษตรกรทุกรายมีใบประทวนที่ขึ้นทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว แต่สุดท้ายต้องจำใจขายข้าวแก่นายหน้านาคาเกวียนละ 6,500-7,000 บาท ทั้งนี้ ในความเป็นจริงราคาข้าวเปลือกของเกษตรกรที่เข้าร่มโครงการรับจำนำข้าวอยู่ที่เกวียนละ 16,000 บาท
นายวิรัช ชายเกตุ อายุ 44 ปี เกษตรกรชาวนา อยู่บ้านเลขที่ 135 ม.4 ต.พญาขันธ์ อ.เมือง จ.พัทลุง กล่าวว่า ปีนี้ตนทำนาในพื้นที่ 30 ไร่ พร้อมที่จะเก็บเกี่ยวจำนวน 10 ไร่ แต่ต้องชะลอไว้ก่อน เนื่องจากทางโรงสีไม่ยอมรับซื้อ อ้างว่าข้าวเปลือกที่มีอยู่นั้นล้นสต็อก ในขณะที่กลุ่มเกษตรกรด้วยกัน รอไม่ไหวต้องเกี่ยวข้าวก่อนเพราะสุกงอมเต็มที่ แม้ต้องเสียเวลาเข้าคิวรอจนข้ามคืนก็ตาม ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน ส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกตกตามไปด้วย
นายวิรัชยังกล่าวอีกว่า จำเป็นต้องจำหน่ายข้าว ถึงแม้ราคาจะต้องก็ตาม และพร้อมจำหน่ายราคาเกวียนละ 6,500-7,000 บาท แม้จะขาดทุนก็ต้องยอมดีกว่าปล่อยให้ข้าวในนาเน่าเสีย ล่าสุดขณะนี้พื้นที่ 2 ตำบล ทั้งลำปำและพญาขันธ์ข้าวที่รอการเก็บเกี่ยวกว่า 2,000 ไร่ เกษตรกรกว่า 150 ราย กำลังได้รับความเดือดร้อน จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดพัทลุงเร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน และจะต้องรับผิดชอบกับโครงการดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ข้าวเปลือกล้นสต๊อกในโรงสีข้าวนั้น มาจากการที่ผู้ประกอบการโรงสีติดต่อสั่งข้าวเปลือกมาจาก อ.ระโนด จ.สงขลา เพิ่มเติม เนื่องจากข้าวใน อ.ระโนดนั้นมีคุณภาพดีกว่า และเป็นที่ต้องการของตลาดมากกว่า