ชาวนานครศรีชุมนุมเรียกร้องเพิ่มยอดจำนำข้าว

นครศรีธรรมราช - ชาวนาลุ่มน้ำสุดทนบุกศาลากลางนครศรีนับพันร้องพาณิชย์ขยายปริมาณจำนำข้าวหลังผลผลิตข้าวทะลัก- “พรทิวา” สั่งเพิ่มโควตาอีกกว่า 1 หมื่นตัน-ชาวนายันไม่พอ

วันนี้ (6 ต.ค.) ที่ลานตะเคียน ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช กลุ่มชาวนาในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังนครศรีธรรมราชราว 3 พันคน ได้ทยอยมารวมตัวกันนำโดยนายสุทธิชัย ชื่นชม ตัวแทนเกษตรกรผู้ทำนาในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง นายอนันต์ คลังจันทร์ รองนายก อบจ.นครศรีธรรมราช

โดยมีการจัดตั้งครัวและตั้งเวทีปราศรัยถึงสภาพปัญหาของชาวลุ่มน้ำปากพนังโดยเฉพาะกรณีไม่สามารถนำข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวได้เข้าสู่ระบบการจำนำ เนื่องจากโครงการรับจำนำนั้นได้ปิดไปแล้ว ประกอบกับโควตาในพื้นที่นครศรีธรรมราช ได้รับจำนำเต็มจำนวนคือ 3.9 หมื่นตัน เต็มจำนวนโดยมีข้าวจากจังหวัดใกล้เคียงเข้ามาจำนำด้วยเกษตรกรส่วนใหญ่จึงไม่สามารถจำนำข้าวได้อีก โรงสีรับซื้อในราคาต่ำมาก ไม่คุ้มทุนการทำนา บางโรงสีไม่รับซื้อทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่ในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ชาวนาตัวจริงส่วนมากถือแค่ใบประทวนแต่ไม่สามารถนำข้าวเข้าสู่การจำนำได้

นายสุทธิชัย ชื่นชม ตัวแทนเกษตรกรผู้ทำนาในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง กล่าวว่า ภายใต้ความเดือดร้อนทั้งหมดนั้น เกษตรกรชาวลุ่มน้ำได้ยื่นข้อเสนอให้กับนางพรทิวา นาคาสัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จำนวน 4 ประเด็นหลัก คือ 1.ขอให้ขยายเวลารับจำนำข้าวนาปรังไปจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2552 2.ขอโควตาในการจำนำเพิ่ม จำนวน 50,000 ตัน 3.ขอให้ อคส.รีบออกคำสั่งแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นข้าวสารภายในระยะเวลา 7 วัน และโรงสีสามารถจำนำข้าวใหม่ได้ทันทีหลังจากมีคำสั่งแปร 4.โรงสีที่เข้าร่วมโครงการให้สามารถทำหนังสือค้ำประกันในการรับจำนำข้าวเปลือกจากเกษตรกรเพิ่มขึ้นเป็น 100 เท่าของกำลังการผลิต

ต่อมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เชิญตัวแทนกลุ่มเกษตรกรชาวนาลุ่มน้ำปากพนังเข้าพบเพื่อหารือจำนวน 50 คน รวมทั้งตัวแทนโรงสี สำนักงานการค้าภายในจังหวัด พาณิชย์จังหวัด เกษตรจังหวัดและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ชี้แจงในที่ประชุมว่าล่าสุดนั้น นางพรทิวา นาคาสัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้อนุมัติโควตาจำนำข้าวเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรลงมาเพิ่มอีก 11,027 ตัน

อย่างไรก็ตาม นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ได้มีการติดตามยอดการจำนำซึ่งสามารถขอมาจาก จ.พัทลุง 4,500 ตัน จาก จ.สงขลา อีก 3,500 ตัน เพิ่มจำนวนนี้ได้อีก 7 พันตัน ให้โรงสีที่ยังพอมีที่ว่างสามารถรองรับข้าวได้ขอโควตามาสามารถดำเนินการได้ทันทีในวันที่ 9 ตุลาคม รวมทั้งการขยายเวลาจำนำไปอีกจนถึง 31 ตุลาคม

ขณะเดียวกัน ในส่วนของคลังสินค้าใน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช สามารถรองรับข้าวสารได้อีกประมาณ 80,000 กระสอบสามารถนำข้าวมาเก็บไว้ได้ซึ่งส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้เริ่มลงพื้นที่สำรวจความพร้อมแล้ว หลังจากนั้น ชาวนาได้แสดงความพอใจก่อนแยกย้ายสลายตัวเดินทางกลับภูมิลำเนา