เชียงราย – เวทีแดงแม่สาย โหวงเหวง คนหยิบมือร่วมฟังปราศรัย หลังกระแสตก “แม้ว” โฟนอินแค่ 3 นาที แต่กำนันยังเหิมด่า “ป๋าเปรม-รัฐบาล”
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า กลุ่มคนเสื้อแดงหลากหลายกลุ่มใน จ.เชียงราย ได้จัดเวทีคนเสื้อแดงขึ้นโดยใช้ชื่อว่า เวที นปช.แม่สาย นัดรวมพลกันตั้งแต่ค่ำวันที่ 25 พ.ย.2552 โดยต้องใช้สถานที่ส่วนบุคคลของนายอิทธิเดช ฤทธิ์เดชดำรง กำนัน ต.โป่งผา อ.แม่สาย คนสนิทของนายอิทธิเดช แก้วหลวง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เชียงราย เขต 3 พรรคเพื่อไทย ซึ่งพึ่งเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศกัมพูชามาเมื่อเร็วๆ นี้ จากเดิมที่จะใช้ศูนย์ลุกเสือชาวบ้านตั้งเวที เนื่องจากเริ่มไม่มีหน่วยงานใดๆ ให้ความร่วมมือในการจัดงานแล้วหลังเกิดกระแสในด้านลบของกลุ่มคนเสื้อแดงในหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา
สำหรับการจัดเวทีครั้งนี้มี นายเรวัตร นามวงศ์ อดีตข้าราชการครูที่อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านป่ายาง เป็นผู้ดำเนินรายการ และมีการจัดรถตระเวนไปตามหมู่บ้านต่างๆ ทั่วแม่สายก่อนล่วงหน้า 2-3 วันแล้ว รวมทั้งมีการประกาศเชิญชวนด้วยป้ายอย่างขนาดใหญ่ แต่ปรากฏว่า เมื่อถึงกำหนดเวลาจริงมีเพียงแกนนำบางคนเท่านั้นที่อยู่บริเวณเวทีและมีคนเสื้อแดงไปร่วมรับฟังในช่วงต้นๆ ไม่ถึง 10 คน อย่างไรก็ตามในช่วงหัวค่ำได้มีการโทรศัพท์แจ้งไปยังสมาชิกกลุ่มคนต่างๆ ให้เข้าไปร่วม รวมทั้งประกาศบนเวทีจึงทำให้มีกลุ่มคนเสื้อแดงทยอยไปร่วมงานเพิ่มเป็นประมาณ 50 คน
รายงานข่าวแจ้งว่า ในครั้งนี้มีแกนนำจาก อ.เมือง ไปร่วมหลายคน เช่น นางมติ แซ่อั้ง ประธานชมรมคนรักทักษิณเชียงราย และ น.ส.เกศนีย์ ชื่นชม สมาชิกชมรมเดียวกัน นายธวัชชัย ทองนาค นายอรรถกร กันทไชย นายวีระ หรือ ถวัลย์ ชมภูวิเศษ จากกลุ่มคนเจียงฮายฮักประชาธิปไตย นายณรงค์ ทิพย์นวล ประธานกลุ่ม นปช.เชียงราย 52 รวมทั้งยังมีนายคำปัน หรือ หนานปัน รูปดี แกนนำคนเสื้อแดงจาก อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
แต่ลักษณะการจัดงานเหมือนเป็นการปราศรัยให้พวกเดียวกันฟังเพราะมีมวลชนเข้าร่วมน้อยเกินคาด ทั้งๆ ที่มีการประกาศเชิญชวนอย่างเอิกเกริก และก่อนหน้านี้ นายอิทธิเดช แก้วหลวง ก็เคยตระเวนไปพบปะผู้นำชุมชนในหลายพื้นที่มาแล้ว
สำหรับเนื้อหาของการเปิดเวทียังคงเหมือนเดิม คือ แกนนำแต่ละคนต่างผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาล กล่าวอ้างเรื่องความไร้ประสิทธิภาพในการทำงานและความผิดพลาดในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นที่น่าสังเกตว่าแม้แต่นายอิทธิเดช ฤทธิ์เดชดำรง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นกำนันสังกัดกระทรวงมหาดไทยในรัฐบาลปัจจุบันก็ยังขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยโจมตีรัฐบาล และ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษอย่างอุกอาจ
โดยอ้างว่า สาเหตุที่ไม่สามารถจัดเวทีที่ศูนย์ลูกเสือหมู่บ้านป่ายางได้เหมือนเดิมเพราะมีคำสั่งจากเบื้องบนไม่อนุญาตให้จัดเวที แต่ไม่ได้อธิบายว่าเวทีคนเสื้อแดงหลังหลายครั้งที่ผ่านมาต่างมีเนื้อหาที่รุนแรง แข็งกร้าวเป็นไปในทำนองยั่วยุรวมทั้งล่วงละเมิดไปถึงเบื้องสูง จึงทำให้หน่วยงานต่างๆ ไม่ให้ความร่วมมืออีก รวมทั้งยังทำให้มวลชนมีจำนวนน้อยลงไปด้วย
รายงานข่าวแจ้งต่อว่า กระทั่งเวลาประมาณ 20.20 น.พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โฟนอินเข้าไปพูดคุยกับแกนนำบนเวทีโดยใช้เวลาสนทนากันแค่ 3 นาที พูดหลอกคนเสื้อแดงที่ไปรับฟังให้อดทนต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่จากนั้น จึงเลือก ส.ส.จากพรรคเพื่อไทยเข้าไป เพื่อให้ตนได้กลับเข้าไปประเทศไทยได้อีกครั้งหนึ่ง จากนั้นจึงยุติการสนทนาและเปิดให้แกนนำคนต่างๆ ขึ้นมากล่าวโจมตีขับไล่รัฐบาลรวมทั้งเชิญชวนให้คนเสื้อแดงให้ไปรวมตัวกันขับไล่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจจะไปร่วมการประชุมหอการค้าทั่วประเทศที่ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 29 พ.ย.นี้ด้วย ก่อนที่เวทีจะยุติลงในเวลาประมาณ 3 ทุ่มซึ่งผิดวิสัยการชุมนุมที่เคยเกิดขึ้นในเขต อ.เมือง เมื่อหลายเดือนก่อนซึ่งยืดเยื้อค่อนคืน
ด้าน นายผ้าง พลชัย ผู้ทรงคุณวุฒิจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จ.เชียงราย และเจ้าของวิทยุชุมชนห้วยไคร้ เอฟเอ็ม 107.5 เมกะเฮิรตซ์ แพร่กระจายเสียงใน ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย เชื่อมสัญญาณกับ ASTV มาโดยตลอด กล่าวว่า การชุมนุมปราศรัยถือเป็นสิทธิเสรีภาพที่ประชาชนสามารถทำได้ในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงในครั้งนี้กลุ่ม พธม.ไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ก็ตั้งข้อสังเกตว่าในยามที่กลุ่ม พธม.จะจัดเวทีขึ้นมาบ้างก็กลับถูกกระทำด้วยความรุนแรงจึงสงสัยว่าอีกฝ่ายหนึ่งมีประชาธิปไตยแบบไหนกันแน่
“ผมเห็นว่าด้วยเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมารวมทั้งจำนวนมวลชนที่เราได้เห็นกันอยู่ในครั้งนี้ก็พอจะทำให้ทราบได้ว่าประชาชนคงจะรับทราบเหตุการณ์ต่างๆ ของบ้านเมืองได้มากบ้างแล้ว และเมื่อทุกฝ่ายช่วยกันดูเหตุการณ์รวมทั้งตรวจสอบอย่างจริงจังก็จะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงได้”
