xs
xsm
sm
md
lg

“ไชยวัฒน์” ชี้ ทหารถูกใช้เป็นเครื่องมือ “นช.แม้ว” ดิ้นคืนสู่อำนาจ - ซัด “จิ๋ว” จอมโลเลตัวสร้างแตกแยก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายไชยวัฒน์  สินสุวงศ์
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์” ชี้ ตท.10 ตบเท้าเข้าพรรคเพื่อไทย ทหารถูกใช้เป็นเครื่องมือ “นช.แม้ว” ดิ้นทำทุกอย่างเพื่อหวนคืนสู่อำนาจ ทำกองทัพเสื่อมเสีย เชื่อ เป้าหมายทำลายไม่ใช่อยู่แค่ “ป๋าเปรม” ซัด “บิ๊กจิ๋ว” ทำให้ใครสมานฉันท์ไม่ได้ เพราะโลเลตลอดชีวิต อยู่ที่ไหน มีแต่แตกแยก อัด ปชป.ธาตุแท้พรรคเก่ง แต่พูดคาดหวังมากไม่ได้ ประณามพวกคนเลวทรามปล่อยข่าวลืออัปมงคลปั่นหุ้น

วันนี้ (22 ต.ค.) นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย กล่าวที่ จ.นครราชสีมา ถึงความเคลื่อนไหวทางการเมือง กรณีกลุ่มนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 (ตท.10) เพื่อนร่วมรุ่น นักโทษชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตบเท้าเข้าพรรคเพื่อไทย (พท.) รวมทั้ง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ว่า เป็นการพยายามลบล้างภาพของพรรคเพื่อไทย จากการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ที่ถูกเข้าใจว่า มีส่วนเชื่อมต่อกับการเคลื่อนไหวที่หมิ่นเหม่ต่อการจาบจ้วงสถาบัน ฉะนั้น จึงเอาทหารซึ่งมีภาพลักษณ์ในสังคมไทย ว่า เป็นกลุ่มคนที่มีวัฒนธรรม มีจุดยืนในการปกป้องสถาบัน เข้าไปเพื่อลบล้างภาพพจน์ดังกล่าว

ส่วนการที่ พล.อ.พัลลภ ตอบโต้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ อย่าผูกขาดรักชาติไว้คนเดียวนั้น ต้องเข้าใจว่า การขับเคลื่อนที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า “นักโทษชาย” ประกาศจุดยืนตัวเองเป็นฝ่ายตรงข้ามกับ พล.อ.เปรม มานานแล้ว โดยเฉพาะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน การตอบสนองของสังคมไทยในเรื่องความเคลือบแคลงต่อบทบาทของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ไม่ได้ไปในทางที่กลุ่มอดีตนายกฯ ทักษิณ พยายามชี้นำ ยกเว้นกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มีจุดยืนตรงนั้น ฉะนั้น วันนี้เมื่อ พล.อ.พัลลภ เข้าไปยืนในจุดนี้ ดูเหมือนว่า ทำให้น้ำหนักของนักโทษชายในเรื่องนี้มีมากขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม โดยบทบาทและจุดยืนของ พล.อ.เปรม มีความชัดเจนในสังคมไทยมาตลอด คนไทยที่ติดตามเรื่องราวคงเข้าใจเรื่องดังกล่าวดี ว่า มันเป็นเกมการเมือง เพื่อทำลาย พล.อ.เปรม และนอกจากนั้น ยังมีนายทหารบางคนถึงขนาดอายุมาก คล้ายกับว่าหมดอายุขัยแล้วเข้ายังร่วมด้วย ซึ่งต้องมองว่าต้องการกระทบหมายถึง พล.อ.เปรม คนเดียวหรือเปล่าด้วย

ฉะนั้น การเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้ มีลักษณะที่ล่อแหลมมาก และเที่ยวนี้คนที่อยู่ในกองทัพจะต้องจัดการปัญหาในกลุ่มของตัวเอง เพราะเมื่อเป็นอย่างนี้ ภาพกองทัพมันจะเสื่อมเสียด้วย เพราะคนกลุ่มนี้จากการยกคณะ ตท.10 กว่า 10 คน เข้าพรรคเพื่อไทย กลายเป็นว่า ทหารถูกใช้เป็นเครื่องมือ เพื่อรองรับการเคลื่อนไหวของคนที่อยากจะกลับคืนสู่อำนาจ ซึ่งตอนนี้เป็นนักโทษของเมืองไทยอยู่ และตนคิดว่า ไม่ใช่การล้ม พล.อ.เปรม แต่เขาทำทุกอย่างเพื่อให้เขากลับเข้าสู่อำนาจ และทำให้ทรัพย์สิน 76,000 ล้านบาท ไม่ถูกยึด และคดีทุกอย่างถูกยกเลิกหมด

“เขาต้องการโจมตี พล.อ.เปรม เพราะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่มีชื่อเสียง เพื่อต้องการสร้างให้สังคมไทยเข้าใจว่าเป็นอย่างนั้น แต่จริงๆ เขาหมายถึง พล.อ.เปรม คนเดียวหรือไม่ เชื่อว่า สังคมไทยเข้าใจเท่าทันพอ ว่า ไม่น่าจะหมายถึง พล.อ.เปรม คนเดียว” นายไชยวัฒน์ กล่าว

กลุ่มคนรักป๋าเปรมจะเคลื่อนไหวหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่คิดว่าขึ้นอยู่กับคนที่มีความเคารพนับถือ พล.อ.เปรม จะคิดกันอย่างไร เพราะตอนหลังดูแต่ละเรื่องการเคลื่อนไหวก็แผ่วลงไปเรื่อยๆ กลายเป็นว่า มีแต่ พล.อ.เปรม รับภาระหนักอยู่คนเดียว

การที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี อ้างว่า เข้าพรรคเพื่อไทยเพื่อต้องการให้เกิดความสมานฉันท์ คาดหวังได้แค่ไหน นั้น นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า พล.อ.ชวลิต ทำให้ใครสมานฉันท์ไม่ได้ เพราะ พล.อ.ชวลิต โลเลตลอดชีวิต และคนที่จะทำให้คนสมานฉันท์ได้ต้องมีจุดยืน ทุกคนเชื่อมั่น เชื่อถือ แต่ พล.อ.ชวลิต ไม่ได้อยู่จุดนั้น กลับกัน พล.อ.ชวลิต ไปอยู่ที่ไหน มีแต่ความแตกแยกกัน

ส่วน พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แกนนำรัฐบาล ต้องจับตาเรื่องนี้อย่างไร นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า เราต้องยอมรับว่า มาถึงวันนี้ธาตุแท้พรรคประชาธิปัตย์ คือ เก่งแต่พูด จะไปหวังอะไรมากกับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ เพราะเป็นพรรคที่เก่งแต่พูด ลำหักลำโค่นมันไม่ได้

ขณะที่ความคาดหวังกับ นายไตรรงค์ สุวรณคีรี ที่จะมาเป็นรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ต้องติดตามดูอีกสัก 1-2 เดือน เพราะเคยเป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง และเป็นคนที่สังคมไทยยอมรับในด้านเศรษฐกิจมากกว่า นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ที่มีอาวุโสต่างกันมาก ซึ่งจากนี้ไปต้องดูว่าจะทำงานอย่างไร หรือจะเข้ามาพูดอย่างเดียวหรือเปล่า เพราะวันนี้สังคมไทยต้องการคนที่ทำมากกว่าพูดแล้ว

นายไชยวัฒน์ กล่าวถึงการปล่อยข่าวลือไม่เป็นมงคลปั่นหุ้นช่วงนี้ ว่า เรื่องนี้เราต้องมองว่ามันเป็นกระบวนการใหญ่ เพราะเริ่มมาจากสื่อมวลชนต่างประเทศ ปูพื้นก่อน หลังจากนั้น ก็มีขบวนการปั่นเพื่อทำลาย แต่บังเอิญว่าไม่เข้าเป้า เพราะกลายเป็นว่าเที่ยวนี้ผู้เป็นแมงหมี่แมงเม่า ยืนหยัดสู้ และครั้งนี้แทนที่จะทำให้ตลาดหลักทรัพย์ไทยถูกทุบกระเจิง กลายเป็นว่า พวกแมงหมี่ แมงเม่า ฟันกำไรไปเยอะมาก เขาเรียกว่า ฟ้าดินไม่เข้าข้าง

“เราควรประณามคนพวกนี้ว่าเลว ไม่รับผิดชอบต่อบ้านเมือง เศรษฐกิจจะเจ๊งอย่างไร ก็ช่าง ขอให้ข้าได้สมประสงค์ คนพวกนี้คิดแค่นี้เอง เพราะเป็นคนเลวทราม” นายไชยวัฒน์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น