ศูนย์ข่าวศรีราชา - เกิดเหตุสารเคมีรั่วไหล ฟุ้งกระจ่ายในท่าเรือเทียบเรือ B3 ส่งกลิ่นเหม็นกระจายไปทั่ว สร้างความโกลาหลต่อผู้ประกอบการและพนักงานอย่างมาก และขณะนี้สามารถควบคุมได้แล้ว
วันนี้ (25 พ.ย.) เวลาประมาณ 16.00 น.ที่บริเวณท่าเทียบเรือ B3 บริหารโดย บริษัท อีสเทิร์นซี แหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด หรือ ESCO ในท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ได้เกิดเหตุสารเคมีรั่วไหล และฟุ้งกระจายเป็นบริเวณกว้างในท่าเทียบเรือดังกล่าว
หลังจากเกิดเหตุ ทางท่าเรือได้ทำการปิดการจราจร และสั่งอพยพพนักงาน ผู้ประกอบการบริเวณดังกล่าวออกห่างไกลจากจุดเกิดเหตุ เนื่องจากกลิ่นของสารเคมีมีกลิ่นเหม็นและฉุนมาก
นอกจากนั้น ทางผู้บริหารท่าเรือแหลมฉบังยังสั่งห้ามรถทุกชนิดเข้าออกบริเวณ (เมนเกรส) ทางเข้าท่าเทียบเรือทั้งสิ้น เนื่องจากหวั่นสารเคมีที่รั่วไหลอาจเกิดระเบิดและสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ จึงต้องป้องกันไว้ก่อน เพราะยังไม่ทราบว่าเป็นสารเคมีชนิดใดที่เกิดการรั่วไหลออกมา
นายเฉลิมเกียรติ สลักคำ ผู้อำนวยการการท่าเรือแหลมฉบัง เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางการท่าเรือแหลมฉบังได้วางมาตรการป้องกัน คือ ห้ามประชาชนและรถยนต์เข้าไปใกล้บริเวณดังกล่าวก่อน เพราะยังไม่ชัดเจนว่าเป็นสารอะไร แต่ล่าสุดสามารถตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่บริษัท ESCO พบว่า เป็นสารกลุ่ม 5.1 (เป็นสารฟอกขาว) ใช้ในขบวนการฆ่าเชื้อ ชื่อว่า Bromine ซึ่งไม่มีอันตรายแต่อย่างใด
สำหรับสารดังกล่าวได้มีการขนย้ายไว้ที่ท่า B3 ในช่วงเช้าของวันนี้ (25 พ.ย.) และในช่วง 13.00 น.จะนำไปเก็บไว้ที่คลังสารอันตราย แต่ในช่วงเวลา 15.00 น.ได้เกิดการรั่วไหลออกมาจนฟุ้งกระจายไปทั่วท่าเรือ B3 และท่าเทียบเรือใกล้เคียง โดยสารดังกล่าวบรรจุในถังภายในตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งมีน้ำหนักทั้งสิ้น 22 ตัน โดยในเบื้องต้น คาดว่า จะเกิดการรั่วไหลเพียงบางถังเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากควบคุมสถานการณ์ได้ จะส่งหน้าที่เข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง
นายเฉลิมเกียรติ กล่าวต่อว่า ในช่วงแรกเกิดความวุ่นวายเล็กน้อย เพราะไม่ทราบเป็นสารเคมีชนิดใด แต่ทางท่าเรือได้ประสานรถน้ำและรถโฟมจากเทศบาลในพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 10 คัน ช่วยระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในวงจำกัดแล้ว
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังผู้ว่ารชการจังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งว่า ยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่จะส่งหน้าเข้าไปตรวจสอว่าเกิดอระไรขึ้น
อนึ่ง สาร Bromine จัดเป็นสารอันตรายต่อสุขภาพอนามัยหากสัมผัสทางหายใจ โดยการหายใจเอาไอของสารนี้เข้าไปจะมีฤทธิ์กัดเนื้อเยื่อในร่างกายทั้งหมด ทำให้เกิดแผลไหม้อย่างรุนแรง การหายใจเข้าไปในปริมาณมากเกินจะทำให้เกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรง และทำลายระบบทางเดินหายใจและปอด มีอาการปวดศีรษะ วิงเวียนศีรษะ ไอ เจ็บคอ หายใจติดขัด เลือดกำเดาไหล ปอดบวม และปวดท้อง
สัมผัสทางผิวหนัง การสัมผัสถูกผิวหนัง จะมีฤทธิ์กัดกร่อนทำให้ผิวหนังซีด มีอาการแผลไหม้อย่างรุนแรง เกิดแผลพุพอง ผื่นแดง และปวด การกลืนหรือกินเข้าไป จะทำให้เกิดอาการเจ็บคอ, อาเจียน, ปวดท้อง ปริมาณที่คาดว่าจะทำให้เกิดการตายได้ คือ 14 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
ถ้าสัมผัสถูกตาจะมีฤทธิ์กัดกร่อน ทำให้การมองเห็นพร่ามัว มองไม่ชัด ตาแดง ปวดตา เยื่อบุตาไหม้อย่างรุนแรง และตาถูกทำลาย