xs
xsm
sm
md
lg

นิคมฯ แหลมฉบังพ่นสารพิษหาม พนง.นับร้อยส่ง รพ.กลางดึก-ตายแล้ว 1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - พนักงานท่าเรือแหลมฉบัง และการนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ถูกหามส่ง รพ.นับ 100 กลางดึก เนื่องจากได้รับสารพิษ จากรั่วไหลของสารเคมีเมื่อช่วงเย็นวานนี้ เจ้าหน้าที่การนิคมฯ ชี้การท่าเรือฯสุดชุ่ย ไม่ยอมแจ้งว่าเป็นสารอันตราย ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว 1 ราย

วันนี้ (26 พ.ย.) เมื่อเวลา 02.30 น. ผู้สื่อข่าว ASTV ผู้จัดการได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ อ.ศรีราชา ว่าหลังจากพบสารเคมีรั่วไหลบริเวณท่าเทียบเรือ บี 3 พนักงานท่าเรือแหลมฉบังและการนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ได้สูดดมสารพิษเข้าสู่ร่างกายตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ส่งผลให้ขณะนี้พนักงานกว่า 100 รายเกิดอาการแพ้จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลกลางดึก

เจ้าหน้าที่การนิคมฯ กล่าวว่า การปฎิบัติของทางท่าเรือฯ ทำไม่ถูก เนื่องจากไม่ยอมแจ้งว่า สารเคมีที่รั่วไหล และสารเคมีตัวดังกล่าวเป็นสารอะไรกันแน่ มีฤทธิ์อย่างไร พร้อมทั้งจะมีผลกระทบอย่างไรบ้างต่อร่างกาย โดยทางท่าเรือฯ แจ้งเพียงแต่ว่าเป็นสารฟอกขาวไม่มีอันตรายแต่อย่างไร

แต่ปรากฏว่า กลางดึกพนักงานท่าเรือฯและการนิคมฯต้องหามส่งโรงพยาบาลนับร้อย พร้อมทั้งได้เรียกเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องออกปฏิบัติงาน โดยให้มีการมีการอพยพพนักงานออกนอกพื้นที่กลางดึกด่วน เนื่องจากยังไม่สมารถควบคุมสถานการณ์ได้ และสารเคมียังฟุ้งกระจาย ส่งกลิ่นเหม็นตลอดเวลา ครอบคลุมพื้นที่ในรัศมี 3 กิโลเมตร


ด้าน นายเฉลิมเกียรติ สลักคำ ผู้อำนวยการการท่าเรือแหลมฉบัง ได้แจ้งว่า ได้รับทราบจากเจ้าหน้าที่ของท่าเทียบเรือ บี 3 ว่า เป็นสารกลุ่ม 5.1 (เป็นสารฟอกขาว) ใช้ในขบวนการฆ่าเชื้อ ชื่อว่า Bromine ไม่มีอันตรายและสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่จากการสืบค้นข้อมูล สาร Bromineจัดเป็นสารอันตรายต่อสุขภาพ อนามัย หากสัมผัสทางหายใจ โดยการหายใจเอาไอของสารนี้เข้าไปจะมีฤทธิ์ กัดเนื้อเยื่อในร่างกายทั้งหมด ทำให้เกิดแผลไหม้อย่างรุนแรง

การหายใจเข้าไปในปริมาณมากเกินจะทำให้เกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรง และทำลายระบบทางเดินหายใจและปอด มีอาการปวดศีรษะ วิงเวียนศีรษะ ไอ เจ็บคอ หายใจติดขัด เลือดกำเดาไหล ปอดบวม และปวดท้อง

หากสัมผัสทางผิวหนังจะมีฤทธิ์กัดกร่อนทำให้ผิวหนังซีด มีอาการแผลไหม้อย่างรุนแรง เกิดแผลพุพอง ผื่นแดง และปวด การกลืนหรือกินเข้าไป จะทำให้เกิดอาการเจ็บคอ, อาเจียน, ปวดท้อง ถ้าสัมผัสถูกตาจะมีฤทธิ์กัดกร่อนทำให้การมองเห็นพร่ามัว มองไม่ชัด ตาแดง ปวดตา เยื่อบุตาไหม้อย่างรุนแรง และตาถูกทำลาย อย่างไรก็ตาม ปริมาณที่คาดว่าจะทำให้เกิดการตายได้ คือ 14 มิลลิกรัม/กิโลกรัม

ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวต่อว่า ในเช้าวันนี้ คงจะต้องมีการประกาศ ให้พื้นที่ท่าเรือ และการนิคมฯ เป็นเขตพื้นที่อันตราย และอาจจะมีการหยุดงาน ซึ่งขณะนี้ตนยังไม่ทราบว่าจะแจ้งให้โรงงานทุกโรงและพนักงานทราบได้อย่างไร ถึงจะทันท่วงที เนื่องจากเกรงว่าในเช้าวันนี้ จะเกิดโกลาหลอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งความคืบหน้าเพิ่มเติมว่า ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 03.30 น.พนักงานท่าเรือ บี 3 ได้เสียชีวิต ไปแล้ว 1 ราย ที่ รพ.แหลมฉบัง อินเตอร์
กำลังโหลดความคิดเห็น