xs
xsm
sm
md
lg

มุกดาหารพบมนุษย์รูสร้างอาณาจักรด้วยหินกว่า 3 ล้านก้อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มุกดาหาร - พบมนุษย์รูที่จังหวัดมุกดาหาร เป็นผู้มีความสุขอยู่ตามอัตภาพ มีจิตใจชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ขณะนี้สร้างกำแพงล้อมอาณาจักรพื้นกว่า 60 ไร่ด้วยหินขนาดเล็กใหญ่มากว่า 3 ล้านก้อน ด้วยมือล้วนๆ


ก้อนหินน้อยใหญ่ที่เรียงรายเป็นแนวรั้วที่ความสูงตั้งแต่ระดับ 2 เมตรถึง 3 เมตร เป็นระยะทางร่วม 2 กิโลเมตรเหล่านี้ เป็นฝีมือของชายแก่วัย 72 ปี ที่ร่างกายเหี่ยวย่นตามวัย และการทำงานหนักมาตลอดช่วงอายุ ผู้ที่มีชื่อว่าลุงดวง คล่องแคล่ว

คุณตาดวง คล่องแคล่ว อายุ 72 ปี บ้านเดิมอยู่ที่ในหมู่บ้านตูมหวาน ตำบลโพนงาม อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ได้ผันตัวเองมาเป็นมนุษย์รูอยู่ บนยอดเขาภูธง ที่อยู่สูงเหนือกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 270 เมตร มาเป็นเวลา 12 ปีแล้ว หลังจากที่ใช้ชีวิตในชุมชนแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ ที่บ้าน ที่นาถูกยึด ผู้คนมีแต่สวมหน้ากากเข้าหาไม่มีใครจริงใจ เมียรักมาจากไปก่อนเวลาอันควร ประกอบกับลูกหลานก็โตๆ กันหมดแล้ว ทำให้หมดห่วงภาระทางครอบครัว เลยตัดสินใจปลีกวิเวก หนีออกจากสังคมอันแสนวุ่นวาย เดินเท้ามุ่งหน้าขึ้นสู่ยอดเขาภูธง อันสูงตระหง่าน จนสามารถมองลงมาเห็นบรรยากาศด้านล่างได้ถึง 2 ประเทศ ด้วยหวังที่จะหาความสุขในบั้นปลายชีวิต โดยไม่ต้องทำอะไร เพียงตั้งใจที่จะหาเก็บของป่า ผลไม้ป่า หรืออะไรเท่าที่มีในป่าประทังชีวิต เหมือนฤๅษี หรือนักพรต นักบวชทั่วไป

แต่เมื่อขึ้นมาถึงยอดภูธงจริงๆ กลับตัดใจจากความเป็นมนุษย์ที่ยังต้องการไม่รู้จักจบสิ้นไม่ได้ เมื่อมาอยู่สักระยะหนึ่งได้มองเห็นช่องทางในการทำมาหากิน เพราะบริเวณที่มาซุกหัวนอนครั้งแรกนั้นเป็นพื้นที่ลุ่มกลางยอดเขา มีตนไม้ใบหญ้าขึ้นอย่างสวยงาม โดยไม่ต้องมีใครไปใส่ปุ๋ย หรือบำรุงดินแต่อย่างใด ด้วยความที่เป็นคนขยัน หนักเอาเบาสู้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงตัดสินสู้อีกสักตั้ง ไม่มีกินก็มันรู้แล้วรู้รอดไป

เพราะอายุก็ 72 ปีแล้ว จึงเริ่มหาพันธุ์ไม้ผล ไม้ล้มลุก พืชผักต่างๆ ที่กินได้ ปลูกลงไปในบริเวณนั้น ซึ่งรวมพื้นที่กว่า 60 ไร่ แบบที่เรียกว่าปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก โดยไม่ทำลายของป่าที่มีอยู่เดิมอยู่แล้ว ให้เสื่อมสลายไป ครั้นเมื่อลงมือปลูกพืช ผัก แล้ว กลับเป็นห่วงเรื่องไฟป่า เพราะบนยอดภูธงแห่งนี้ จะเกิดไฟป่าขึ้นทุกปี

นอกจากนั้น เมื่อถึงหน้านา ชาวบ้านก็จะต้อนฝูงวัวควายขึ้นไปหากินบนยอดภู เป็นเวลาหลายเดือนต่อปี ซึ่งวัว ควายเหล่านี้ ก็จะเข้าไปกัดกินพืชผักที่คุณตาดวงปลูกไว้ ทำให้เกิดความเสียหาย จึงตัดสินใจทำแนวรั้วกันพื้นที่ไว้ เริ่มต้นใช้ไม้ยืนต้นตาย ที่มีอยู่บนพื้นที่ มาทำรั้ว แต่ก็ไม่สามารถกันไฟป่าได้ ครั้นจะซื้อลวดหนาม หรือเสาปูน มาทำก็หมดปัญญา เพราะก่อนขึ้นไปอยู่บนยอดภูธงได้สละทรัพย์สินเงินทองไปหมดแล้ว และก็อยู่เพียงลำพังตัวคนเดียวด้วย

ในที่สุดจึงเลือกที่จะใช้หินทำกำแพงรอบพื้นที่ไร่ เพราะบริเวณยอดภูธงแห่งนี้มีก้อนหินทราย ก้อนเล็ก ก้อนใหญ่ วางอยู่เต็มไปหมด โดยเชื่อว่าถ้าใช้หินทำแพง นอกจากวัวควาย เข้าไม่ได้แล้ว ไฟป่าก็ไม่ลุกลามผ่านกำแพงหินเข้าไปสร้างความเสียหายได้ จึงเริ่มลงเก็บหินที่มีวางระเกะระกะอยู่ทั่วไปมาวางทับซ้อนกันขึ้น ใช้ก้อนใหญ่สุดไว้ด้านล่างโดยไม่ได้ใช้ปูนซีเมนต์ หรืออะไร เป็นตัวเชื่อมประสาน แล้วเรียงขึ้นไปเรื่อยๆ จุดไหนใกล้ทางวัวควายก็จะทำสูงถึง 3 เมตรก็มี บางทีกำลังทำๆ ไป กำแพงหินก็ล้มลงมาทั้งแถบก็เคยมี แต่คุณตาดวงก็ไม่ละความพยายาม โดยคิดเสมอว่าล้มได้ก็ก่อขึ้นใหม่ได้

วันนี้กำแพงหินของคุณตาดวงที่เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของคนแก่ๆ วัยไม้ใกล้ฝั่ง ได้ทอดตัวยาวไปเกือบ 2 กิโลเมตรแล้ว และคุณตายังมุ่งมั่นที่จะทำต่อไปให้สำเร็จก่อนสิ้นอายุไขให้ได้ จึงตรากตรำทำแบบหามรุ่งหามค่ำ โดยเริ่มออกหาหินมาวางทำกำแพงตั้งฟ้าสางยันฟ้ามืด วันไหนมีแสงของดวงจันทร์สาดส่อง ก็จะทำจนดึกดื่น

คุณตาตวง ถือว่าเป็นผู้โชคดีคนหนึ่ง ตั้งแต่เกิดมาจนถึงอายุ 72 ปีในปีนี้ ไม่เจ็บป่วยถึงกับต้องล้มหมอนนอนเสื่อ ถึงแม้จะเป็นคนร่างเล็ก น้ำหนักตัวเพียง 41 กิโลกรัมเท่านั้น เมื่อเทียบกับก้อนหินที่ยกขึ้นทำกำแพง ห่างกันนับร้อยเท่า เพราะบางก้อนมีน้ำหนักถึง 500 กิโลกรัม

ส่วนอาหารการกินก็กินตามมีตามเกิด มีอะไรก็กินเท่าที่หาได้ในไร่ของตน โดยไม่ต้องเน้นในเรื่องของรสชาด ด้วยคิดเสมอว่ากินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน แต่ที่ขาดไม่ได้คือกล้วยน้ำหว้า คุณตาบอกต้องกินตลอด ทั้งประทังความหิวและเชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะเป็นอย่างดี

ส่วนน้ำดื่มคุณตาต้องต้มดืมตลอดไม่ดื่มเหล้าและไม่ดูดบุหรี่ ส่วนที่หลับที่นอนนี่สิแปลก เหมาะสมที่จะได้ชื่อว่ามนุษย์รูตัวจริง เพราะคุณตาได้ใช้โพรงหินขนาดใหญ่มาดัดแปลงเป็นที่หลับนอน หุงหาอาหาร ห้องครัว ห้องน้ำ ในตัวเสร็จ ด้านข้างใช้แผ่นหินมาก่อทำช่องระบายอากาศพอได้หายใจ แต่ต้องคลานเข้าไปเพราะผนังด้านบนสูงแค่ไม่ถึง 1 เมตร ลึกจากปากรูเข้าไปประมาณ 20 เมตรก็จะเป็นที่นอนของคุณตา

ส่วนแสงสว่างภายในรูคุณตาจะใช้ความคุ้นเคยเป็นหลัก หรือจำเป็นจริงๆ ก็จะใช้ยางรถจักรยานจุดเป็นไฟส่องทาง จึงทำให้ภายในรูมีเขม่าควันดำและกลิ่นเผายางตลบอบอวนไปหมด แต่ก็น่าแปลกที่คุณตาไม่เจ็บป่วย แต่กว่าที่จะเข้าไปในรูของคุณตาได้ ต้องใช้เวลาในการเปิดประตูนานนับ 20 นาที เพราะประตูรูคุณตาปิดไว้มิดชิดมาก ทั้งด้วยต้นไม้นับร้อยต้น และข้างในยังเป็นสังกะสีปิดทับซ้อนอีกหลายชั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยถูกหัวขโมยเข้าไปลักเครื่องมือทำงานไปชิ้นหนึ่ง จึงทำให้ไม่ไว้ใจใคร นอกจากคุณตาจะเป็นคนขยัน หนักเอา แต่เบายังไม่เคยพบ เพราะยกหินมาตลอดแล้ว

คุณตายังเป็นคนมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น เห็นได้จากคุณตาได้ใช้ความพยายามอย่างสูงที่จะขูดทำเส้นทางรอบภูเขาให้กับเพื่อนบ้านที่มีที่ไร่ ที่นา อยู่อีกฟากเขาให้ได้สัญจรผ่านไปได้สะดวกขึ้น คุณตาได้ขุดเอาหินที่ขวางทางเหล่านั้นออกให้ เป็นระยะทางหลายรอยเมตร ถ้าคิดเป็นค่าแรงคงหลายแสนบาท แต่คุณตาก็ไม่เคยเรียกร้องขอจากใคร

นับตั้งแต่คุณตาดวง เริ่มลงมือทำกำแพงหินและใช้ชีวิตในรูมากว่า 12 ปีแล้ว คุณตาบอกว่ามีความสุขและพอใจ เราทำเราได้ วันไหนไม่ทำสิเหนื่อย และตั้งจะทำงานหนัก (ยกหิน) ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่




กำลังโหลดความคิดเห็น