xs
xsm
sm
md
lg

ซัดแดงก่อม็อบทำศก.สะดุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พรรคได้วิเคราะห์ผลกระทบทางการเมืองต่อระบบเศรษฐกิจ โดยขณะนี้ปรากฏว่า ในไตรมาส 4 เศรษฐกิจฟื้นตัวเป็นบวกอย่างแน่นอน จากดัชนี 6 ตัว คือ 1.ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ สูงขึ้นจากความสำเร็จในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน 2.ยอดขอส่งเสริมการลงทุน จากบีโอไอมาจำนวน 4 แสนล้านบาท และคาดว่ามีธุรกิจจากจีนและฮ่องกงเพิ่มขึ้น ในปี 2553 เป็นมูลค่า 5 แสนล้านบาท 3.การใช้กำลังภาคการผลิตภาคอุตสาหกรรม เพิ่มเป็นร้อยละ 60 4.การใช้จ่ายภาครัฐ จากโครงการไทยเข้มแข็ง5.เกิดการสร้างงาน เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้อัตราการเลิกจ้างลดลง การจ้างงาน ร้อยละ 4 เป็นปกติ 6.ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานว่าเดือนส.ค.-ต.ค.มีการ ปล่อยสินเชื่อ ในภาคธุรกิจขนาดเล็กและกลาง เพิ่มจากติดลบในไตรมาส 3 เป็นบวกร้อยละ 1.3
นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า จากตัวเลขดัชนีทั้งหมดทำให้เห็นว่าตัวเลขเศรษฐกิจ ในปีนี้เป็นบวก ส่งผลให้ปี 2553 ที่มีการประมาณการตัวเลขการเจริญเติบโต ทางเศรษฐกิจจากเดิมประมาณ ร้อยละ 3-5 เพิ่มเป็นร้อยละ 3.3-5.3 แต่ขณะนี้เกิดปัจจัยเสี่ยง 3 ข้อคือ 1.ประเทศเพื่อนบ้าน ถูกดึงเป็นเครื่องมือทางการเมือง ทำให้เกิดความกังวล ในความสัมพันธ์กับมิตรประเทศ 2.ความกังวลเรื่องนี้กลุ่ม นปช.ประกาศจะชุมนุมยืดเยื้อในเดือนธ.ค.ที่กระทบดัชนีความเชื่อมั่น เป็นการประกาศข่าวร้ายประจำเทศกาลลอยกระทง ที่จะมีการวัดการใช้จ่ายของเทศกาล 3.มีแนวโน้มประกาศใช้สื่อเป็นเครื่องมือปลุกระดม โดยเฉพาะเรื่องทีวี 100 ช่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศไว้ แม้จะบอกว่าไม่มีเรื่องการเมือง แต่ประชาธิปัตย์วิเคราะห์ว่า เป็นการเรียกแขกให้คนมาชม แล้วใช้เป็นเครื่องมือปลุกระดม เพราะเห็นได้จากการทวิตเตอร์ หรือดีสเตชั่น ที่มีการพาดพิงองคมนตรี ดังนั้นจาก 3 ปัจจัยนี้ อาจจะทำให้เศรษฐกิจไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้ตามที่คาดการณ์ไว้
นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง และในฐานะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำเสื้อแดง ประกาศชุมนุมใหญ่ในเดือนธ.ค.โดยประกาศจะยึดทำเนียบรัฐบาล และล้มล้างรัฐบาล ว่า ขอวอนให้นายจตุพร อย่าถ่วงความเจริญของประเทศ เพราะการที่นายจตุพรไล่รัฐบาล โดยใช้พฤติกรรมที่ไม่แสดงออกในแง่ความคิด แต่ต้องการเปลี่ยนแปลงอำนาจให้กลับไปอยู่ฝ่ายตนเอง โดยสถานการณ์ของประเทศที่มีตัวเลขทางเศรษฐกิจเป็นบวก งบประมาณต่างๆเริ่มจะลงไปถึงประชาชน หากนายจตุพรยังใช้พฤติกรรมดังกล่าว เท่ากับเป็นตัวถ่วงประเทศ
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แค่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะชุมนุมตลอดเดือน ธ.ค. คนไทยทั้งประเทศก็ขวัญผวา และตนก็ไม่อยากให้ผันร้าย ของคนไทยกลับมาอีก ซึ่งการประกาศชุมนุมปิดหน้าทำเนียบรัฐบาล และบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เป็นเป้าหมายทางการเมืองชัดเจนว่า ต้องการให้แตกหัก และต้องการล้มล้างรัฐบาล หากดูประเด็นการเคลื่อนไหว ของคนเสื้อแดง ก็ไม่มีประเด็นอะไรให้มวลชนมาเข้าร่วมเลย
นายเทพไท กล่าวว่า สิ่งที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย อ้าง 5 ประเด็น คือ 1.รัฐบาลเข้ามาโดยไม่ชอบธรรมนั้น การที่นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เข้ามาเป็นรัฐบาล ด้วยสภาและรัฐธรรมนูญเดียวกัน ชอบธรรมมากกว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ตรงไหน 2.ที่บอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเป็นเผด็จการ แต่เมื่อต้องการแก้ไข คนเหล่านี้ก็ล้มกระดานไม่เข้าร่วมด้วย อยากถามว่า จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร เพราะเป็นตัวถ่วงอย่างนี้ 3.อ้างว่ารัฐบาลชุดนี้ทุจริต แต่รัฐบาลก็พร้อมให้การตรวจสอบ แต่เมื่อให้นำหลักฐานมายืนยันก็ไม่มี ตนอยากเรียกร้องว่า หากต้องการตรวจสอบ ก็ขอให้ใช้กลไกของรัฐสภา ในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจทันทีในการเปิดประชุมสมัยหน้า และยืนยันว่ารัฐบาลไม่ยุบสภาหนีการอภิปรายอย่างแน่นอน
4.อ้างว่ารัฐบาลไม่มีผลงาน มีแค่กระดาษเพียง 2 แผ่น เท่านั้น ตนไม่ทราบว่า ทีมงานพวกนี้ไปมุดหัวที่ไหน เพราะรัฐบาลทำผลงานรอบแรกในช่วง 6 เดือนแรก โดยจัดทำเป็นหนังสือใช้ชื่อว่า กว่าร้อยมาตราการ หลายล้านความสุข และอยากให้ทีมโฆษกเพื่อไทยไปหาอ่านดู หากหาไม่ได้ จะให้ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ส่งไปให้ หรืออ่านแล้วไม่เข้าใจก็ให้ไปต้มนำดื่ม เพื่อให้ซึมซับเข้าไป เพื่อจะได้รู้ว่ารัฐบาลมีผลงานอะไรบ้าง การเทียบผลงานของรัฐบาล 8 เดือน กับ 8 ปี กับรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในเงื่อนเวลาจำกัด ตนมั่นใจว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์มีผลงาน ที่แตะต้องได้
5.ที่กล่าวหาว่าเศรษฐกิจไทยไม่ดี ตนอยากถามกลับว่า เศรษฐกิจของใครไม่ดี ถ้าเป็นเศรษฐกิจของแกนนำเสื้อแดงไม่ดี เงินในกระเป๋าขาดสภาพคล่อง คงต้องไปแก้ปัญหากับนายใหญ่ที่ดูไบ หรือไม่ก็จัดงบหักค่าหัวคิวในแต่ละครั้งที่ไปหา ก็อาจจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น แต่เศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมขอยืนยันว่าดีขึ้น โดยดัชนีไตรมาส 4 ดีแน่นอน
การที่คนเสื้อแดงประกาศปิดล้อมทำเนียบฯญ โดยใช้เวลานานนับเดือน กว่าจะได้รับชัยชนะ และจะระดมคนให้ได้นับล้าน เป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อ ราคาคุย แต่เราก็ไม่ประมาท และพร้อมที่จะรับมือ และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเชื่อว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ต้องใช้เงินอย่างมหาศาล และการประกาศว่าจะใช้เงิน 18 ล้านบาท ผมบอกได้เลยว่าวันเดียวก็หมดแล้ว เพราะการชุมนุมครั้งหนึ่งหมดที 10 ล้านบาท และจากการแจ้งจากสายข่าวที่อยู่ในกลุ่มคนเสื้อแดง บอกว่าใช้เงินวันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท หากชุมนุมเป็นเดือนก็ต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท จะหาทุนกี่ครั้งถึงจะได้ 300 ล้านบาท ถ้าไม่ไปขอทุนที่ดูไบ เพราะการจัดระดมทุนเมื่อวันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา เตรียมที่นั่งไว้ 1,640 ที่นั่ง แต่มีผู้เข้าร่วมเพียง 200 คน ขายบัตรไม่ได้ ขาดทุนยับเยิน อาหารบูดเน่าเสีย ถ้าจะระดมทุน 18 ล้านบาท หรือ 300 ล้านบาท ก็ใช้เวลานาน หรือเป็นเพียงฉากบังหน้า หรือพิธีกรรม เพื่อไม่ใช้สังคมตรวจสอบได้ นายเทพไทกล่าว
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมเปิดทีวี 100 ช่อง ซึ่งตนฟังแล้วรู้สึกตื่นเต้น แต่เชื่อว่าเป็นแผนการตลาด ธรรมดาที่พ.ต.ท.ทักษิณถนัด และเชื่อว่าคนมีเงินทำอะไรก็ได้ เพราะเงินที่ได้มา เป็นเงินโกง ไม่ใช่เงินจากน้ำพักน้ำแรง ดังนั้น การใช้เงินหวังผลทางการเมืองจึงไม่รู้จักเสียดาย แต่รัฐบาลจะไม่ปิดกั้น หากไม่มีการกระทำผิดกฎหมาย เชื่อว่าทีวี 100 ช่อง ไม่ร้ายเท่ากับช่องเดียว คือช่องปากของ พ.ต.ท.ทักษิณ และหากปิดได้บ้านเมืองก็จะสงบสุข
ส่วนที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมากล่าว ว่า การเปิดที่วี 100 ช่อง ไม่หวังผลทางการเมืองนั้นพฤติกรรมที่ผ่านมา พิสูจน์ได้ว่า ไม่เป็นความจริง ซึ่งนายนพดลจะไปอมโบสถ์ อมวิหาร มาพูดก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะเป็นนิสัยของพ.ต.ท.ทักษิณที่ทำอะไรต้องหวังผลตอบแทน หวังกำไรจากการลงทุน ดังนั้น การลุงทุนทีวี 100 ช่อง ใช้เงินหลายร้อยล้านโดยไม่หวังผลทางการเมือง จึงเป็นไปไม่ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น