“หมิว” เหน็บจะขุดหลุมเอาศพผู้กำกับมาคุย ถ้าไม่เชื่อใช้สแตนด์อินแก้ผ้า-เลิฟซีนหนังแผ่น มั่นไม่ทำมิสทีนฯเสียชื่อ เพราะเปล่าเป็นเมียน้อยใคร

“หมิว” ยันไม่ได้เล่นฉากโป๊เปลือย-เลิฟซีนเองในหนังแผ่นนางเงือก แต่ใช้สแตนด์อิน เนื่องจากยังเด็กและว่ายน้ำไม่เป็น บอกเอาผู้กำกับมาช่วยการันตีไม่ได้ เพราะเสียชีวิตไปแล้ว เหน็บจะให้ไปขุดหลุมเอาศพมาช่วยยันมั้ย พร้อมลั่นเปล่าทำเวทีมิสทีนฯเสียชื่อ เพราะไม่ได้ขอใครกินหรือเป็นเมียน้อยใคร มั่นทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว แขวะสื่อทีรับปริญญาได้เกียรตินิยมไม่เคยมาทำข่าว แต่พอฉาวปุ๊บรีบทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต โต้โดนผู้ใหญ่ 7 สีแบนงาน

ตั้งแต่มีภาพหลุดสุดวาบหวิวทั้งเปลือยอก แก้ผ้า เลิฟซีนร้อนฉ่า ในหนังแผ่นราคาถูก 15 บาทเรื่อง “มนต์รักนางเงือก” โผล่ออกมา และดาราสาว “หมิว สิรัลภัส กองตระการ” รองอับดับ 2 มิสทีนไทยแลนด์ปี 2003 เคยให้สัมภาษณ์กับบันเทิงผู้จัดการออนไลน์เพียงสั้นๆว่า การันตีไม่ได้เล่นฉากโป๊เปลือย รวมไปถึงฉากเลิฟซีนเอง แต่ใช้สแตนด์อินเล่นแทนทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่สามารถเอาตัวผู้กำกับมาช่วยคอนเฟิร์มได้ เนื่องจากได้เสียชีวิตลงไปแล้ว

หลังจากนั้นสาว “หมิว” ก็เอาแต่เก็บตัวเงียบไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆอีก แม้ทางบันเทิงผู้จัดการออนไลน์จะเคยไปรออยู่หลายชั่วโมง และเจอตัวเป็นๆ ของเธอแล้ว และพยายามขอคำชี้แจงเรื่องดังกล่าว แต่ “หมิว” ได้บอกปัดปฏิเสธ โดยอ้างเพิ่งให้สัมภาษณ์แบบเปิดใจกับนิตยสาร “เมาท์ซี่” ที่เป็นหนังสือในเครือบริษัท อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นต้นสังกัดของเธอไป และจะขอให้สัมภาษณ์เพียงครั้งเดียวและเล่มเดียวเท่านั้น เนื่องจากทางนิตยสารดังกล่าวเป็นคนเปิดประเด็นภาพหลุดนี้ออกมา พร้อมไล่ให้บันเทิงผู้จัดการออนไลน์ไปอ่านคำตอบเอาเองจากนิตยสารเล่มนี้ ที่มีกำหนดวางแผงวันที่ 1 พ.ย.

แต่ล่าสุดผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอหน้า “หมิว” อีกครั้งในงานเปิดตัวแคมเปญ “โชค 2 ชั้น ดาร์ลี่ 2 พลังมินต์” ที่ บิ๊กซี ราชดำริ วันก่อน เมื่อสอบถามถึงประเด็นภาพหลุด สาว “หมิว” ยอมเปิดเผยข้อมูลบางส่วนให้ฟัง โดยอ้างไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องที่จบไปนานแล้ว และผู้ใหญ่ไม่ให้พูดมาก ก่อนยันไม่ได้แก้ผ้าเปลือยอกเล่นหนังแผ่น เนื่องจากยังเด็กและว่ายน้ำไม่เป็น

“คือหมิวได้ไปคุยกับทางหนังสือที่ลงแล้วค่ะ ก็เดี๋ยวเขาจะลงสัมภาษณ์เรื่องทั้งหมดที่เป็นเรื่องจริงให้ เป็นเรื่องที่ออกมาจากปากหมิวเอง มีทั้งรูปมีหลักฐานพร้อมอยู่ในหนังสือแล้วค่ะจริงๆ อยากให้ไปอ่านตรงนั้นมากกว่า เพราะว่าหมิวไม่อยากพูดซ้ำหลายที”

“เอาเป็นว่าพี่ลองอ่านในหนังสือดีกว่า ผู้ใหญ่ไม่ให้พูดด้วยซ้ำ เพราะเขาอยากให้ทีเดียวแล้วก็จบเลย มีหลายคนพยายามจะมาสัมภาษณ์เยอะเหมือนกัน แต่หมิวก็พยายามขอเถอะค่ะ เพราะว่าอยากพูดทีเดียวแล้วให้มันจบ หมิวก็ไม่อยากมานั่งรื้อฟื้น หรือมานั่งต่อความยาวสาวความยืดอีกแล้ว คือหมิวได้คุยได้เคลียร์กับทางหนังสือที่เป็นต้นเรื่องแล้วค่ะ ก็อยากจะให้เกิดตรงนั้นและจบตรงนั้น”

“แต่ยังไงก็ยืนยันว่าที่เห็นเป็นโป๊เป็นเปลือยไม่ใช่หมิวจริงๆ ค่ะ คือหมิวว่ายน้ำไม่เป็น คิดสภาพดูว่าถ้าเกิดให้หมิวไปใส่ชุดนางเงือกอย่างนั้นลงไป หมิวคงตายก่อน (หัวเราะ) และเราใส่เกาะอกเซฟไว้ตลอด แต่ที่เห็นว่าโป๊นี่ เป็นภาพคนอื่นนะคะ ถ้าเกิดดูดีๆ จะเป็นฉากคนอื่นทั้งหมดเลย จริงๆ แล้วหมิวแทบจะไม่มีฉากไหน ที่มันเป็นฉากวาบหวิวสยิวกิ้วอย่างนั้นเลยค่ะ”

“ถ้าอันที่เห็นไม่ใช่หมิว ฉากเลิฟซีนก็ไม่ใช่หมิวแน่นอน ไปดูได้เลย เพราะตอนนั้นหมิวเพิ่งอายุ 15-16 เองนะคะ คงไม่ใจกล้าขนาดนั้น และที่หมิวรับเล่นเพราะคุณแม่ไปด้วยตลอด จริงๆ ต้องดูนะคะฉากที่เขาตัดมาในข่าว มันเป็นฉากของคนอื่นทั้งหมดเลย ฉากของหมิวมีแบบว่ายน้ำเอาผลไม้ไปให้พระเอก ไม่ได้มีฉากที่โอ้โหโจ๋งครึ่มอะไรขนาดนั้น แม่ก็คงไม่ให้เล่นเหมือนกัน (หัวเราะ)”

เผยหนังเปลี่ยนบทไปจากที่ตกลงกันไว้ตอนแรก พร้อมยันไม่สามารถเอาตัวผู้กำกับมาช่วยการันตีได้ว่า ตนไม่ได้โป๊จริง เนื่องจากเสียชีวิตไปแล้ว เหน็บถ้าไม่เชื่อให้ไปขุดหลุมเอาศพมานั่งคุยกันดู

“จริงๆ ตอนที่ตกลงครั้งแรก มันไม่ใช่หนังประเภทนี้เลยค่ะ ถ้าจำได้ช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่หนังวีซีดีกำลังพีค คือเรื่องนี้ลงทุนกันเป็นล้านๆ นะคะ ทีมงานที่มาทำก็เป็นทีมงานที่มาจากการกำกับโฆษณา กำกับเอ็มวีมาก่อน และเราก็ไม่คิดว่าหนังมันจะออกมาเป็นแบบนี้ เพราะว่าหลังจากที่ถ่ายเรื่องนี้จบ ก็ไม่ได้ติดต่อกับใครเลยค่ะ และมาสเตอร์ก็หายไป บริษัทที่ทำก็ไม่ได้เอาไปทำต่อ”

“ส่วนตัวผู้กำกับก็เสียชีวิตแล้วค่ะ พูดจริงๆ บอกได้เลยว่าเสียชีวิตแล้ว(เน้นเสียง) แต่ถ้าไม่เชื่อจะให้ทำยังไงดีล่ะ จะให้ไปที่วัดขุดหลุมเอาศพขึ้นมานั่งคุยกันเลยมั้ย มันก็ไม่ได้ถูกมั้ยคะ ส่วนทีมงานก็ไม่เคยได้ติดต่อกันแล้ว ยกเว้นพี่ผู้ช่วยผู้กำกับ ซึ่งวันนั้นเขาก็ไปให้สัมภาษณ์ที่หนังสือ เมาท์ซี่ ด้วย”

ไม่คิดตัวเองทำสิ่งที่ผิดพลาด เพราะเป็นงานสุจริตที่หาเงินได้ เปล่าไปขอใครกิน หรือไปเป็นเมียน้อยใคร

“ตอนนั้นที่เล่นหมิวอายุ 15-16 ตอนนี้หมิว 23 ก็ผ่านมา 7 ปีแล้ว ถึงยังไงหมิวก็ไม่ถือว่าเป็นความผิดพลาดค่ะ หมิวทำทุกงานอย่างเต็มที่ แล้วงานที่หมิวทำ หมิวก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นงาน ที่ทำให้ภาพลักษณ์ดูไม่ดีอะไรยังไง”

“คือหมิวเห็นแล้วว่ามันเป็นงาน ที่สามารถหาเงินให้เราได้ และก็ไม่ได้เอาตัวเข้าแลก ไม่ได้ไปเป็นเมียน้อยใคร ไม่ได้ไปขอเงินใครกิน หมิวก็ทำของหมิวเอง ก็ได้เงินด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง แล้วก็เป็นงานที่หมิวบริสุทธิ์ใจที่จะทำ ไม่ได้ตั้งใจที่จะปกปิด จะปิดบังหรืออะไร ถ้าหมิวตั้งใจจะปกปิดหรือปิดบัง ป่านนี้หมิวคงหายไปแล้ว ไม่พูด ไม่อะไรทั้งสิ้น แต่ต้องออกมาพูดเพื่อให้ได้รู้ว่าความจริงมันเป็นยังไง”

ลั่นเปล่าทำเวทีมิสทีนไทยแลนด์ เสียชื่อ เพราะไม่ได้โป๊ทำตัวน่าเกลียด โบ้ยข่าวทำเสียเอง

“จริงๆ มันไม่เกี่ยวกันนะคะ ที่ว่าเรามีเหตุการณ์อย่างนี้จะทำให้เวทีมิสทีนเสียชื่อ คือการที่เรามาประกวด จริงๆเด็กมันมีเป็นพันๆ หมื่นๆ คน จะมานั่งสืบประวัติทุกคนมันก็คงไม่ใช่ และหมิวบอกได้เลยว่าเรื่องของหมิว คือหมิวไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเสียหาย ทำความเสื่อมเสียอะไรขนาดนั้นนะคะ นอกจากข่าวจะเอามาเขียนให้มันเสียเอง จริงๆ หมิวว่ามันก็เป็นงานๆ นึง และมันก็ไม่ได้เป็นงานที่น่าเกลียดหรือว่าโป๊ หมิวไม่ได้ไปเล่นแบบนั้นจริงๆ”

“แต่ก็เข้าใจนะคะว่าต่างคนต่างมาแต่ละที่ มันไม่มีทางที่จะไปรู้ว่าทุกคนต้องเป็นอย่างนี้ๆ หรอกค่ะ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ที่จะต้องรู้ตื้นลึกหนาบางขนาดนั้น เรื่องบางเรื่องมันอาจจะเกิดขึ้นมาแล้ว จบไปแล้ว ก็ไม่ควรรื้อฟื้นขึ้นมาอีกพอมาดังหรือว่าพอเริ่มมีผลงาน คือหมิวว่ามันเป็นเหตุผลส่วนบุคคลที่เขาทำลงไป แต่ทุกคนที่ทำอะไร ที่ลงมือทำไปแล้ว เขาต้องคิดก่อนแล้วล่ะค่ะว่า ผลที่ตามมามันจะเป็นยังไงบ้าง หมิวว่าน้องๆ บางคนอาจจะไม่ได้ตั้งใจเข้ามาประกวดเลยก็ได้”

บอกถึงมีคนแกล้งปล่อยภาพ ก็ทำอะไรตนไม่ได้อยู่ดี เชื่อทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว กัดสื่อทีเรื่องดีของตนไม่เคยนำเสนอข่าว พอฉาวกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่โต

“คิดว่ามีคนแกล้งมั้ยเหรอ ถ้ามีคนแกล้งจริงนะคะ บอกได้เลยว่าเขาทำอะไรหมิวไม่ได้หรอก เพราะว่าหมิวหนักแน่นพอ และเชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปเป็นสิ่งที่ถูก เพราะหมิวไม่ได้ไปขอใครกิน ไม่ได้ไปขอเงินคนที่เขาคิดจะทำลายชื่อเสียง หรือว่าจะดิสเครดิตหมิว อันนี้มันเป็นงานสุจริต มันเป็นงานๆ นึงที่เราทำ และหมิวรู้สึกว่าหมิวบริสุทธิ์ใจที่จะทำ ไม่ได้เห็นว่าผลที่ออกมามันจะกลายเป็นหนังอะไรแบบนี้”

“แต่ก็ยอมรับว่าฟีดแบคกับเรื่องนี้ทำให้ชีวิตเป๋ไปเหมือนกัน บอกได้แค่นี้ ก็ช่วยบอกทุกคนด้วยว่า บางทีพี่ๆ ก็สงสารน้องบ้าง(หัวเราะ) มันก็มีผลกระทบนิดนึงค่ะ แต่ก็พยายามเข้มแข็ง เพื่อนรอบข้าง คนในครอบครัว และพี่ๆจากในเว็บบอร์ดหรืออะไรที่รู้จักกัน หรือเขาเคยให้กำลังใจเรา เขาก็เข้าใจค่ะ ครอบครัวก็ไม่ว่ายังไง ก็จะมีคนมาถามบ้าง คือคุณแม่จะไปกับหมิวที่กองถ่ายตลอด เขาก็ต้องคอยตอบคำถาม ซึ่งหมิวไม่อยากให้เขามาเหนื่อยกับการตอบคำถาม ก็ถ้ามีอะไรจะถาม ก็มาถามหมิวเถอะ(หัวเราะ)”

“หมิวก็เสียใจและน้อยใจมากค่ะ เพราะอย่างที่บอกหมิวก็ทำตัวดีๆ ตอนหมิวรับปริญญาได้เกียรตินิยมอันดับ 2 ไม่มีพี่ๆ นักข่าวไปทำข่าวเลย ยกเว้นช่อง 7 กับยูบีซีและสยามกีฬา แต่พอมีข่าวนี้ออกมาโอ้โหเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต บางทีก็อยากให้ดูเรื่องที่หมิวทำดีบ้าง อย่างเรื่องละครที่กำลังจะมี ก็อยากให้ทำข่าวเรื่องงานบ้าง เพราะว่าเรื่องแบบนี้มันจบไปนานแล้ว”

ยันภาพหลุดไม่มีผลกระทบต่อเรื่องงาน และไม่รู้เรื่องข่าวถูกผู้ใหญ่ 7 สีสั่งแบนงาน

“ข่าวมีผลกระทบกับงานมั้ยก็ไม่นะคะ หมิวก็ยังทำงานปกติใช้ชีวิตปกติอยู่ ตอนนี้หมิวถ่ายละครเรื่อง “นักฆ่าขนตางอน” แล้วก็ “เพลงรักทะเลใต้” และก็เป็นพิธีกรอยู่ 2 รายการ งานก็ทำมาตลอดอยู่แล้วนะ แต่ว่าไม่มีข่าวเท่านั้นเอง(หัวเราะ) มามีข่าวไอ้แบบนี้แหละ งานที่ทำอยู่ไม่ค่อยมีคนมาถามเท่าไหร่หรอก”

“ผู้ใหญ่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะคะ ไม่มีผลกระทบอะไรเลยค่ะ เพราะว่างานนี้เป็นงานที่นานแล้วและจบไปนานแล้วก่อนที่จะมาเซ็นสัญญาอีก และเราก็ชี้แจงทางผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้ว แต่ตรงนี้หมิวไม่ขอพูดถึงดีกว่า เพราะว่าเป็นเรื่องของทางผู้ใหญ่ มีข่าวว่าช่อง 7 จะแบนงานเหรอคะ อันนี้ไม่ทราบนะคะ ไม่เคยได้ยิน คือเรื่องนี้เป็นส่วนของผู้จัดการหมิวเข้าไปคุย ก็เลยไม่รู้รายละเอียด ขอไม่พูดตรงนี้ดีกว่า”

เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก