ระยอง-ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ประชุมคณะแพทย์หาข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของพยานคดีฟ้องศาลปกครองกลาง สรุปเกิดจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
เย็นวันที่ 20 พ.ย. นายสยุมพร ลิ่มไทย ผวจ.ระยอง เป็นประธานการประชุม กรณีนางสุรินทร์ หรือ ป้า เตี้ย ขมหงส์ อายุ 59 ปี เลขที่ 36 ต.มาบข่า อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง และเป็นพยานสำคัญคดีชาวบ้านมาบตาพุด 43 รายฟ้องศาลปกครองกลาง จนมีคำสั่งระงับชั่วคราว 76 โครงการ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ได้เสียชีวิต มีนายแพทย์บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.ระยอง นายแพทย์ สุรทิน มาลีหวล ผอ.รพ.มาบตาพุด แพทย์หญิงจิรภา มะลิขาว รพ.ระยอง ฯลฯ เข้าร่วมนายแพทย์ชาติวุฒิ จดจำ แทย์อาชีวะเวชศาสตร์ โรงพยาบาลระยอง ประชุมชี้แจงการเสียชีวิตครั้งนี้
ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่ากรณีเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก แถลงข่าวว่าผู้เสียชีวิตจากเหยื่อสารพิษเพิ่มอีก 1 ราย คือนางสุรินทร์ หรือป้าเตี้ย ขมหงส์ และเป็นพยานที่ต้องไปให้การต่อศาลปกครองกลางกรณีระงับชั่วคราว 76 โครงการ หลังมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของนางสุรินทร์ สรุปได้ว่าประวัติผู้เสียชีวิตเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลระยองเมื่อปี พ.ศ. 2546 แพทย์พบอาการวิงเวียนศีรษะ อาเจียน ต่อมาปี 2547 เข้ารับการรักษาต่อเนื่องพบมีอาการผื่นคัน ปวดเข่า ปวดข้อมือ แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคภูมิแพ้หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “โรคพุ่งพวง” มีการรักษารวมทั้งสิ้น 43 ครั้ง คณะแพทย์ได้รวบรวมข้อมูลของป้าเตี้ยสรุปว่าการเสียชีวิตของป้าเตี้ย เนื่องจากเป็นโรคเรื้อรังหลายโรค คือ โรคภูมิแพ้ตัวเอง โรคโลหิตจาง และโรคหัวใจล้มเหลว การเสียชีวิตเกิดจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
แพทย์หญิง จิรภา กล่าวว่าผู้เสียชีวิตเป็นโรคโลหิตจางหรือ ทาลัสซิเมีย และโรคเอสแอลอี กับโรคหนังแข็ง ทำให้เกิดโรคหัวใจตามมา ส่วนโรคทาลัสซิเมียเกิดจากโรคโลหิตจางเรื้อรัง ขาดออกซิเจนจนทำให้หัวใจโต ผู้เสียชีวิตรายนี้เข้ามารับเลือดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เนื่องโลหิตจาง ระยะหลังมีอาการหัวใจวายบ้าง เช่น ตัวบวม ขาบวม หนังตาบวมและมีอาการเหนื่อย ต้องให้ยาขับปัสสาวะเป็นระยะ หลังสุดพูดคุยกับหมอโลหิตวิทยาที่ให้เลือดกล่าวว่า ผิวหนังมีลักษณะโรคเอสแอลอีกับหนังแข็ง แต่ไม่มีการติดเชื้อ หลังจากนั้นผ่านไป 1 สัปดาห์ลูกชายผู้เสียชีวิตเล่าอาการให้ฟังว่า คนไข้บ่นอ่อนเพลียแล้วเข้านอน ตื่นเช้ามาพบว่าเสียชีวิตแล้ว
นายแพทย์ชาติวุฒิ จำจด แพทย์อาชีวะเวชศาสตร์ โรงพยาบาลระยอง เรื่องฝนกรดนั้น มีผลต่อสุขภาพคือทำให้เกิดการระคายเคือง โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ ดูจากประวัติไม่มีในส่วนของโรคทางเดินหายใจ สาเหตุการตายไม่น่าเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมในจังหวัด น่าจะเป็นผลแทรกซ้อนโรคเดิมของผู้ป่วยมากกว่า เป็นเรื่องของระบบการทำงานหัวใจล้มเหลว ไม่เคยมีในรายงานว่าโดนฝนกรดแล้วทำให้เสียชีวิต
นายบัญญัติ เจตนจันทร์ กล่าวว่าปัจจุบันยังขาดสถาบันอาชีวะเวชศาสตร์ อยากเรียกร้องให้รัฐบาลจัดตั้งสถาบันอาชีวะเวชศาสตร์ มีความเชี่ยวชาญการรักษาโรคฉุกเฉินจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม และมีความเชี่ยวชาญป้องกันไม่ให้โรคที่มีความเสี่ยงเข่าสู่ร่างกาย ซึ่งจะมีการประเมินความเสี่ยงทางด้านกายภาพ เคมีชีวะวิทยา จิตวิทยา พยาบาลอาชีวะอนามัย ปัจจุบันเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นไม่ว่าจะเป็นการให้ข่าวหรอข้อสงสัยแต่ไม่มีผู้ใดมาให้ข้อเท็จจริง บางครั้งข้อเท็จจริงที่ให้ ก็ไม่ใช่ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ อยากเรียกร้องให้รัฐเร่งเกิดสถาบันอาชีวะเวชศาสตร์โดยเร็ว.