กาฬสินธุ์คุมเข้มโรคไข้หวัดนก - เร่งรณรงค์ทำความสะอาดทำลายเชื้อในพื้นที่เสี่ยง

กาฬสินธุ์ - จังหวัดกาฬสินธุ์เร่งรณรงค์ทำความสะอาดและทำลายเชื้อโรคไข้หวัดนกในพื้นที่เสี่ยง พร้อมมอบอุปกรณ์การทำความสะอาดให้กับประชาชน ด้าน ผวจ.กาฬสินธุ์ สั่งคุมเข้มเป็ดไล่ทุ่งและสนามไก่ชน

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (9 พ.ย.) ที่หอประชุมธรรมาภิบาลเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานพิธีมอบวัสดุอุปกรณ์และเปิดโครงการรณรงค์ทำความสะอาดและทำลายเชื้อโรคไข้หวัดนกในพื้นที่เสี่ยง โดยมี นายประหยัด เรเชียงแสน ปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์ นายภิญโญ รัตนศาสตร์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอาสาสมัครเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกเข้าร่วมกว่า 500 คน

นายประหยัด เรเชียงแสน ปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันเป็นช่วงรอยต่อระหว่างฤดูฝนและฤดูหนาว ซึ่งเปิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศส่งผลให้สัตว์ปีกอ่อนแอและมีภูมิคุ้มกันโรคลดลง เสี่ยงต่อการเกิดโรคไข้หวัดนก ประกอบกับในช่วงระหว่างเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน มักจะมีนกที่อพยพจากซีกโลกตอนบนได้แก่ประเทศรัสเซีย จีน เกาหลี และญี่ปุ่นเข้ามาอาศัยในประเทศไทย

ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่เสี่ยงต่อเกิดโรคไข้หวัดนกอย่างมาก นอกจากนี้ ในปี 2552 องค์การอนามัยโลกยังได้รายงานว่าพบผู้ป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดนกในหลายประเทศ

ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกัน ควบคุมไม่ให้เกิดโรคไข้หวัดนกขึ้นในพื้นที่ จึงจำเป็นต้องกำจัดแหล่งแพร่เชื้อไวรัสไข้หวัดนก และป้องกันการแพร่ระบาดมาสู่คน โดยเฉพาะสัตว์ปีกที่เลี้ยงแบบปล่อยให้หากินยังมีความเสี่ยงอยู่ ทางกรมปศุสัตว์จึงได้ให้แต่ละจังหวัดจัดทำโครงการรณรงค์ทำความสะอาดและทำลายเชื้อโรคไข้หวัดนกในพื้นที่เสี่ยงพร้อมกันทั้งประเทศปีละ 4 ครั้ง

โดยในวันนี้ทางจังหวัดกาฬสินธุ์ได้มอบวัสดุอุปกรณ์ทำความสะอาดให้กับผู้นำท้องถิ่นทุกหมู่บ้าน เพื่อนำกลับไปป้องกันการแพร่ระบาดและทำลานเชื้อในพื้นที่เสี่ยงของตนเอง

ด้าน นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า กิจกรรมสัปดาห์รณรงค์ทำความสะอาดและทำลายเชื้อโรคไข้หวัดนกในพื้นที่เสี่ยงเป็นการมุ่งเน้นให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีก และผู้ประกอบการสถานที่ฆ่าสัตว์ปีก ได้เห็นถึงความสำคัญในความสะอาดและทำลายเชื้อโรคในฟาร์มสัตว์ปีก สถานที่เลี้ยงสัตว์ปีก สถานที่ฆ่าสัตว์ปีกของตัวเอง เพื่อกำจัดแหล่งเชื้อโรคและสร้างความมั่นใจว่าไม่เชื้อโรคไข้หวัดนกหลงเหลืออยู่

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังเข้าสู่ช่วงฤดูการเก็บเกี่ยว ซึ่งมักจะมีผู้ลักลอบนำเป็ดไล่ทุ่งเข้ามาในพื้นที่บ่อยครั้ง จึงสั่งการไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องดูแลสอดส่องพื้นที่ตนเองอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากพบว่ามีผู้ลักลอบนำเป็ดไล่ทุ่งเข้าในพื้นที่และไม่มีใบอนุญาตก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที ทั้งการกักสัตว์เพื่อตรวจสอบป้องกันโรคในส่วนของสำนักงานสาธารณสุขเองก็จะต้องตรวจเช็คสุขภาพประชาชน ทั้งโรคไข้หวัดนกและโรคไข้หวัด 2009 ซึ่งประชาชนก็จะต้องร่วมกันเบื้องต้นด้วยการ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือให้สะอาด ก็จะทำให้ปลอดภัยจากโรคนี้ได้

นอกจากนี้ ยังกำชับไปยังเจ้าหน้าที่ให้ออกตรวจเข้มงวดสนามไก่ชน สถานที่เลี้ยงทุกแห่ง โดยต้องมีใบอนุญาต และมีการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งหากประชาชนคนใดพบไก่หรือสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติให้รีบแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครปศุสัตว์ อปพร.เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ และ อสม.ทันที