ศูนย์ข่าวขอนแก่น-“ไทกร”อดีตแกนนำอีสานกู้ชาติปูด ก่อนสิ้นปีแนวโน้มเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติรัฐประหารสูง เหตุไร้น้ำยาแก้ปัญหาความแตกแยกในชาติ สางปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นไม่ได้ เผยแรงกดดันทำให้คณะบุคคลทั้งทหารแลพลเรือนที่เป็นเสาค้ำยันรัฐบาลอภิสิทธิ์ต้องปฏิวัติเพราะหากปล่อยให้มีการเลือกตั้ง ประชาธิปัตย์หมดสิทธิ์คืนสู่อำนาจ ทักษิณและพรรคเพื่อไทยจะรวบอำนาจเบ็ดเสร็จในบ้านเมืองและจะตามล่าล้างแค้นฝ่ายตรงข้าม
ก่อนเที่ยงวันนี้(31 ต.ค.)ที่โรงแรมบุษราคัม จ.ขอนแก่น นายไทกร พลสุวรรณ ในฐานะประธานชมรมไทยเป็นหนึ่งเดียว ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงสถานการณ์ปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้ว่าบรรยากาศมุ่งหน้าไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงมากขึ้นและมีแนวโน้มสูงที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะจะถูกรัฐประหารก่อนสั้นปีนี้
นายไทกรระบุว่ามูลเหตุที่จะนำไปสู่การรัฐประหารครั้งนี้ สืบเนื่องจากการบริหารงานของรัฐบาลอภิสิทธิ์ไม่สามารถแก้ปัญหาความแตกแยกของคนในชาติได้ ซ้ำยังกลายเป็นต้นเหตุของความแตกแยกเสียเอง ไม่สามารถแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นได้ จึงทำให้ผู้มีบารมีทั้งหลายที่เป็นเสาค้ำรัฐบาลเชื่อว่า หากมีการเลือกตั้งในอนาคต รัฐบาลนายอภิสิทธิ์และพรรคร่วมจะพ่ายแพ้ทักษิณและพรรคเพื่อไทยอย่างย่อยยับ พรรคเพื่อไทยมีโอกาสสูงที่จะกลับมาเป็นรัฐบาล ทำให้ผู้มีบารมีต่างวิตกกังวลจะถูกทักษิณและพรรคเพื่อไทยล้างแค้น
การที่มีบุคคลสำคัญทางด้านการทหารสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเป็นจำนวนมาก จนพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีต้องออกมาเตือนสติ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ให้คิดอย่างรอบคอบ เพราะอาจเป็นการทรยศชาติ ในขณะที่พลเอกเปรมแถลงข่าวมีแม่ทัพของกองทัพไทย ยืนเป็นวอลเปเปอร์ เป็นการแสดงกำลังเจตจำนงทางการเมืองว่า พลเอกเปรมและบรรดาเหล่าแม่ทัพพร้อมอยู่ตรงข้ามทักษิณและพรรคเพื่อไทย
นายไทกรระบุว่า การเดินทางไปเยือนกัมพูชาของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธและพบปะเจรจาเป็นการส่วนตัวกับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา พร้อมทั้งแถลงว่าจะไปเยือนประเทศพม่าและมาเลเซีย เป็นการแสดงออกทางการเมืองว่า พลเอกชวลิต ทักษิณ พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงพร้อมปะทะกับศัตรูทางการเมืองทั้งด้านการเมืองและการทหาร นัยยะการไปเยือนกัมพูชา พม่าและมาเลเซียนั้น ยุทธศาสตร์ทางการเมืองเป็นการไปเตรียมหลังพิงให้กับการต่อสู้ในอนาคต
โดยพรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดงในภาคอีสานและภาคตะวันออกสามารถใช้เขมรเป็นหลังพิงหรือหลบภัยได้ พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงในภาคเหนือสามารถใช้พม่าเป็นหลังพิงหรือหลบภัยได้ พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงในภาคใต้สามารถใช้มาเลเซียเป็นหลังพิงหรือหลบภัยได้เช่นกัน หากถูกฝ่ายตรงข้ามใช้กำลังอาวุธเข้ากวาดล้าง
นายไทกรกล่าวอีกว่า ขณะนี้มีกลุ่มบุคคลคณะหนึ่ง ประกอบด้วยทหารและพลเรือน ได้เตรียมการวางแผนใช้กำลังเข้ารัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลอภิสิทธิ์ โดยกำหนดช่วงเวลาที่เหมาะสมไว้แล้ว ซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่กลุ่มคนเสื้อแดงเข้าปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลอีกครั้งตอนปลายปีนี้ การปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลของกลุ่มคนเสื้อแดงจะทำให้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง และอาจลุกลามกลายเป็นเหตุจลาจล ซึ่งจะทำให้รัฐบาลอภิสิทธิ์หมดประสิทธิภาพและหมดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศอีกต่อไป
คณะบุคคลดังกล่าวจึงเชื่อว่าการใช้กำลังเข้ารัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลอภิสิทธิ์ จะได้รับการยอมรับจากประชาชน
นอกจากนี้ในกรณีที่นักการเมืองกลุ่ม 16 ในอดีตที่ถูกมองว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดของนายราเกซ สักเสนา เช่นนายสุชาติ ตันเจริญ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม หรือนายเนวิน ชิดชอบฯลฯและในปัจจุบันเป็นเสาค้ำสำคัญในการหนุนรัฐบาลอภิสิทธิ์ หากนายราเกซเปิดโปงการร่วมกระทำผิด แล้วพรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคประชาธิปัตย์ไม่ช่วย มีแต่จะซ้ำเติมจะทำให้นักการเมืองเหล่านี้ถอนตัวจากการสนับสนุนรัฐบาลแล้วหันไปจับมือกับทักษิณและพรรคเพื่อไทยเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งใหม่ให้เร็วขึ้น
นายไทกรกล่าวย้ำว่า อยากจะฝากถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะผู้นำรัฐบาล หากต้องการที่จะรักษาการปกครองในระบอบประชาธิปไตยไว้ นายอภิสิทธิ์ต้องรีบแก้เงื่อนไขในการรัฐประหารอย่างเร่งด่วน เช่นการปรับคณะรัฐมนตรี เพื่อเรียกความเชื่อมั่น นายอภิสิทธิ์ควรรีบปรับรัฐมนตรีที่มีภาพเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่นออก เพื่อเรียกความศรัทธากลับคืนมา
ขณะเดียวกันนายอภิสิทธิ์ต้องเร่งรีบสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นกับคนในชาติให้เร็วที่สุด หากทำไม่ได้ ก็ควรลาออก หรือยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชนเป็นการรักษาไว้ซึ่งการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ก่อนที่จะมีคณะบุคคลเข้ามาเปลี่ยนการเมืองโดยใช้กำลังอาวุธ หากยังอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกระทั่งถูกรัฐประหารยึดอำนาจ ผู้รักประชาธิปไตยจะถือว่า นายอภิสิทธิ์มีการสมรู้ร่วมคิดกับคณะบุคคล ที่ทำการรัฐประหารยึดอำนาจจากนายอภิสิทธิ์
