เชียงราย - อดีตรอง ผกก.สันติบาลคนดังถูกรวบซ้ำ หลังศาลเชียงรายอนุมัติให้ประกันตัวสู้คดี 5 ข้อหาแล้ว ถูกรวบตัวต่อทันทีเมื่อตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ถือคำสั่งศาลแพ่งกรุงเทพใต้ คุมตัวขณะนั่งกินข้าวร้านข้าวต้มกลางเมือง หมดโอกาสแฉข้อมูล 2 บ่อนยักษ์ของนักการเมืองไทยในฝั่งพม่า
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า จากกรณีที่ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการ ตำรวจสันติบาล 2 พร้อมพวก 8 คนได้ประกันตัวออกจากศาล จ.เชียงราย คดี สภ.เชียงแสน ได้ขอฝากขังต่อศาลคดีร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ตามสมควรแก่พฤติการณ์ ร่วมกันมีวิทยุโทรคมนาคมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ไปแล้วโดยศาลให้ประกันตัวคนละ 120,000 บาท เมื่อวันที่ 14 ก.ย.52 และ พ.ต.ท.สันธนะ ได้ขอแจ้งความกลับต่อ พ.ต.อ.สุธรรม ชาติอาษา ผกก.สภ.เชียงแสน โดยกล่าวหาว่าได้มีการใช้คำพูดข่มขู่และจะทำร้ายร่างกาย ซึ่งทาง พ.ต.ท.สันธนะ อ้างว่า จะนำหลักฐานและพยานไปแจ้งความดำเนินคดีในอนาคตด้วยนั้น
ปรากฏว่า ช่วงค่ำวันเดียวกัน ขณะที่คณะของ พ.ต.ท.สันธนะ ที่ได้รับการประกันตัวออกมาแวะรับประทานอาหารที่ร้านข้าวต้มมีนา ถนนบรรพปราการ อ.เมือง เพื่อเตรียมจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ
ได้มี ร.ต.อ.อินสม ศรีคำ รอง สวป.สภ.เมืองเชียงราย นำสำเนาหนังสือคำสั่งศาลแพ่ง กรุงเทพฯ ใต้ ลงวันที่ 18 มี.ค.2552 ระบุคำสั่งให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ทำการจับกุมตัว พ.ต.ท.สันธนะ เพราะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาล จากกรณีที่มีการฟ้องร้องระหว่างนายสุธี เกตุศิริ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท เอส เจ ออโตเซล จำกัด จำเลย สร้างความตกตะลึงให้แก่บุคคลในคณะของ พ.ต.ท.สันธนะ ที่มีทั้งผู้ต้องหาในคดีเดิมและทีมทนายความ
แต่ทุกคนก็ยอมปฏิบัติตามคำสั่งโดยดี ทางตำรวจจึงนำตัวไปยัง สภ.เมืองเชียงราย โดยมีบุคคลอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีแต่เดินทางไปด้วยกันติดตามไปด้วยโดยไม่เดินทางกลับกรุงเทพฯ แต่อย่างใด
โดยทางตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย แจ้งให้ทราบว่าจำเป็นต้องทำตามคำสั่งกรณีศาลแพ่งกรุงเทพใต้มีคำสั่งดังกล่าว
จากนั้นทาง พ.ต.ท.เดชชา ไชยอักษร หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย ได้ชี้แจงต่อคณะของ พ.ต.ท.สันธนะ ว่าหลังจากมีการบันทึกการจับกุมตามคำสั่งศาลไว้เป็นหลักฐานแล้วทางพนักงานสอบสวนจะควบคุมตัว พ.ต.ท.สันธนะ ไปส่งที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ โดยจะนำกำลังคุ้มกันไปให้ด้วย
โดยทาง พ.ต.ท.สันธนะ ก็ยินยอมตามนั้น แต่ยังคงมีท่าทีที่กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินทางในตอนกลางคืนด้วยเช่นกัน
พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า ตนไม่เคยรับทราบมาก่อนว่ามีคำสั่งศาลแพ่งกรุงเทพใต้ดังกล่าว และสงสัยว่าที่ผ่านมาก็อาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ และมีที่อยู่หลักแหล่งชัดเจน เหตุใดทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งได้รับคำสั่งจากศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ไม่ไปจับกุมตนหรือแจ้งให้ตนทราบ ทำให้ตนไม่เคยรับทราบเรื่องนี้มาก่อนกระทั่งมาโดนดำเนินคดีที่เชียงราย ก็ถูกดำเนินการซ้ำซ้อนจากคดีที่ สภ.เชียงแสน
ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.สันธนะ เปิดเผยว่า จะนำเรื่องราวเกี่ยวกับภารกิจที่ไปปฏิบัติที่สามเหลี่ยมทองคำจนเป็นที่มาของการถูกดำเนินคดีมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนทั้งหมดให้ได้รับทราบว่า แท้ที่จริงตนเป็นฝ่ายถูกกระทำ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจึงไปทำงานภาคประชาชนเกี่ยวกับข้อร้องเรียนเรื่องคนข้ามไปเล่นที่บ่อนการพนันในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 2 แห่ง ซึ่งเป็นของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) คนหนึ่งและที่ปรึกษา รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์คนหนึ่ง โดยไปถ่ายภาพ เก็บข้อมูล ได้รายชื่อของบุคคลที่อยู่บริเวณดังกล่าวซึ่งมีระเบียบให้เข้าออกเพียงเวลา 08.00-18.00 น.มีการเข้าออกผิดเวลาหรือไม่ด้วย แต่เมื่อตนนำข้อมูลจะไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เชียงแสน กลับถูกกระทำซึ่งเชื่อว่าเหตุการณ์นั้นมีคนเห็นเหตุการณ์และจะให้ความเป็นธรรมกับตนหลายคน
