xs
xsm
sm
md
lg

ชี้คนอีสานเสียชีวิตมะเร็งตับ-ท่อน้ำดีสูงสุดในประเทศ-แนะเลิกเปิบเนื้อปลาดิบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เวทีเสวนาโครงการแก้ไขปัญหาการเสียชีวิตด้วยมะเร็งท่อน้ำดี ของประชาชน 19 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปี 2552 จัดขึ้นที่โรงแรมโฆษะ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
ศูนย์ข่าวขอนแก่น- กรมควบคุมโรค ห่วงพฤติกรรมคนอีสานบริโภคเนื้อปลาดิบ ก่อโรคพยาธิใบไม้ตับและเป็นมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ำดี ยกสถิติคนอีสานเสียชีวิตด้วยมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ำดีสูงสุดในประเทศ ถึงปีละ 28,000 คน อีกทั้ง 10 จังหวัดแรกที่เสียชีวิตด้วยมะเร็งตับ/ท่อน้ำดีอยู่ในภาคอีสานถึง 9 จังหวัด แนะประชาชนต้องเลิกบริโภคก้อยปลาดิบ ปลาร้าดิบ อย่างเด็ดขาด ตั้งเป้าควบคุมโรคพยาธิใบไม้ตับในประเทศไทยไม่เกิน 5% ในปี 2559

วันนี้ (14 ก.ย.) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเสวนาโครงการแก้ไขปัญหาการเสียชีวิตด้วยมะเร็งท่อน้ำดี ของประชาชน 19 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปี 2552 ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเป็นโรคพยาธิใบไม้ตับ โดยมีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นักวิชาการที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ 19 จังหวัดภาคอีสานร่วมประชุม ณ โรงแรมโฆษะ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น

นายแพทย์ สมชัย นิจพานิช รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคพยาธิใบไม้ตับ เป็นโรคที่บั่นทอนสุขภาพ เป็นปัญหาสาธารณสุขต่อเนื่องมากว่า 94 ปี โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน มีผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ชี้ชัดว่า การเป็นโรคพยาธิใบไม้ตับ ทำให้เกิดการอักเสบของท่อน้ำดีทั้งชนิดเฉียบพลันและเรื้อรัง โดยสร้างสารก่อมะเร็ง ทำลายพันธุกรรม ส่งผลให้ผู้ป่วยมีโอกาสเป็นมะเร็งท่อน้ำดีและเสียชีวิตได้

ผลการศึกษาของนายแพทย์พินิจ ฟ้าอำนวยผลและคณะ ในปี 2551 พบว่าประชาชนในภาคอีสาน เสียชีวิตด้วยมะเร็งตับและท่อน้ำดีสูงถึงปีละ 28,000 คน เฉลี่ยวันละ 76 คน ถือว่ารุนแรงกว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั้งยังพบว่า 9 ใน 10 จังหวัดที่มีอัตราการเสียชีวิตด้วยมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ำดีสูงที่สุด อยู่ในภาคอีสานได้แก่ สกลนคร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม อุดรธานี ยโสธร นครพนม อำนาจเจริญ และ จ.แพร่

นายแพทย์ สมชัย กล่าวต่อว่า จากการสำรวจทางระบาดวิทยาของโรคหนอนพยาธิ ของประเทศไทยปี 2552 พบว่า คนไทยร้อยละ 18 เป็นโรคหนอนพยาธิ พบมากที่สุดที่ภาคอีสานร้อยละ 26 ภาคเหนือร้อยละ 18 ขณะเดียวกัน 2 ภาคนี้พบอัตราติดโรคพยาธิใบไม้ตับสูงกว่าภาคอื่นเช่นกันคือร้อยละ 17 และ 10 อีกทั้งผู้เคยเป็นโรคพยาธิใบไม้ตับและกินยารักษาพยาธิแล้ว กลับมาเป็นซ้ำอีกสูงถึงร้อยละ 12

จากการวิเคราะห์พฤติกรรมเสี่ยง พบว่า คนในภาคอีสาน ภาคเหนือ กินอาหารที่ทำจากเนื้อปลาน้ำจืดเกล็ดขาวดิบๆ สุกๆเป็นประจำร้อยละ 7 และกินเป็นครั้งคราวร้อยละ 84 และมีพฤติกรรมถ่ายอุจจาระนอกส้วม ร้อยละ 38 ซึ่งหากไม่ดำเนินการควบคุมโรคอย่างจริงจังและต่อเนื่อง จะทำให้สถานการณ์โรคพยาธิใบไม้ตับของไทยกลับมาเป็นปัญหารุนแรงขึ้นอีก

พฤติกรรมการบริโภคของประชาชนในภาคอีสาน บางกลุ่มยังมีพฤติกรรมการบริโภคแบบเดิมทำให้เกิดโรคพยาธิใบไม้ตับ เช่น กินก้อยปลาดิบจากปลาน้ำจืดเกล็ดขาว เช่น ปลาแก้มช้ำ ปลาสร้อยหางเหลือง ปลาขาวนา ฯลฯ เมื่อเป็นโรคพยาธิใบไม้ตับแม้เพียงครั้งเดียว ตัวพยาธิที่เข้าไปอยู่ในท่อน้ำดีสามารถทำให้เยื่อบุทางเดินท่อน้ำดีระคายเคือง และปล่อยสายทำลายเยื่อบุต่างๆ ทำลายสารพันธุกรรม ตัวพยาธิไปอุดตันท่อน้ำดี ทำให้ตัวเหลือง ตาเหลือง ซึ่งการอักเสบท่อน้ำดีทุกครั้งจะสร้างสารก่อมะเร็ง ทำให้เป็นมะเร็งได้

รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ประชาชนต้องงดบริโภคก้อยปลาดิบ ปลาส้ม ลาบปลาดิบ และปลาร้าดิบ หรืออาหารที่ปรุงจากปลาน้ำจืดเกล็ดขาวอย่างเด็ดขาด แต่ที่ผ่านมาเหตุที่ประชาชนเป็นโรคพยาธิใบไม้ตับซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะเชื่อว่ามียารักษาจึงไม่เลิกกินปลาร้าดิบ โดยกระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าหมายควบคุมโรคพยาธิใบไม้ตับและพยาธิปากขอในทุกพื้นที่ของประเทศไทยให้เหลือไม่เกินร้อยละ 5 ภายในปี 2559 นี้

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด พร้อมด้วยนักวิชาการที่เกี่ยวข้องทั้ง 19 จังหวัดเข้าร่วมเสวนา




กำลังโหลดความคิดเห็น