แพทยสภาประชุมถก “หมอมาลินี” ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ภายในสัปดาห์นี้ ชี้หากไม่ได้รับการคุ้มครองจึงจะพิจารณาประเด็นผิดจริยธรรมหรือไม่ เผยปัญหาใบรับร้องแพทย์เท็จ มีร้องเรียนเป็นระยะๆ หากมีผู้ร้องเรียนกรณีใบรับรองแพทย์ “นายธนา” แพทยสภายินดีตรวจสอบ หากพบผิดไม่มีข้อยกเว้น
นพ.อำนาจ กุสลานันท์ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า ขณะนี้กรณีที่ พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้วิเคราะห์พฤติกรรมของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ว่ามีปัญหาบกพร่องทางจิตนั้น ได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่อนุกรรมการช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน เพื่อพิจารณาเบื้องต้นว่า กรณี พญ.มาลินี อภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรนั้น ได้รับเอกสิทธิ์การคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งแพทยสภาจะพิจารณาในประเด็นนี้ก่อน หากได้รับเอกสิทธิ์การคุ้มครองก็จะไม่นำมาพิจารณาในประเด็นจริยธรรม จรรยาแพทย์ โดยจะมีการประชุมรับฟังความเห็นอนุกรรมการฯ ภายในสัปดาห์นี้
“หากพิจารณาแล้ว พญ.มาลินี ไม่ได้รับเอกสิทธิ์การคุ้มครองแพทยสภาก็จะต้องพิจารณาถ้อยคำที่พญ.มาลินี อภิปรายในสภา ว่าเป็นการวินิจฉัยโรคหรือไม่ โดยเตรียมยื่นขอหลักฐานเทป หรือซีดีที่ได้ทำการบันทึกเสียงไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม จนขณะนี้ก็ยังไม่มีผู้ใดมาร้องทุกข์ แม้ว่านายากรัฐมนตรีจะพูดผ่านสื่อ แต่ก็ไม่ถือเป็นการร้องเรียนเป็นทางการ” นพ.อำนาจกล่าว
นพ.อำนาจ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการป่วยและใบรับรองแพทย์ของนายธนา ตันสิริ ว่าจริงเท็จประการใดนั้น เท่าที่ทราบคือนายธนาป่วยจริงและได้พักรักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งหากมีร้องเรียน แพทยสภาก็จะดำเนินการตรวจสอบทันที โดยสามารถตรวจสอบได้จากเวชระเบียน ทั้งนี้ การออกใบรับรองแพทย์เท็จนั้น ถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง หากตรวจสอบพบจะต้องถูกลงโทษอย่างแน่นอน โดยที่ผ่านมาแพทยสภาได้รับการร้องเรียนเรื่องใบรับรองแพทย์เป็นเท็จเป็นระยะๆ ทั้งในโรงพยาบาลเอกชนและคลินิกเวชกรรม เนื่องมาจากส่วนใหญ่เข้าใจผิดและไม่ไว้วางใจแพทย์
“มีการร้องเรียนใบรับร้องเท็จไม่มาก หลายกรณีที่ผู้ป่วยไม่พอใจกรณีที่แพทย์ออกใบรับรองแพทย์ให้น้อยหรือมากเกินไป หรือในกรณีที่นายจ้างไม่เชื่อว่า ลูกจ้างป่วยจริง หรือแม้แต่กรณีที่แพทย์ถูกขอร้องให้ออกใบรับรองแพทย์ย้อนหลัง เพื่อให้ผู้ป่วยกลับไปทำงานด้วยความสงสาร รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่วนที่แพทย์ทำผิดจริงเนื่องจากผู้ป่วยไม่ได้ป่วยจริงก็มีและได้ดำเนินการลงโทษไปแล้ว ทั้งนี้ ไม่มีข้อยกเว้นกรณีใดๆ ทั้งสิ้น” นพ.อำนาจกล่าว
