อดีตกรรมการแพทยสภา ชี้ “หมอมาลินี” ทำหน้าที่ส.ส.ฐานะที่มีความรู้ด้านการแพทย์ ไม่ได้ฟันธง “หมัก” ป่วย แค่ตั้งข้อสังเกตว่ามีพฤติกรรมน่าสงสัย แนะแพทยสภาต้องพิจารณาถี่ถ้วน
แหล่งข่าวจากอดีตกรรมการแพทยสภา กล่าวว่า การที่พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้วิเคราะห์พฤติกรรมของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ว่า มีปัญหานั้น เชื่อว่า เป็นการทำหน้าที่ของ ส.ส.ในฐานะผู้มีความรู้ทางด้านการแพทย์ ที่ห่วงใยปัญหาชาติบ้านเมือง ที่ตั้งข้อสังเกตผู้บริหารประเทศว่ามีพฤติกรรมที่น่าสงสัยให้สาธารณชนรับทราบ แต่ไม่ได้วินิจฉัยฟันธงว่านายกฯป่วยทางสุขภาพจิตหรือไม่
“นายกรัฐมนตรีก็ตอบไม่ตรงคำถามเช่นกัน เพราะกลับไปตอบว่าตนเองมีความดันโลหิตอยู่ในระดับปกติ ระดับคอเลสเตอรอลปกติ ซึ่งไม่เกี่ยวกับประเด็นที่ พญ.มาลินี ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับพฤติกรรมส่วนตัว ทั้งนี้ ประชาชนควรให้ความสนใจ และติดตามพฤติกรรมของนายกรัฐมนตรีว่าเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่” แหล่งข่าวระบุ
แหล่งข่าวรายเดิม กล่าวต่อว่า แพทยสภาต้องพิจารณาในประเด็นดังกล่าวให้ถี่ถ้วน ว่า เป็นประเด็นการประกอบวิชาชีพหรือเป็นการทำหน้าที่ ส.ส.ในฐานะผู้มีความรู้ทางด้านการแพทย์ เพราะในสภามีเอกสิทธิ์คุ้มครองในการหมิ่นประมาทกรณีที่ผู้พูดกล่าวอ้างอิงถึงบุคคลในสภาด้วยกัน แต่หากเป็นบุคคลนอกสภาก็จะไม่ได้รับการคุ้มครอง
แหล่งข่าวจากอดีตกรรมการแพทยสภา กล่าวว่า การที่พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้วิเคราะห์พฤติกรรมของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ว่า มีปัญหานั้น เชื่อว่า เป็นการทำหน้าที่ของ ส.ส.ในฐานะผู้มีความรู้ทางด้านการแพทย์ ที่ห่วงใยปัญหาชาติบ้านเมือง ที่ตั้งข้อสังเกตผู้บริหารประเทศว่ามีพฤติกรรมที่น่าสงสัยให้สาธารณชนรับทราบ แต่ไม่ได้วินิจฉัยฟันธงว่านายกฯป่วยทางสุขภาพจิตหรือไม่
“นายกรัฐมนตรีก็ตอบไม่ตรงคำถามเช่นกัน เพราะกลับไปตอบว่าตนเองมีความดันโลหิตอยู่ในระดับปกติ ระดับคอเลสเตอรอลปกติ ซึ่งไม่เกี่ยวกับประเด็นที่ พญ.มาลินี ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับพฤติกรรมส่วนตัว ทั้งนี้ ประชาชนควรให้ความสนใจ และติดตามพฤติกรรมของนายกรัฐมนตรีว่าเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่” แหล่งข่าวระบุ
แหล่งข่าวรายเดิม กล่าวต่อว่า แพทยสภาต้องพิจารณาในประเด็นดังกล่าวให้ถี่ถ้วน ว่า เป็นประเด็นการประกอบวิชาชีพหรือเป็นการทำหน้าที่ ส.ส.ในฐานะผู้มีความรู้ทางด้านการแพทย์ เพราะในสภามีเอกสิทธิ์คุ้มครองในการหมิ่นประมาทกรณีที่ผู้พูดกล่าวอ้างอิงถึงบุคคลในสภาด้วยกัน แต่หากเป็นบุคคลนอกสภาก็จะไม่ได้รับการคุ้มครอง