จากกรณีที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการแพทยสภา มีมติให้ส่งเรื่อง พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อขอความเห็นว่า การอภิปรายในสภาได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองตามรัฐธรรมนูญมาตรา 130 หรือไม่นั้น
นางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้แพทยสภากำลังสร้างภาพว่าทำงานเชิงรุกอย่างไม่เข้าข้างแพทย์ด้วยกัน ทั้งๆ ที่แพทยสภาควรใช้มาตรฐานเดียวกันในการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ของผู้ได้รับความเสียหายทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นประชาชน หรือนายกรัฐมนตรี ซึ่งกรณีของ นายสมัคร เมื่อแพทยสภาได้รับเรื่องก็ดำเนินการทันทีนั้น ถือเป็นการเอาใจรัฐบาล ซึ่งหากถ้าเจ้าทุกข์ไม่ใช่นายกรัฐมนตรี ก็อยากถามว่า แพทยสภาจะทำงานรับลูกได้ฉับไวเหมือนที่กำลังแสดงละครปาหี่แบบนี้หรือไม่
“ปกติผู้เสียหายในเครือข่ายฯ ร้องไปที่แพทยสภาโดยตรง 3-8 ปี ก็ไม่ชี้มูล หรือชี้มูลทีไรก็กลายเป็นคดีไม่มีมูลแทบทั้งนั้น แสดงให้เห็นว่า ถ้าเป็นชาวบ้านธรรมดา ต่อให้มีมูลชัดเจนแค่ไหนถ้าไม่ใช่พวกเดียวกัน ไม่ใช่คนที่มีอำนาจให้คุณให้โทษก็อย่าหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากแพทยสภาอย่างกระตือรือร้นเช่นนี้”นางปรียนันท์ กล่าว
นางปรียนันท์ กล่าวด้วยว่า เครือข่ายฯ ขอให้สังคมช่วยกันจับตามองดูเรื่องนี้ หากเรื่องนี้แพทยสภามีมติ ว่า มีมูล และทำการลงโทษแพทย์หญิงมาลินี เชื่อว่า วิญญาณของ นางรวีวรรณ เสตะรัต เหยื่อศัลยกรรมที่ถูกยิงตาย จะลุกขึ้นมาทวงความเป็นธรรมจากแพทยสภาบ้าง เพราะเธอร้องเรียนนานถึง 3 ปี จนตัวตายไปแล้วเกือบ 1 ปี จนป่านนี้ก็ยังไม่ชี้มูล เห็นที นางรวีวรรณคงต้องรอชาติหน้าเกิดใหม่มาเป็นนายกรัฐมนตรี คงจะได้รับความเป็นธรรมอย่างรวดเร็ว
