กลุ่ม “โกก้าง” ออกแถลงการณ์เรียกร้องชนกลุ่มน้อยจับอาวุธสู้พม่า-สกัดถูกกลืนชนเผ่าชาติพันธุ์

ตาก- ชนกลุ่มน้อยโกก้าง ร่อนแถลงการณ์เรียกร้อง กกล.ชนกลุ่มน้อยในพม่าทุกกลุ่ม จับอาวุธสู้พม่า ปกป้องการถูกกลืนชนเผ่าชาติพันธุ์ ด้านการสู้รบพม่า-โกก้างเบาบางลง โดยทหารพม่าสามารถควบคุมยุทธศาสตร์สำคัญได้เป็นส่วนใหญ่

แหล่งข่าวจากแกนนำระดับสูงของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ KNU กล่าว ณ.ฐานที่มั่นแห่งหนึ่งชายแดนไทย-พม่า ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ว่า ผู้นำกองทัพ KNU ได้รับหนังสือซึ่งเป็นลักษณะแถลงการณ์จากนายเผิงจาเซิง ผู้นำสูงสุดของกองกำลังโกก้าง (MNDAA) เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2552 ระบุว่า ขอเรียกร้องให้กองกำลังชนกลุ่มน้อยฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า หรือ SPDC ต่างๆ รวมทั้งกะเหรี่ยงคริสต์ จับอาวุธขึ้นมาต่อสู้กับรัฐบาลทหารพม่า SPDC

แถลงการณ์ยังระบุว่า หลังจากสหภาพพม่าได้รับเอกราชจากอังกฤษ ทหารพม่าได้เริ่มใช้ยุทธวิธีหรือแผนกลืนกลุ่มชาติพันธุ์ ชนเผ่า โดยประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2490 และต่อมาเมื่อปี 2551 ได้ร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ โดยที่ไม่เปิดรับความเห็นจากกลุ่มชาติพันธุ์
นอกจากนี้ รัฐบาลทหารพม่าได้ข่มขู่คุกคามกลุ่มชาติพันธุ์ด้วยกำลังทหาร พร้อมกับพยายามยุแหย่ให้เกิดความแตกแยกระหว่างกลุ่มและภายในกลุ่มชาติพันธุ์

เมื่อในวันที่ 27 ส.ค.2552 เวลาประมาณ 07.30 น.กองกำลังทหารพม่าได้บุกเข้าโจมตีเมืองหย่างโหล่งกาย เขตปกครองพิเศษโกก้าง ซึ่งเป็นการทำลายข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัน รัฐบาลทหารพม่าได้อ้างความชอบธรรมเพื่อโจมตีกองกำลังโกก้าง ด้วยการกล่าวหากองกำลังโกก้าง MNDAA ว่า มีโรงงานผลิตอาวุธและยาเสพติด ซึ่งคำกล่าวหานี้ไม่เป็นความจริง โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด ทาง MNDAA ตระหนักดีเสมอว่า เป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติ ด้วยเหตุนี้ MNDAA จึงได้ประกาศเป็นเขตปลอดยาเสพติดตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา

คำแถลงการณ์ฉบับเดียวกัน ยังได้เรียกร้องให้กลุ่มติดอาวุธต่างๆ หันหน้าต่อสู้เพื่อปกป้องการกลืนชาติพันธุ์ของรัฐบาลทหารพม่าอย่างแข็งขัน โดยให้ยึดเอาเหตุการณ์โกก้างเป็นตัวอย่าง ซึ่งหากกองกำลังโกก้างสลาย ชาวโกก้างก็จะไม่มีสิทธิเสรีภาพ พร้อมกันนั้นคำแถลงยังได้เรียกร้องกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าไปช่วยคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นด้วย

สำหรับสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารพม่ากับกลุ่มหยุดยิงโกก้าง MNDAA มีรายงานว่า ขณะนี้ได้เบาบางลงแล้ว โดยทหารพม่าสามารถยึดเมืองสำคัญ เช่น เหล่ากาย และเมืองชินฉ่วยเหอได้อย่างเบ็ดเสร็จ พร้อมกับควบคุมจุดยุทธศาสตร์สำคัญได้เป็นส่วนใหญ่ ส่วนทางฝ่ายกองกำลังโกก้าง MNDAA ได้ใช้กลยุทธแบบซุ่มโจมตีเป็นหลัก

ส่วนการเคลื่อนไหวของทหารพม่ามีรายงานว่า เมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) ทหารพม่าได้มีการเกณฑ์รถยนต์ชาวบ้านในเมืองหมู่แจ้ และเมืองล่าเสี้ยว รัฐฉานภาคเหนืออีกหลายสิบคัน พร้อมลูกหาบอีกราว 30 คน สำหรับใช้ในการลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ นอกนั้นทหารพม่ายังได้ให้หน่วยดับเพลิงเฝ้ารักษาความปลอดภัยตามจุดต่างในเมืองล่าเสี้ยว พร้อมออกประกาศห้ามประชาชนออกจากเคหะสถานหลังเวลา 20.00 น.

ขณะที่กองกำลังหยุดยิงเมืองลา NDAA ซึ่งผู้นำเป็นบุตรเขยของนายเผิงจาเซิง (ผู้นำโกก้าง) ตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมามีการประชุมฉุกเฉินกันหลายครั้ง และเมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) ทาง NDAA ได้ส่งกลับแรงงานชาวพม่าที่เข้าไปทำงานในเมืองลา จำนวน 470 คน โดยนำขึ้นรถบรรทุกไปปล่อยที่สะพานท่าปิง เขตรอยต่อพื้นที่เคลื่อนไหวทหารพม่า-เมืองลา NDAA อยู่ระหว่างเชียงตุงและเมืองลา เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นต่อความมั่นคง