นครพนม - จังหวัดนครพนมเจ้าภาพจัดงานเอ็กซ์โป 2009 ไทย-ลาว-เวียดนาม ประธานหอการค้านครพนมชี้กระตุ้นเศรษฐกิจ 3 ประเทศ การค้า-ท่องเที่ยวคึกคัก
นายพงษ์ ศิริกุสุมภ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ในวันที่ 20-25 สิงหาคม 2552 จังหวัดนครพนมร่วมกับสำนักงานพาณิชย์ และหอการค้านครพนม ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดงานนครพนมเอ็กซ์โป 2009 ไทย-ลาว-เวียดนาม ขึ้นที่ถนนสุนทรวิจิตรริมฝั่งแม่นำโขง โดยรูปแบบของงานจะมีนักธุรกิจไทย ลาว เวียดนาม นำสินค้าหลากชนิดที่เป็นจุดเด่นของแต่ละประเทศมาออกเต็นท์ จำหน่ายให้ประชาชนนักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อหากันซึ่งเป็นงานใหญ่มาก จึงอยากเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศ ที่เดินทางมาท่องเที่ยวในแถบภาคอีสานได้เดินทางมาท่องเที่ยวชอบปิ้งสินค้าจาก 3 ประเทศไทย-ลาว-เวียดนามในช่วงวันเวลาดังกล่าว
สำหรับการจัดงานนครพนมเอ็กซ์โป 2009 ไทย-ลาว-เวียดนามครั้งนี้ มีเป้าหมายกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าชายแดน 3 ประเทศให้คึกคักยิ่งขึ้นและสร้างสีสรรการท่องเที่ยว ซึ่งการจัดงานครั้งนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์การประชุมคณะผู้บริหารระดับสูงของ 8 จังหวัด 3 ประเทศไทย-ลาวเวียดนาม ที่มีการประชุมกันทุกปีในการร่วมมือเศรษฐกิจลงทุนการท่องเที่ยววัฒนธรรมกีฬา ตามเส้นทางการค้าในเส้นทาง หมายเลข 8 และ 12 ในลาว เช่น แขวงคำม่วน-แขวงบลิคำไชย สปป.ลาว จังหวัดเงอาน กวางบิง ประเทศเวียดนาม
จังหวัดนครพนม เมื่อสะพานข้ามแม่น้ำโขงแล้วเสร็จจะมีเส้นทางท่องเที่ยวการค้าทะลุถึงทะเลเวียดนามระยะทางแค่ 200 กิโลเมตรเท่านั้น และจะมีธุรกิจหลายอย่างเกิดขึ้นอีกมาก การจัดงานนี้คือการนำร่องเบื้องต้นก่อนที่สะพานข้ามโขงจะแล้วเสร็จ
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมระบุว่า การจัดงานครั้งนี้นอกจากจะมีการแสดงสินค้า 3 ประเทศแล้วช่วงระหว่างวันที่ 19-21 ยังมีการจัดสัมนาร่วมของภาครัฐเอกชนด้านการค้าการลงทุนและโลจิสติกส์ตลอดจนการสร้างเครือข่ายธุรกิจของนักธุรกิจ 3 ประเทศ ได้มาร่วมแสดงความคิดเห็นตลอดจนการนำเสนอสิ่งที่ต้องการของภาคเอกชนและรัฐ นำปัญหาอุปสรรคที่ติดขัดมาเสนอในที่ประชุมเสวนา เพื่อให้ทางภาครัฐไทย ลาว เวียดนาม เมื่อรับทราบปัญหานักลงทุนก็จะเป็นข้อมูลนำสู่กระบวนการแก้ไขในระบบราชการของ 3 ประเทศ เพื่อสร้างความคล่องตัวให้นักลงทุนจึงจะขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างสะดวกขึ้น
ด้าน นายมงคล ตันสุวรรณ ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่า การจัดงานแสดงสินค้านครพนมเอ็กซ์โป 2009 ไทย-ลาว-เวียดนามครั้งนี้ ถือว่าเป็นมิติที่ดีในการกระตุ้นเศรษฐกิจลักษณะควบคู่มีไทย ลาว เวียดนามมาร่วมจะทำให้บรรยากาศงานยิ่งใหญ่มีสิ่งแปลกใหม่เกิดขึ้นในสายตานักท่องเที่ยว และเป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวนักธุรกิจเดินทางมานครพนม
ตนมองว่าถือว่าเป็นการนำร่องที่ดีที่นักธุรกิจการค้าไทย ลาว เวียดนาม ทั้งภาครัฐเอกชนได้มาแลกเปลี่ยนสินค้าพบปะพูดคุยในการร่วมลงทุนในภายหน้า เพราะเมื่อสะพานข้ามโขงแล้วเสร็จจะมีธุรกิจการค้าความร่วมมือการค้าซึ่งกันและกันมากขึ้นอีกหลายด้าน เมื่อเรามาพบปะนำเสนอความร่วมมือ ตลอดปัญหาอุปสรรคร่วมกันแล้วหาทางแก้ไขตั้งแต่เบื้องต้น เมื่อถึงวันสะพานข้ามโขงเสร็จความคล่องตัวก็จะมีมากขึ้นหลายเท่า
