ตู้สินค้าเทียบท่า ทลฉ.แนวโน้มพุ่งหลังเรือใหญ่สุดเข้า

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เผยการเข้าเทียบท่ายังท่าเรือแหลมฉบัง ของเรือสินค้าใหญ่สุดในโลก “ZIM DJBOUTI” ส่งผลดีต่อตัวเลขตู้สินค้าที่ขนถ่ายสินค้าผ่านท่าเรือแหลมฉบังนับจากไตรมาส 4 เป็นต้นไป ขณะที่ยอดตู้สินค้าขนถ่ายผ่านท่าเรือ 8 เดือน ทรุดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 15- 20% ซึ่งเป็นผลจากพิษเศรษฐกิจโลกที่ทำให้ความต้องการสินค้าลดลง คาดเมื่อถึงสิ้นปีจะมีตัวเลขตู้สินค้ารวมไม่น้อยกว่า 4.9 ล้านทีอียู

วันนี้ (7 ส.ค.) การท่าเรือแห่งประเทศไทย หรือ กทท.ได้จัดให้มีพิธีต้อนรับเรือสินค้าใหญ่ที่สุดในโลก “ZIM DJBOUTI” ขนาดบรรทุกตู้สินค้า 10,062 ทีอียู ซึ่งเข้าเทียบท่ายังท่าเทียบเรือ C 1 และ C2 ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) จังหวัดชลบุรี โดยมีนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานต้อนรับ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการขนส่งสินค้าในพื้นที่จังหวัดชลบุรีเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

นางสุนิดา สกุลรัตนะ กรรมการการท่าเรือฯ รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย หรือ กทท.เผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งสินค้าทางน้ำ เพื่อให้เพียงพอที่จะรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่ง กทท.ได้พัฒนาการบริหารจัดการท่าเรือมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ที่อยู่ภายใต้การดูแล

การเข้าเทียบท่าของเรือบรรทุกตู้สินค้าขนาดใหญ่ระดับถึง Mega Vessel ซึ่งมีขนาดบรรทุกตู้สินค้า 10.062 ทีอียู แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของภาคการค้าระหว่างประเทศ อันจะเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม และยังแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการเดินเรือต่างชาติในศักยภาพการคมนาคมทางน้ำของไทย

ด้านนายเฉลิมเกียรติ์ สลักคำ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เผยถึงตัวเลขการขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรีในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา (พ.ย.2551 - มิย.2552) พบลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 15-20% ทั้งนี้ เป็นผลมาจากพิษเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลกส่งผลต่อความต้องการสินค้าที่ลดน้อยลง แต่อย่างไรก็ดีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เริ่มมีให้เห็นก็ทำให้ตัวเลขการขนถ่ายสินค้าในช่วง 2 เดือนหลังมีแนวโน้มกระเตื้องขึ้นจนมั่นใจได้ว่าตัวเลขตู้สินค้าที่ขนถ่ายผ่านท่าเรือแหลมฉบังเมื่อถึงสิ้นปีจะมีไม่น้อยกว่า 4.9 ล้านทีอียู หรืออาจถึง 5 ล้านทีอียู

“ในปีก่อน ทลฉ.มีตู้สินค้าขนถ่ายผ่านท่าทั้งสิ้น 5.2 ล้านทีอียู แต่ผลพ่วงจากเศรษฐกิจโลกในปีนี้ย่อมทำให้ตู้สินค้าขนถ่ายผ่านท่าลดลงอย่างแน่นอน แต่ก็คงไม่น้อยกว่า 4.9 ล้านทีอียู ซึ่งการที่มีเรือแม่ขนาดใหญ่เข้ามาใช้บริการเส้นทางเดินเรือผ่านท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองใหญ่ทั้งญี่ปุ่นและอเมริกา ย่อมถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในการขนส่งสินค้าไทย และขณะนี้ ทลฉ.ก็มีเรือแม่ขนาดบรรทุก 8 พันทีอียูเข้าเทียบท่าแล้วอีก 1 ลำ” นายเฉลิมเกียรติ์ กล่าว

ขณะที่ เรือโทมาโนช ปาลิไลยก์ ร.น.ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ฮัทชิสัน แหลมฉบัง เทอร์มินอล จำกัด ผู้บริหารท่าเทียบเรือ A3, C1 C2 ,D1, D2 และ D 3 เผยถึงการที่เรือขนถ่ายสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเข้าเทียบท่า ภายใต้การบริหารงานของบริษัทฯ เป็นผลมาจากการมีศักยภาพด้านเครื่องมือขนถ่ายสินค้าที่สามารถรองรับเรือแม่ขนาดใหญ่ได้ และในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีบริษัทฯ ก็จะชูศักยภาพในการมีเครื่องมือขนถ่ายสินค้าที่ทันสมัย และศักยภาพในการรองรับเรือสินค้าขนาดใหญ่เป็นสำคัญ