ศรีสะเกษ – ผู้ว่าฯศรีษะเกษ นำคณะหอการค้าศรีสะเกษ ลุยกัมพูชา ลงนาม “MOU” กับหอการค้าเสียมราฐ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว ผู้ว่าฯ เสียมราฐ เผย ปัญหาชายแดนเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่ใช่อุปสรรคสำคัญในการค้าขายของ 2 จังหวัด 2 ชาติ ขณะผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ระบุ เร่งพัฒนาด่าน “ช่องสะงำ” พร้อมผลักดันใช้ “บอเดอร์พาส” ข้ามแดน อำนวยความสะดวกการเดินทางท่องเที่ยว 2 จังหวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายวานนี้ (5 ส.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลาง จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายศรีวรรณ เกียรติสุรนนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ และ คณะกรรมการหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ ได้เดินทางไปประชุมร่วมกับคณะของ นายชู ภิรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเสียมราฐ และ นายเพ็ง กวง ประธานหอการค้าจังหวัดเสียมราฐ
ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ และหอการค้าจังหวัดเสียมราฐ พร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้าอุตสาหกรรมและข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งภายหลังจากการประชุมร่วมได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วม (MOU) ระหว่าง ประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ และ ประธานหอการค้าจังหวัดเสียมราฐ กัมพูชา โดยมีผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ และ ผู้ว่าฯ เสียมราฐ ร่วมเป็นสักขีพยาน
โดยบันทึกข้อตกลงร่วมในการสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนการค้าระหว่าง 2 หน่วยงาน เพื่อการปรึกษาแลกเปลี่ยนข้อเสนอและโครงการของสมาชิกทั้ง 2 หน่วยงานรวมทั้งเสนอแนะมาตรการให้กับรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อยกระดับการอำนวยความสะดวกการขยายการค้า การลงทุน และ การท่องเที่ยวให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น
นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า การเดินทางมาประชุมร่วมกับคณะของ ผู้ว่าฯ เสียมราฐ กัมพูชาในครั้งนี้ สืบเนื่องจากตนเดินทางมารับตำแหน่งผู้ว่าฯ ศรีสะเกษใหม่ได้ 2 เดือนแล้ว ดังนั้น จึงได้มาพบปะกับ ผู้ว่าฯ เสียมราฐ ซึ่งถือว่าเป็นจังหวัดคู่ค้า และเปรียบเสมือนเมืองพี่เมืองน้อง และที่สำคัญ คือ ได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกันเพื่อส่งเสริมทางด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวและอื่นๆ ที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันระหว่าง จ.ศรีสะเกษ และ จ.เสียมราฐ
ทางจังหวัดศรีสะเกษจะได้เร่งพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ให้มีความพร้อมในทุกด้านสำหรับรองรับการค้าและการท่องเที่ยว รวมทั้งเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนของ 2 ชาติ ที่จะสัญจรไปมาหาสู่กัน ตนในฐานะผู้ว่าฯศรีสะเกษ และผู้ว่าฯ เสียมราฐ จะได้เสนอไปยังหน่วยเหนือของรัฐบาลแต่ละประเทศ เพื่อขอให้สามารถใช้หนังสือผ่านแดนชั่วคราว หรือ “บอเดอร์พาส” ในการเดินทางข้ามแดนระหว่าง จ.ศรีสะเกษ กับ จ.เสียมราฐ ได้
“ส่วนปัญหาชายแดนนั้น เราไม่ได้มีการหยิบยกขึ้นมาพูดคุยกัน เนื่องจากชาวศรีสะเกษต้องการที่จะค้าขายกับ จ.เสียมราฐ กัมพูชา เพื่อพัฒนาด้านเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศให้ดีมากขึ้น ซึ่งปัญหาชายแดนไม่ใช่อุปสรรคสำคัญในการเป็นเมืองคู่ค้าระหว่างกันแต่อย่างใด” นายระพี กล่าว
ทางด้าน นายชู ภิรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเสียมราฐ กล่าวว่า นับว่าเป็นนิมิตหมายอันดีที่มีการพบปะหารือกันในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างจ.เสียมราฐ และ จ.ศรีสะเกษ ให้มีความเป็นพี่เป็นน้องและมีมิตรไมตรีต่อกันมากยิ่งขึ้นต่อไป
สำหรับปัญหาชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา นั้น ตนเห็นว่า เป็นปัญหาเพียงเล็กน้อยสามารถเจรจาพูดคุยกันได้ และไม่ใช่ปัญหาสำคัญที่จะหยุดยั้งการส่งเสริมทางด้านการค้าและการท่องเที่ยวของทั้ง 2 จังหวัด และ 2 ชาติแต่อย่างใด เนื่องจากโลกทุกวันนี้ล้วนแต่ต้องการส่งเสริมเศรษฐกิจภายในประเทศและระหว่างประเทศให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมเพราะจะเป็นการส่งผลดีต่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนภายในชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังจากการลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกันแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และ ผู้ว่าราชการจังหวัดเสียมราฐ ได้มอบของที่ระลึกให้แก่กันและกัน จากนั้น คณะของผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ได้เดินทางไปสำรวจพื้นที่สภาพเศรษฐกิจการค้าภายใน จ.เสียมราฐ เพื่อหาช่องทางในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนร่วมกันต่อไป