เรียนฟรีเมืองมุกฯ ยังวุ่นตำราขาดแคลน ผู้ปกครองต้องควักถ่ายเอกสารให้ลูกไปเรียน

มุกดาหาร - โครงการเรียนฟรี 15 ปีในมุกดาหาร ยังพบปัญหาหนังสือเรียนไม่เพียงพอกับความต้องการ ผู้ปกครองนักเรียน ร.ร.คำสร้อยฯ ต้องควักเงินถ่ายเอกสารแบบเรียนให้ลูกๆ เพราะหนังสือไม่มีจำหน่าย ด้าน ผอ.โรงเรียน เร่งสั่งซื้อหนังสือเพิ่มเติมแล้ว เหลือเพียงรอส่งมอบ

จากนโยบายแนวประชานิยมของรัฐบาล 3 นโยบาย คือ เงินยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 500 บาท เงินตอบแทน อสม.เดือนละ 600 บาท และนโยบายเรียนฟรี 15 ปีนั้น ในส่วนของนโยบายเรียนฟรียังพบว่ามีปัญหาตำราเรียนมีไม่เพียงพอกับความต้องการของนักเรียน ทำให้เป็นภาระของผู้ปกครองต้องจ่ายเงินให้บุตรหลาน เป็นค่าใช้จ่ายในถ่ายสำเนาเอกสารการเรียนที่ขาดแคลน ไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระให้กับผู้ปกครองอีกทางหนึ่ง อันเป็นการสวนนโยบายของรัฐบาลที่ผู้ปกครองไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ โดยเฉพาะโรงเรียนขนาดใหญ่ ที่มีนักเรียนตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไปจะมีปัญหาหนังสือเรียนไม่เพียงพอเป็นจำนวนมาก

ที่โรงเรียนคำสร้อยพิทยาสรรค์ อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งได้มีผู้ปกครอง หลายคนมีหนังสือร้องเรียนไปยังผู้สื่อข่าวในท้องถิ่นถึงความเดือดร้อนจากปัญหาตำราเรียนที่ไม่เพียงพอ และผู้ปกครองต้องเสียเงินค่าใช้จ่ายให้บุตรหลานนำไปใช้จ่ายในการถ่ายเอกสารการเรียน แต่ละวันจำนวนไม่น้อย ซึ่งแทนที่จะเป็นการแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปีของรัฐบาลกลับเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายในการถ่ายเอกสารหนังสือเรียนเกือบทุกวัน

ครั้นจะแก้ปัญหาเองโดยการให้เงินบุตรหลานไปซื้อเองตามร้านจำหน่ายหนังสือเรียนทั่วไปกลับไม่มีจำหน่าย ทำให้นักเรียนต้องแย่งหนังสือกันอ่าน โดยเฉพาะในช่วงก่อนสอบ ทำให้เป็นปัญหาเด็กเกิดความเครียด

นายฉลอง บุตรกาล ผู้อำนวยการโรงเรียนคำสร้อยพิทยาสรรค์ กล่าวว่า โครงการเรียนฟรี 15 ปีของรัฐบาลเป็นนโยบายที่ดีนอกจากแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองยังทำให้นักเรียนได้เรียนอย่างทั่วถึง และยอมรับว่า ในระยะแรกๆ อาจมีปัญหาเรื่องตำราเรียนที่ไม่เพียงพอ หลังจากที่กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดให้ทุกโรงเรียนใช้ตำราเดียวกันเหมือนกันทั่วประเทศ ที่ได้ผ่านการพิจารณาของกระทรวงศึกษาแล้วว่าเหมาะสมในแต่ละช่วงชั้น ซึ่งต่างจากการเรียนการสอนก่อนหน้านี้ ขึ้นอยู่กับโรงเรียนว่าจะใช้ตำราเรียนของสำนักพิมพ์ใดก็ได้ที่สอดคล้องกับหลักสูตรการเรียนการสอน ในแต่ละช่วงชั้น จึงหาซื้อตำราได้ง่าย จึงทำให้โรงพิมพ์ที่ผลิตตำราเรียนดังกล่าว ผลิตไม่ทัน ซึ่งก็มีบางวิชาเท่านั้น เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และในการแก้ปัญหาดังกล่าว ทางโรงเรียนได้ให้ครูผู้สอนถ่ายสำเนาตำราเรียนแจกจ่ายให้กับนักเรียน และให้นักเรียนแบ่งกันอ่าน แล้วแต่จะตกลงกันเอง

อย่างไรก็ตาม เรื่องตำราเรียนไม่เพียงพอของโรงเรียนคำสร้อยพิทยาสรรค์ ขณะนี้ทางโรงเรียนได้ดำเนินการจัดซื้อแล้ว เหลือเพียงการส่งมอบจากโรงพิมพ์ซึ่งคาดว่าไม่เกินเทอมแรกของปี การศึกษานี้ นักเรียนจะได้ครบทุกคน ขอให้ผู้ปกครองสบายใจได้

ส่วน น.ส.สุธาวี พรชัยมณีไพโรจน์ และน.ส.นิภาพร สมประสงค์ นักเรียนชั้น ม.4/2 โรงเรียนคำสร้อยพิทยาสรรค์ บอกเช่นเดียวกันว่า หนังสือที่ได้รับแจกจากโรงเรียนมีไม่เพียงพอ และขาดเป็นบางวิชา โดยเฉพาะวิชาหลัก แต่ก็ไม่มีปัญหา หรือเป็นอุปสรรค์ต่อการเรียนของตนแต่อย่างใด เพราะได้มีการแบ่งปันกันอ่านกับเพื่อน และจัดสรรเวลาในการอ่าน ไม่ให้ตรงกับเพื่อน และคิดว่าไม่มีผลต่อการสอบเก็บคะแนนกลางภาค หรือปลายภาค แต่ก็ตามอยากให้รัฐบาลหรือทางโรงเรียนจัดหาหนังสือเรียน ให้กับนักเรียนได้ครบทุกวิชาโดยเร็ว เพื่อจะได้มีหนังสืออ่านเต็มที่ และแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการถ่ายเอกสารการเรียน

ทางด้านนายชัชชาญ บุปผาวัลย์ 49 ม.9 บ.โนนสว่าง ต.นิคมคำสร้อย อ.นิคมคำสร้อย ผู้ปกครองนักเรียน โรงเรียนคำสร้อยพิทยาสรรค์คนหนึ่งกล่าวว่า อยากให้รัฐบาลได้ขยายโอกาสเรียนฟรี 15 ปีขึ้นไปอีกจากเดิม 15 ปี เป็นระดับอนุปริญญา หรือหากเป็นไปได้ก็อยากให้ถึงปริญญาตรี เพราะจะทำให้เด็กในชนบท ได้มีโอกาสศึกษาในระดับที่สูงขึ้นทัดเทียมกับนักเรียนที่อยู่ในเมือง