เชียงราย - ระดม อปพร.ฝึกใช้อาวุธปืน เตรียมพร้อมรับมืออาชญากรรมยาเสพติดพุ่ง หลังเศรษฐกิจตกต่ำ คนตกงานเพิ่ม
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย โดยนางรัตนา จงสุทธนามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้จัดให้มีการมอบเกียรติบัตรในการฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) แก่ อปพร.ที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 600 คนจาก 61 ชุมชนในเขตเทศบาลนครเชียงราย อ.เมือง
โดยมีการฝึกอบรมทั้งในภาคทฤษฎี ณ หอประชุม อบจ.เชียงราย ภายในสนามกีฬากลาง จ.เชียงราย และภาคปฏิบัติในการใช้อาวุธปืน โดยการฝึกใช้การยิงด้วยกระสุนจริงภายในสนามยิงปืนของสนามกีฬากลางดังกล่าว เพื่อให้ อปพร.ทุกคนมีความคุ้นเคยกับสถานการณ์จริง
ทั้งนี้ อปพร.ทั้งหมดจะทำหน้าที่ในการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่บ้านเมืองโดยเฉพาะตำรวจในการป้องกันการเกิดอาชญากรรม แก้ไขปัญหายาเสพติด การควบคุมการจราจรบนท้องถนน ในฐานะผู้ที่มีความชำนาญในการปฏิบัติงานอย่างแท้จริง
นางรัตนากล่าวว่า ปัญหาด้านเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้คนตกงานเป็นจำนวนมาก หลายคนตกงาน ทำให้ตัดสินใจหันมาประกอบอาชีพทุจริตไม่ว่าการลักขโมย ฉกชิงวิ่งราว และค้ายาเสพติด ทำให้จำนวนคดีเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ขณะที่กำลังพลของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีจำนวนน้อยนิดเมื่อเทียบกับพื้นที่การดูแล ดังนั้น ทาง อบจ.เชียงราย จึงเห็นว่าน่าจะมีการฝึกอบรม อปพร.ให้มีความรู้ความสามารถในด้านต่างๆ ที่เป็นการสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยอื่นๆ ตามความจำเป็น
“ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา อปพร.และตำรวจบ้านที่ได้รับการฝึกมีมากกว่า 5,000 คน และได้แสดงผลงานให้เห็นถึงขีดความสามารถให้ประจักษ์มาแล้ว สำหรับการฝึกอบรม อปพร.จำนวนกว่า 600 คนในครั้งนี้ ก็จะไปช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเฝ้าระวังปัญหาการลักขโมย ฉกชิงวิ่งราว และค้ายาเสพติด อันจะช่วยให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ในสังคมอยู่สงบสุขและมีความมั่นใจในชีวิตและทรัพย์สินต่อไป” นางรัตนา กล่าว
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในปัจจุบันปัญหาอาชญากรรมลักเล็กขโมยน้อยเกิดขึ้นเป็นประจำเกือบทุกวัน โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่หายในเขต อ.เมือง หรือแก๊งหลอกลวงต้มตุ๋นที่กำลังอาระวาดในเขต อ.แม่สาย และ อ.แม่จัน โดยแก๊งนี้จะมีคนในกลุ่มประมาณ 2-3 คน หรือบางครั้งออกหลอกลวงเพื่อหลอกเอาเงินจากชาวบ้านครั้งละเล็กๆ น้อยๆ เช่น หลอกว่าจ้างทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งจากนั้นยืมเงินครั้งละ 1,000-2,000 บาท จากนั้นก็หนีไปหลอกชาวบ้านในหมู่บ้านถัดๆ ไปต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีชาวบ้านถูกหลอกแล้วหลายรายโดยยังไม่สามารถจับกุมแก๊งนี้ได้