xs
xsm
sm
md
lg

งามหน้า! ตร.กาฬสินธุ์เมินรับแจ้งพ่อแม่บังคับลูกเร่ขอทาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กาฬสินธุ์ - ภายหลังหัวหน้าบ้านเด็กและครอบครัวกาฬสินธุ์ ควบคุมตัวพ่อแม่บังคับลูกสาววัย 4 ขวบ และลูกชายวัย 7 ขวบ เร่ขอทานในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จนชุดคุ้มครองเด็กใช้เวลาติดตามแรมเดือน สามารถจับได้ระหว่างถูกบังคับให้ขอทาน แต่กลับถูก ตร.เมืองกาฬสินธุ์ ปฏิเสธรับแจ้งความร้องทุกข์ ล่าสุดพ่อแม่พาเด็กหนีออกนอกจังหวัด ลั่นงานนี้ตำรวจต้องรับผิดชอบ

วันนี้ (22 ก.ค.) ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.กาฬสินธุ์ นายสุพัฒน์ สุระดนัย หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.กาฬสินธุ์ ได้เชิญสื่อมวลชนเข้ารับฟังการปฏิบัติหน้าที่ ภายหลังจากที่กลางดึกวานนี้ หน่วยเฉพาะกิจคณะกรรมการคุ้มครองเด็กและสตรีจากทุกภาคส่วน ได้ทำการช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 4 ขวบ และเด็กชายวัย 7 ขวบ ซึ่งถูกพ่อแม่บังคับให้ไปขอทานในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์

แต่ปรากฏว่า หลังจากเจ้าหน้าที่คณะกรรมการคุ้มครองเด็กฯ เข้าทำการช่วยเหลือพร้อมกับควบคุมตัวพ่อแม่เด็กส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิเสธที่จะรับดำเนินคดี

นายสุพัฒน์ สุระดนัย หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การเข้าช่วยเหลือทั้งจากเจ้าหน้าที่รวมไปถึงนโยบายของรัฐบาลก็นับเป็นสิ่งที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันแก้ไข แต่ในกรณีนี้รู้สึกผิดหวังกับการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน

ทั้งนี้ เหตุการณ์เข้าช่วยเหลือนั้นเกิดขึ้นในช่วงกลางดึกของวันที่ 21 กรกฎาคม 2552 โดยหน่วยเฉพาะกิจคณะกรรมการคุ้มครองเด็กและสตรี จ.กาฬสินธุ์ นำโดยตนเองได้เข้าควบคุมตัวสองสามีภรรยาคือนายอุทิศ ภูครอง อายุ 46 ปี และนางลำพูน ภูอาบทอง อายุ 26 ปี ชาว ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรม จนพบว่า มีการบังคับเด็กชายวัย 7 ขวบ และเด็กหญิงวัย 4 ขวบ สองพี่น้องซึ่งเป็นลูกแท้ๆ ออกไปเร่ขอทานตามสะพานลอย ตามร้านอาหารในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จนทำให้ผู้ที่พบเห็นได้ไปแจ้งเรื่องเอาไว้ให้ติดตาม จนสามารถสืบรู้และทำการควบคุมตัวมาได้ระหว่างนำเด็กทั้งสองคนไปปล่อยลงข้างสะพานลอยบริเวณตลาดทุ่งศรีเมือง

หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.กาฬสินธุ์ กล่าวต่อว่า พฤติกรรมของเด็กสองคนที่ออกมาเร่ขอทานตามร้านอาหารต่างๆ ในเขตเทศบาลเมือง จ.กาฬสินธุ์ สองพี่น้องนั้นจะเดินขอเงินกับประชาชนและเมื่อได้เงินก็จะวิ่งเอาเงินไปให้พ่อและแม่ที่รออยู่บริเวณเดียวกัน จากนั้นก็จะไปขออีกเรื่อยๆ ประชาชนที่พบเห็นก็รู้สึกเวทนา จนได้ติดตามวางแผนเข้าช่วยเหลือได้เมื่อคืนนี้

แต่ขณะที่กำลังนำตัวพ่อแม่เด็กส่งต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กลับไม่รับแจ้งความทั้งนี้ร้อยเวรเมื่อคืนนี้ คือ ร.ต.อ.ทรงศักดิ์ เกกาคำ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ปฏิเสธที่จะไม่รับแจ้งความในคดีนี้

โดยอ้างว่าไม่มีในข้อกฎหมายไม่ใช่การค้ามนุษย์ ทั้งนี้ ตนได้พยายามอธิบายถึงสิทธิของมนุษยชนที่ต้องได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญปี 2550 ซึ่งก็ได้ถกเถียงถึงข้อกฎหมายนานกว่า 1 ชั่วโมง แต่ทางร้อยเวรก็ยังยืนยันที่จะไม่รับแจ้งความ แม้จะมีผู้บังคับบัญชาระดับรองผู้กำกับการฯเข้ามาชี้แนะว่าสามารถดำเนินคดีได้ พนักงานสอบสวนยังได้สั่งให้ปล่อยตัวพ่อแม่เด็กไปด้วย

“ที่จริงแล้วพฤติกรรมของครอบครัวนี้ เราได้ติดตามมานานกว่า 1 เดือน มีลักษณะความผิดที่ชัดเจน บ้านเด็กและครอบครัว จ.กาฬสินธุ์ ต้องการเพียงแค่คุ้มครองเด็กให้มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าการถูกทรมาน ซึ่งตำรวจสามารถใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯเข้ามาแก้ปัญหานี้ได้ ทางเจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปส่งเสริมอาชีพให้กับครอบครัว”

แต่การปฏิเสธการปฏิบัติหน้าที่ของร้อยเวร สภ.เมือง กาฬสินธุ์ ทำให้รู้สึกผิดหวังมาก เหมือนกับสังคมขาดกำลังสำคัญในการดูแลเพราะเรื่องนี้ถือเป็นหน้าที่โดยตรงเช่นกันของผู้พิทักษ์สันติราษฎร

นายสุพัฒน์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้แจ้งไปทาง นางอัจฉรา พุ่มมณีกร หัวสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ทราบรายละเอียด เพื่อทำหนังสือสอบถามไปยัง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิเยาวชนและสตรีอีกครั้งว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และจะต้องติดตามกรณีต่อไปจนถึงที่สุด พร้อมกับจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมของคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิเด็กและสตรีจ.กาฬสินธุ์ เพื่อแจ้งให้ทุกส่วนราชการได้รับทราบพฤติกรรมของพนักงานสอบสวนคนนี้

มีรายงานแจ้งว่า ภายหลังจากที่เมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการปล่อยตัว พ่อแม่และเด็กออกไปแล้ว เจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็กและสตรี ได้ติดตามไปเฝ้าสังเกตการณ์ที่บ้านพักปรากฏว่าครอบครัวนี้ได้หายไปจากจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งหลายฝ่ายจึงมีความเป็นห่วงชะตากรรมของเด็กทั้งสองคนนี้เป็นอย่างมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น