พม.เปิดภาพลักษณ์ใหม่ “สายด่วนศูนย์ประชาบดี 1300” ขยายพื้นที่ เพิ่มคู่สายยังบ้านพักเด็กและครอบครัว ครอบคลุมทั่วประเทศ เตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษา ช่วยเหลือ ตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (17 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ รร.ปรินซ์พาเลซ นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานเปิดตัวภาพลักษณ์ใหม่ “ศูนย์ประชาบดี 1300 สายด่วนช่วยคุณได้” พร้อมทั้งกล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้เปิดศูนย์ประชาบดี 1300 มาตั้งแต่ปี 2548 เพื่อช่วยดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ประชาชนได้รับความทุกข์ยากเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน เป็นศูนย์กลางบริการให้คำปรึกษา รับแจ้งเรื่องราวร้องทุกข์ ปัญหาสังคม และแจ้งเบาะแสขบวนการค้ามนุษย์ รวมทั้งการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความคุ้มครอง ดูแล และช่วยเหลือผู้ตกเป็นเหยื่อตามกระบวนการอย่างครบวงจร
นายอิสสระกล่าวต่อว่า เพื่อให้ความช่วยเหลือเข้าถึงประชาชนมากยิ่งขึ้นจึงได้ขยายพื้นที่การให้บริการ ให้สามารถนำบริการไปสู่ประชาชนได้อย่างกว้างขวาง ทั่วถึง และแก้ไขปัญหาสังคมได้อย่างรวดเร็ว ฉับไว จึงได้มีการปรับปรุง กลไกการให้บริการของศูนย์ประชาบดี โทร.1300 จากเดิมที่มีพื้นที่การให้บริการค่อนข้างจำกัดอยู่ในส่วนกลาง หรือส่วนภูมิภาคที่มีเฉพาะสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) บางจังหวัดเท่านั้น แต่ขณะนี้ได้ประสานงานกับ TOT เพื่อเข้าติดตั้งคู่สายโทรศัพท์ 1300 ไว้ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว ทั้ง 76 แห่งทั่วประเทศแล้ว อีกทั้งเตรียมทีมงาน เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงานเฉพาะกิจไว้ตลอด 24 ชั่วโมง และในการปฏิบัติงานได้ประสานกับภาคี เครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาสังคมได้อย่างครบวงจร และเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง
“ส่วนใหญ่ประชาชนที่เดือดร้อนก็จะนึกถึงแต่มูลนิธิปวีณา ซึ่งในเรื่องที่ทางมูลนิธิสามารถจัดการได้ก็ให้เป็นหน้าที่ของมูลนิธิในการแก้ไขปัญหา แต่หากในบางเรื่องที่ต้องมีความจำเป็นที่จะต้องเยียวยา สงเคราะห์ ก็ได้ประสานกับทางมูลนิธิไว้แล้วว่าให้สามารถส่งต่อมายัง พม.โดยศูนย์ประชาบดี เพื่อช่วยเหลือได้” รมว.พม.กล่าว
สำหรับสถิติผู้ใช้บริการของศูนย์ประชาบดี 1300 ตั้งแต่ 1 ก.ค.2548 – 31 พ.ค. 2552 พบว่ามีประชาชน โทร. เข้ามาขอคำปรึกษาแนะนำบริการด้านข้อมูล สูงสุดจำนวน 32,012 ราย รองลงมาเป็นปัญหาเกี่ยวกับผู้สูงอายุ 6,643 ราย ปัญหาชีวิตและครอบครัว 6,196 ราย ปัญหาด้านการศึกษา 5,857 ราย ปัญหาสุขภาพอนามัย 4,721 ราย ปัญหาเด็ก เยาวชน 4,561 ราย ปัญหาขอทาน ต่างด้าว 3,681 ราย ปัญหาคนพิการ 3,342 ราย ปัญหาด้านสตรี 1,526 ราย ปัญหาเกี่ยวกับเพศ 964 ราย และอีกหลายปัญหารวมทั้งสิ้นกว่า 80,000 ราย
