ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- แม่ทัพภาคที่ 2 เผยเจรจา ผบ.ภูมิภาคทหารเขมร ล่าสุด ไม่มีอะไรคืบหน้าในการปรับลดกำลังทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ต่างฝ่ายรับข้อเสนอเพื่อนำปรึกษาผู้บังคับบัญชาระดับสูง ยันไทยไม่ยอมถอนกำลังก่อน หากตกลงได้ต้องถอนทั้งคู่ ย้ำชัดสถานการณ์ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทั้ง 2 ฝ่ายกำกับดูแลกำลังพลตัวเองได้ดี และเพิ่มความระมัดระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเปิดฉากปะทะขึ้นได้
ช่วงบ่ายวันนี้ (3 ก.ค.) ที่สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) เปิดเผยว่า สถานการณ์โดยรวมตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ส่วนผลการเจรจาหารือล่าสุด กับ พล.ท.เจีย มอญ ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายรับข้อเสนอซึ่งกันและกันจากนั้นจะนำข้อหารือไปปรึกษาผู้บังคับบัญชาระดับสูง ซึ่งยังไม่มีอะไรคืบหน้า เกี่ยวกับการปรับลดกำลังทหารของทั้ง 2 ฝ่าย
“ขอยืนยันว่า ในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่มีอะไรที่น่าหนักใจ กำลังทหารทั้ง 2 ฝ่ายก็ยังอยู่กันที่เดิม และยังพูดคุยกันได้ แต่เพิ่มความระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้เท่านั้น ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีอะไรผิดปกติ” พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าว
พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในการหารือกันครั้งล่าสุด กับ พล.ท.เจีย มอญ ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา นี้ ได้ย้ำว่าเราจะไม่ใช้ความรุนแรง และจะใช้สันติวิธีในการเจรจาไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น คิดว่าตอนนี้ทั้ง 2 ฝ่ายได้กำกับดูแลกำลังพลของตัวเองได้ดีขึ้น โดยที่ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และจะยังไม่มีการขยับกำลังออกจากพื้นที่โดยตอนนี้กำลังที่ประจำอยู่ทุกจุด ได้วางกำลังไว้ทั้งหมดแล้ว และเข้าใจกันดี เพียงแต่ว่ากำลังที่มากขึ้นควรมีการปรับลดให้เท่าเทียมกันเท่านั้นเอง
“หากจะให้เราถอนกำลังออกไปก่อนคงไม่ได้ จนกว่าจะตกลงกันได้ เพราะแต่ละฝ่ายยังอ้างสิทธิในพื้นที่อยู่ แต่หากจะถอนต้องถอนออกมาทั้งคู่ หากไม่ยอมออกก็ต้องอยู่กันอย่างนี้ต่อไป เราคงต้องรอคณะกรรมการปักปันเขตแดนที่จะมาชี้จุด ทหารเราจะมาชี้กันเองไม่ได้ เราต้องเฝ้าดูแลพื้นที่ของเราไปในความรับผิดชอบ” พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าว
พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีการเสนอให้มีการปรับลดกำลังพลกับอาวุธค่อนข้างมากที่นำเข้ามาในพื้นที่ชายแดน นั้น เราก็อยากให้ปรับลดให้มันเหมาะสม เพราะขนกันเข้ามากก็ทำให้เกิดความตรึงเครียดเพิ่มขึ้นและหวาดระแวงกันเปล่าๆ ทั้งที่ยืนยันกันว่าจะไม่มีการรุกรานกัน และเราจะมาพูดคุยกันว่าคงไม่มีประโยชน์หากเอาอาวุธมากมายมากดดันกัน ซึ่งมันทำให้เกิดความหวาดระแวงกันเปล่าๆ และหากเกิดเหตุการณ์สู้รบกันก็จะทำสูญเสียทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิตด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย พูดง่ายๆ หากมีการรบต้องมีการสูญเสียเกิดขึ้น
ส่วนกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่งคงของไทย จะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา นั้น พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรีคงไปภารกิจในการมอบเส้นทางที่ไทยได้สนับสนุนงบประมาณการก่อสสร้างให้กับประเทศกัมพูชา ส่วนตัวคิดว่าการไปพบปะกันบ่อยๆ จะได้ทำความเข้าใจกันมากขึ้น และทำให้ให้สถานการณ์ดีขึ้น
