ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์” มทภ. 2บินร่วมมถก “ผบ.ทหารภูมิภาคที่ 4 กัมพูชาที่ จ.สุรินทร์ เพื่อหารือการปรับกำลังทหารลดความตึงเครียดตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชาโดยเฉพาะด้านเขาพระวิหาร เผยกำลังทหารตามแนวชายแดนทั้ง 2 ฝ่ายมีอยู่มากควรปรับให้เหมาะสมและเท่าเทียมกัน ระบุหลังรองนายกฯสุเทพ พบ “ฮุน เซน” สถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้น พร้อมโต้ผู้นำเขมรหยามทหารไทยยันนักรบไทยล้วนมีประสบการณ์ความสามารถผ่านการฝึก และเตรียมความพร้อมปกป้องอธิปไตยไทยเต็มที่และไม่รุกรานใคร
ช่วงบ่ายวันนี้ (1 ก.ค.) ที่กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 (บชร.2) ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) พร้อมคณะได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังจังหวัดสุรินทร์(ที่โอร์เสม็ดรีสอร์ท สถานกาสิโนชายแดน ฝั่งโอร์เสม็ด ประเทศกัมพูชาตรงข้ามด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์) เพื่อเจรจาหารือกับ พล.ท.เจีย มอญ ผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 กัมพูชา ในการปรับลดกำลังทหารตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา
พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า การเดินทางไปในครั้งนี้ เพื่อเจรราหารือเรื่องการปรับลดกำลังเนื่องจากกำลังทหารที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะเขาพระวิหารที่มีกำลังทหารของทั้ง 2 ฝ่ายอยู่มาก จึงควรปรับให้มีความเหมาะสม เท่าเทียมกัน และอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ได้เปรียบเสียเปรียบกัน
“จะไปคุยกันว่ากำลังที่ขึ้นมาอยู่ตามแนวชายแดนมากๆ นี้มันควรจะอยู่กันแค่ไหนจึงจะเหมาะสมและพอสมควร ในเมื่อเรามีเจตนารมณ์ที่จะไม่รุกรานกัน เพียงแต่รักษาอธิปไตยของแต่ละประเทศไว้ ด้วยความเหมาะสม และเจรจากันด้วยสันติวิธี” พล.ท.วิบูลศักดิ์ กล่าว
พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในการปรับลดกำลังทหารตามแนวชายแดนนั้น คงต้องมีการหารือกันหลายรอบจึงจะนำไปสู่การปฏิบัติ เพราะมีรายละเอียดมาก ในการเจรจาครั้งนี้พยายามที่จะให้นำไปสู่การปฏิบัติจริงเพื่อให้ลดความตึงเครียด เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ยอมหากไม่ได้พูดคุยเจรจากันก็จะเกิดปัญหาลุกลามได้ โดยเฉพาะเรื่องอื่น ๆ อาจมีการให้ข่าวสารที่ผิดพลาด อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ในระดับพื้นที่ยังพูดคุยกันได้และปฏิบัติตามนโยบาย ส่วนการปรับลดกำลังทหารนั้นจะพิจารณาดูในจุดที่มีความตึงเครียดมาก ๆ ก็จะเริ่มปรับจากจุดนั้นก่อน
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 มุ่งมั่นที่จะให้เกิดสันติ โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นพื้นที่พิพาทพยายามที่จะให้ปัญหาตรงนี้หมดไปหรือไม่ให้มีปัญหาเพิ่มขึ้นอีก
พล.ท.วิบูลศักดิ์ กล่าวอีกว่า หลังจากคณะของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงของไทย เดินทางไปเยือนพบปะ นายฮุนเซน นายกรัฐมนตรี กัมพูชาอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ผ่านมา ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ดีขึ้น เพราะมีการเจรจาระดับนโยบายแล้ว ก็ชัดเจนว่าไม่มีการใช้อาวุธ จะใช้การเจรจากันทุกระดับอย่างรอบคอบ คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา
ส่วนกรณีที่นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรี ออกมาให้ข่าวว่า ฝ่ายไทยจะต้องใช้กำลังทหารจำนวนมาก 30,000-50,000 นาย จึงจะสามารถต่อสู้กับทหารกัมพูชาที่เพียง 10,000 นาย บนเขาพระวิหารได้เพราะล้วนเป็นทหารที่กรำศึกมานาน นั้น พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวว่าเรื่องนี้ไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าเราก็ดูแลพื้นที่อธิปไตยของเราได้ ส่วนตัวเองรบมาอายุเกือบ 60 ปีแล้ว คิดว่าสามารถที่จะดูแลอธิปไตยของไทยได้ ผู้ใต้บังคับบัญชาก็ล้วนมีประสบการณ์ มีความพร้อม และมีการฝึกเตรียมความพร้อมมาโดยลำดับ คิดว่าคงไม่เป็นปัญหาเพราะว่าเรายืนยันว่าเราจะไม่รุกรานซึ่งกันและกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม นอกจากพล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 จะเดินทางไปเจรจากับ พล.ท.เจีย มอญ ผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 กัมพูชาแล้ว ยังมีกำหนดการตีกอล์ฟกระชับความสัมพันธ์กับผู้นำทหารสูงสุดของฝ่ายกัมพูชาในวันที่ 2 และ 3 ก.ค.นี้ ที่ประเทศกัมพูชาด้วย
