พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการเตรียมเดินทางเยือนกัมพูชาเพื่อหารือถึงประเด็นพิพาทเขาพระวิหารในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ว่า จะไปคุยกับ สมเด็จฮุน เซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชาในเรื่องทั่วไป เพราะเป็นประเทศใกล้กันมีอะไรก็คุยกัน ซึ่งคงไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นเขาพระวิหาร เพราะ ครม.ไม่ได้พูดถึงเขาพระวิหาร แต่พูดถึงประเด็นยูเนสโกว่าเป็นองค์กรที่สร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในโลก ทำอะไรต้องให้เกิดสันติภาพ เป็นเรื่องเกี่ยวกับสมาชิกของยูเนสโกที่จะนำปราสาทพระวิหารขึ้นเป็นมรดกโลก ไม่เกี่ยวกับกัมพูชา
ส่วนเรื่องกระแสข่าวเสริมกำลังบริเวณเขาพระวิหาร ตนไม่ทราบยังไม่ได้รับรายงาน ยังไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะแม่ทัพภาคที่ 2 และกำลังพลในพื้นที่ มีการพูดคุยกันอยู่ ทั้งนี้ คงไม่ฝากอะไรถึงกัมพูชา เพราะเดี่ยวจะไปพูดคุยกัน ซึ่งกัมพูชาก็รู้ดี โดยเฉพาะสมเด็จฮุน เซ็น ก็รู้ว่าหากมีอะไรต้องคุยกัน
พล.ต.จิตตสักก์ เจริญสมบัติ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมสภากลาโหมว่า ในที่ประชุมไม่มีการพูดถึงกรณีเขาพระวิหาร แต่ รมว.กลาโหม ได้ให้ความมั่นใจว่าการเดินทางไปเยือนกัมพูชาในวันที่ 27 มิ.ย. เพื่อทำความเข้าใจ ในระดับของรัฐบาลให้เข้าใจตรงกันถึงเจตนาของรัฐบาลไทยในสิ่งที่ดำเนินการ และมั่นใจว่า การพูดคุยครั้งนี้จะไม่มีเหตุการณ์การปะทะกัน เพราะไม่มีใครต้องการจะให้เกิดการใช้กำลังจนกลายเป็นการสู้รบ
ด้านพล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยถึงสถานการณ์แนวชาย แดนไทย-กัมพูชา บริเวณเขาพระวิหาร ว่า ในขณะนี้สถานการณ์ยัเป็นปกติ การวางกำลังทหาร ก็วางไว้เต็มที่เท่าที่สามารถจะทำได้ ไม่สามารถเพิ่มกำลังทหารเข้าพื้นที่ได้อีก แต่ว่า ทางกองทัพภาคที่ 2 ก็จะใช้การสับเปลี่ยนหมุนเวียนกำลังพลที่ประจำอยู่ในพื้นที่ เป็นระยะเวลานาน ซึ่งอาจจะมีอาการเหนื่อยล้าออกมา และจะส่งกำลังพลที่มีความสดชื่นเข้าไปปฏิบัติหน้าที่แทน
ส่วนทางด้านการเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชา ที่มีการเสริมกำลัง และอาวุธหนักเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่องนั้น ทางกองทัพภาคที่ 2 ก็ได้ติดตามสถานการณ์ อย่างใกล้ชิด ซึ่งหากฝ่ายกัมพูชามีการเสริมกำลัง หรือยุโธปกรณ์เข้ามาในพื้นที่ มากเพียงใด ทางกองทัพ ก็จะจัดเตรียมกำลังและอาวุธเพื่อเตรียมพร้อมให้เหมาะสมกับทางกัมพูชาเช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้ในส่วนของพื้นที่บริเวณตัวปราสาทบนเขาพระวิหารนั้น ไม่สามารถที่จะเพิ่มกำลังทหารให้เข้ามามากกว่านี้ได้อีกแล้ว
ส่วนความอดทนอดกลั้น ต่อการยั่วยุของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอารมณ์ และความรู้สึกต่อกำลังพลที่เผชิญหน้ากันอยู่จนอาจนำไปสู่การสู้รบกันนั้น พล.อ.วิบูลย์ศักดิ์ ยืนยันว่า ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้มีการดูแลกำลังพลกันตามลำดับชั้น โดยจะมีผู้บังคับบัญชาของแต่ละหน่วยควบคุมอย่างใกล้ชิด เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการประทะกันขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ก็ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้กำลังพลมีขวัญและกำลังใจดีเยี่ยม โดยสถานการณ์ทุกวันนี้นั้น ก็ได้มีการพูดคุยกันในระดับผู้บังคับบัญชาของทั้ง 2 ฝ่ายมาอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งตนเองมั่นใจว่าจนถึงตอนนี้ ทหารของฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชายังจะสามารถพูดคุยกันได้ คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ส่วนกรณีที่ทางฝ่ายกัมพูชา มักจะมีท่าที และคำพูดออกมาตามสื่อต่างประเทศ ในลักษณะที่ท้าทายฝ่ายไทยนั้น พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ เพียงสั้นๆว่า ขอให้สื่อสารมวลชน เป็นผู้ติดตามข่าวสารเอาเองว่า เขาพูดมาอย่างไร ส่วนทางทหารนั้นจะขอปฏิบัติตามหน้าที่ของตนเองเท่านั้น หากมีกระสุนเล็ดลอดเข้ามาตกอยู่ทางฝ่ายไทย ทางกองทัพ ก็พร้อมที่จะตอบโต้ทุกรูปแบบ แต่ทั้งนี้ตนเองได้สั่งการให้กำลังที่ประจำอยู่ในทุกจุด ให้อดทนอดกลั้นอย่างที่สุด และยังได้กำชับให้กำลังพลทุกนาย ห้ามประมาทและให้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
นายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ขณะนี้ กรมอุทยานฯ ยังคง ปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ที่ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ต่อไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากยังเป็นห่วงเรื่องของความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว จากสถานการณ์ ความตึงเครียด บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่อาจจะกลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง
เมื่อสัปดาห์ก่อน กรมอุทยานฯ ได้รับการร้องขอจาก จ.ศรีสะเกษ ให้เปิด อุทยานเขาพระวิหาร ในช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษานี้ แต่กรมอุทยานฯ ได้ขอให้จังหวัด หาคำยืนยันจากทางทหารมารับรองเรื่องความปลอดภัย ซึ่งเดิมเตรียมจะเปิดให้บริการในวันที่ 1 ก.ค.นี้ แต่ปรากฏว่า ในสัปดาห์นี้ทางคณะกรรมการแห่งชาติ ว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกของไทย ที่มีนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ขอให้คณะกรรมการมรดกโลก ขององค์การยูเนสโก ทบทวนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร เป็นมรดกโลกในที่ประชุมที่ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 22-30 มิ.ย.นี้ ทำให้ประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ทางด่านปราสาทพระวิหาร ค่อนข้างตึงเครียดอีกครั้ง ดังนั้นกรมอุทยานฯ จึงชะลอการเปิดให้บริการออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์ชายแดนจะคลี่คลาย
นายบุญมี บัวต้น นายก อบต. เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ทหารไทยและกัมพูชา กำลังเผชิญหน้าห่างกันในระยะไม่กี่ร้อยเมตร อีกทั้งฝ่ายกัมพูชาได้เสริมกำลังทหาร และอาวุธหนัก เช่น อาร์ พี จี ปืนใหญ่รัศมีทำการไกล และรถถัง ตลอดเวลา แต่ทหารชั้นผู้น้อยของทั้งฝ่ายไทย และกัมพูชา ยังคงพูดคุย และไปมาหาสู่ แลกเปลี่ยนสินค้ากันตามปกติ แต่ได้สั่งห้ามราษฎรออกไปเก็บหาของป่า ตามตะเข็บชายแดน เพราะอาจเกิดอันตราย จากลูกระเบิดที่ถูกแอบฝังไว้ และอาจถูกทหารฝ่ายตรงข้ามจับกุมตัวได้
ส่วนเรื่องกระแสข่าวเสริมกำลังบริเวณเขาพระวิหาร ตนไม่ทราบยังไม่ได้รับรายงาน ยังไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะแม่ทัพภาคที่ 2 และกำลังพลในพื้นที่ มีการพูดคุยกันอยู่ ทั้งนี้ คงไม่ฝากอะไรถึงกัมพูชา เพราะเดี่ยวจะไปพูดคุยกัน ซึ่งกัมพูชาก็รู้ดี โดยเฉพาะสมเด็จฮุน เซ็น ก็รู้ว่าหากมีอะไรต้องคุยกัน
พล.ต.จิตตสักก์ เจริญสมบัติ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมสภากลาโหมว่า ในที่ประชุมไม่มีการพูดถึงกรณีเขาพระวิหาร แต่ รมว.กลาโหม ได้ให้ความมั่นใจว่าการเดินทางไปเยือนกัมพูชาในวันที่ 27 มิ.ย. เพื่อทำความเข้าใจ ในระดับของรัฐบาลให้เข้าใจตรงกันถึงเจตนาของรัฐบาลไทยในสิ่งที่ดำเนินการ และมั่นใจว่า การพูดคุยครั้งนี้จะไม่มีเหตุการณ์การปะทะกัน เพราะไม่มีใครต้องการจะให้เกิดการใช้กำลังจนกลายเป็นการสู้รบ
ด้านพล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยถึงสถานการณ์แนวชาย แดนไทย-กัมพูชา บริเวณเขาพระวิหาร ว่า ในขณะนี้สถานการณ์ยัเป็นปกติ การวางกำลังทหาร ก็วางไว้เต็มที่เท่าที่สามารถจะทำได้ ไม่สามารถเพิ่มกำลังทหารเข้าพื้นที่ได้อีก แต่ว่า ทางกองทัพภาคที่ 2 ก็จะใช้การสับเปลี่ยนหมุนเวียนกำลังพลที่ประจำอยู่ในพื้นที่ เป็นระยะเวลานาน ซึ่งอาจจะมีอาการเหนื่อยล้าออกมา และจะส่งกำลังพลที่มีความสดชื่นเข้าไปปฏิบัติหน้าที่แทน
ส่วนทางด้านการเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชา ที่มีการเสริมกำลัง และอาวุธหนักเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่องนั้น ทางกองทัพภาคที่ 2 ก็ได้ติดตามสถานการณ์ อย่างใกล้ชิด ซึ่งหากฝ่ายกัมพูชามีการเสริมกำลัง หรือยุโธปกรณ์เข้ามาในพื้นที่ มากเพียงใด ทางกองทัพ ก็จะจัดเตรียมกำลังและอาวุธเพื่อเตรียมพร้อมให้เหมาะสมกับทางกัมพูชาเช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้ในส่วนของพื้นที่บริเวณตัวปราสาทบนเขาพระวิหารนั้น ไม่สามารถที่จะเพิ่มกำลังทหารให้เข้ามามากกว่านี้ได้อีกแล้ว
ส่วนความอดทนอดกลั้น ต่อการยั่วยุของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอารมณ์ และความรู้สึกต่อกำลังพลที่เผชิญหน้ากันอยู่จนอาจนำไปสู่การสู้รบกันนั้น พล.อ.วิบูลย์ศักดิ์ ยืนยันว่า ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้มีการดูแลกำลังพลกันตามลำดับชั้น โดยจะมีผู้บังคับบัญชาของแต่ละหน่วยควบคุมอย่างใกล้ชิด เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการประทะกันขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ก็ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้กำลังพลมีขวัญและกำลังใจดีเยี่ยม โดยสถานการณ์ทุกวันนี้นั้น ก็ได้มีการพูดคุยกันในระดับผู้บังคับบัญชาของทั้ง 2 ฝ่ายมาอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งตนเองมั่นใจว่าจนถึงตอนนี้ ทหารของฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชายังจะสามารถพูดคุยกันได้ คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ส่วนกรณีที่ทางฝ่ายกัมพูชา มักจะมีท่าที และคำพูดออกมาตามสื่อต่างประเทศ ในลักษณะที่ท้าทายฝ่ายไทยนั้น พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ เพียงสั้นๆว่า ขอให้สื่อสารมวลชน เป็นผู้ติดตามข่าวสารเอาเองว่า เขาพูดมาอย่างไร ส่วนทางทหารนั้นจะขอปฏิบัติตามหน้าที่ของตนเองเท่านั้น หากมีกระสุนเล็ดลอดเข้ามาตกอยู่ทางฝ่ายไทย ทางกองทัพ ก็พร้อมที่จะตอบโต้ทุกรูปแบบ แต่ทั้งนี้ตนเองได้สั่งการให้กำลังที่ประจำอยู่ในทุกจุด ให้อดทนอดกลั้นอย่างที่สุด และยังได้กำชับให้กำลังพลทุกนาย ห้ามประมาทและให้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
นายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ขณะนี้ กรมอุทยานฯ ยังคง ปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ที่ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ต่อไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากยังเป็นห่วงเรื่องของความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว จากสถานการณ์ ความตึงเครียด บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่อาจจะกลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง
เมื่อสัปดาห์ก่อน กรมอุทยานฯ ได้รับการร้องขอจาก จ.ศรีสะเกษ ให้เปิด อุทยานเขาพระวิหาร ในช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษานี้ แต่กรมอุทยานฯ ได้ขอให้จังหวัด หาคำยืนยันจากทางทหารมารับรองเรื่องความปลอดภัย ซึ่งเดิมเตรียมจะเปิดให้บริการในวันที่ 1 ก.ค.นี้ แต่ปรากฏว่า ในสัปดาห์นี้ทางคณะกรรมการแห่งชาติ ว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกของไทย ที่มีนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ขอให้คณะกรรมการมรดกโลก ขององค์การยูเนสโก ทบทวนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร เป็นมรดกโลกในที่ประชุมที่ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 22-30 มิ.ย.นี้ ทำให้ประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ทางด่านปราสาทพระวิหาร ค่อนข้างตึงเครียดอีกครั้ง ดังนั้นกรมอุทยานฯ จึงชะลอการเปิดให้บริการออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์ชายแดนจะคลี่คลาย
นายบุญมี บัวต้น นายก อบต. เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ทหารไทยและกัมพูชา กำลังเผชิญหน้าห่างกันในระยะไม่กี่ร้อยเมตร อีกทั้งฝ่ายกัมพูชาได้เสริมกำลังทหาร และอาวุธหนัก เช่น อาร์ พี จี ปืนใหญ่รัศมีทำการไกล และรถถัง ตลอดเวลา แต่ทหารชั้นผู้น้อยของทั้งฝ่ายไทย และกัมพูชา ยังคงพูดคุย และไปมาหาสู่ แลกเปลี่ยนสินค้ากันตามปกติ แต่ได้สั่งห้ามราษฎรออกไปเก็บหาของป่า ตามตะเข็บชายแดน เพราะอาจเกิดอันตราย จากลูกระเบิดที่ถูกแอบฝังไว้ และอาจถูกทหารฝ่ายตรงข้ามจับกุมตัวได้