ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์” มทภ.2 ยันทหารไทยไม่รุกเข้ายึดเนิน 600 แต่พื้นที่ดังกล่าวเป็นของไทย มีทหารประจำการมาโดยตลอด และที่ผ่านมาทำตามข้อตกลงทุกอย่าง เชื่อ สื่อเขมรเสนอข้อมูลไม่ถูกต้องนำสู่ความขัดแย้ง ระบุ หากทหารทั้ง 2 ฝ่ายเผชิญหน้าจะใช้หลักเจรจาก่อน แต่ยืนยันหากฝ่ายตรงข้ามเปิดปะทะทหารไทยต้องตอบโต้เพื่อป้องกันตัว และไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เผยไฟเขียวการเปิดอุทยานฯ เขาพระวิหาร รับนักท่องเที่ยว แล้ว กองทัพภาค 2 พร้อมดูแลความปลอดภัย
วันนี้ (31 พ.ค.) ที่สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 (มภท.2) เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ภายหลังเป็นประธานมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรข้าราชการและลูกจ้างประจำของกองทัพภาคที่ 2 ประจำปี 2552 ว่า สถานการณ์โดยรวมด้านชายแดนเขาพระวิหารยังเป็นปกติดี ทหารไทยและกัมพูชายังคงตรึงกำลังทหารไว้ตามปกติ และมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
ส่วนกรณีที่สื่อของกัมพูชา เสนอข่าวว่า ทางการกัมพูชา กล่าวหาว่า ทหารไทยราว 20 คน รุกล้ำเข้าไปปักหลักพักค้างที่บริเวณเนิน 600 ซึ่งเป็นจุดสูงบนทิวเขาดงรัก อยู่ห่างจากปราสาทพระวิหารไปทางตะวันออกราว 7 กิโลเมตร ทำให้ฝ่ายกัมพูชาต้องส่งกำลังราว 30 นายไปตรึงแนวเอาไว้ ที่บริเวณบ้านโอจักจะเรง (Chak Chreng) โดยตั้งอยู่เชิงเขาห่างจากเนิน 600 ลงไปราว 1 กิโลเมตรบริเวณเนิน 600 ก็เป็นพื้นที่ชายแดนทั่วๆ ไป เพียงแต่พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สำคัญและเป็นพื้นที่สูง โดยปกติทหารไทยก็อยู่ประจำจุดดังกล่าวและบริเวณรอบๆ มาโดยตลอด เพื่อเฝ้าตรวจตราและลาดตระเวนตามแนวชายแดน
การนำกำลังเข้าไปในพื้นที่นั้นเพื่อจะควบคุมดูแลเขตแดนของตัวเองเท่านั้น ดูแล้วก็ไม่เห็นมีอะไร ซึ่งการที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้จัดกำลังเข้ามาอยู่ตรงนั้น ได้มีการพูดคุยเจรจากันแล้ว และเอาแผนที่มาดูกันแล้วว่า เขตของใคร อยู่ในพื้นที่ใด ถ้าไม่ชัดเจนก็รายงานให้คณะกรรมการปักปันเขตแดนเข้ามาชี้จุดเพื่อแก้ปัญหา
อย่างไรก็ตาม จากรายงานทราบว่า ทางฝ่ายกัมพูชามีการเคลื่อนไหวกำลังพลเข้ามาประชิดตลอดแนวชายแดน ส่วนทหารไทยเรายังอยู่ประจำจุดที่เคยอยู่ต่อไป ไม่มีการถอนกำลังอย่างเด็ดขาด แต่หากเรื่องดังกล่าวจะนำไปสู่การปะทะกัน โดยหากฝ่ายกัมพูชามีการใช้อาวุธยิงเข้ามาก่อน ฝ่ายไทยก็ต้องป้องกันตัวด้วยการตอบโต้เหมือนทุกครั้ง
“เชื่อว่า จากบทเรียนที่ผ่านมาของการปะทะกันหลายครั้ง คงไม่มีฝ่ายใดอยากให้เกิดขึ้นเพราะจะนำมาสู่การสูญเสีย ฉะนั้นปัญหาหรือข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้น จะต้องแก้ไขด้วยการเจรจากันในทุกระดับตั้งแต่กองทัพ ตั้งแต่ระดับผู้ปฏิบัติขึ้นไป ทุกอย่างก็จะลงเอยด้วยดี” พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าว
พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวย้ำว่า ทหารไทยไม่ได้รุกล้ำเข้าไปในลักษณะที่เป็นข่าวตามที่สื่อของกัมพูชาเสนอ เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น คิดว่า น่าจะเป็นการนำเสนอของสื่อมวลชนกัมพูชาที่อาจให้ข่าวไม่ถูกต้อง และอาจนำมาเป็นสาเหตุของความขัดแย้งได้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ไทยอยู่ในข้อตกลงที่ให้ไว้ร่วมกันทุกอย่าง ผู้บังคับหน่วยในระดับผู้ปฏิบัติมีการพัฒนาความสัมพันธ์และพูดคุยกันตลอดยังไม่มีปัญหาอะไรที่จะส่งผลกระทบให้เกิดความขัดแย้ง
นอกจากนี้ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ ยังกล่าวถึงการเปิดให้ประชาชนขึ้นไปเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ว่า ในส่วนของกองทัพได้แจ้งให้ทางจังหวัดศรีสะเกษ และทางอุทยานฯรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบแล้วว่าพื้นที่ดังกล่าวมีความปลอดภัย พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวและประชาชนขึ้นมาเที่ยวชมได้แล้ว
“ฉะนั้น ขณะนี้ก็เป็นเรื่องของทางจังหวัดศรีสะเกษและทางอุทยานฯ ว่าจะประกาศให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวชมได้เมื่อไหร่ ทหารมีความพร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยให้ตลอด” พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าว