รัฐมนตรีต่างประเทศยืนยันความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชายังดี ชี้มีปัญหาต่อสายคุย “ฮุน เซน” ได้ เชื่อสองฝ่ายรักสันติไม่อยากสู้รบกัน ปัดไม่รู้เรื่องถอนทหาร โยนฝ่ายกลาโหมจัดการ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายกษิต ภิรมย์ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (1 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ประกาศพร้อมรบ และเรียกร้องให้ไทยถอนกำลังทหารออกจากบริเวณปราสาทพระวิหารก่อนว่า เรื่องการถอนกำลังทหารนั้นอยู่ที่กระทรวงกลาโหมจะพิจารณา อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาตอนนี้ยังไม่มีอะไร ความสัมพันธ์ระหว่างกันยังดีอยู่ และนายกรัฐมนตรีของทั้ง 2 ประเทศได้พบปะกันไม่รู้กี่ครั้งแล้ว อีกทั้งยังได้ให้คำมั่นต่อกันว่าจะดำเนินการคบค้าสมาคมอย่างฉันมิตร ถ้ามีเรื่องอะไรก็ให้แก้ไขด้วยสันติวิธี
เมื่อถามว่าเหตุใดสมเด็จฯ ฮุนเซนจึงมีท่าทีแข็งกร้าวเช่นนี้ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ อย่างไรก็ตาม ถ้ามีปัญหาอะไรก็สามารถต่อสายตรงถึงกันได้ทุกเมื่อ จะบินไปพบกันหรือจับเข่าคุยกันก็ได้ ทั้งนี้ เท่าที่ทราบตอนนี้ยังไม่มีอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าฝ่ายกัมพูชามักจะออกมาพูดบ่อยครั้งในการเรียกร้องให้ฝ่ายไทยถอนทหารก่อน นายกษิตกล่าวว่า ไม่เป็นอะไร ไม่มีปัญหา ถ้ามีอะไรก็พูดจากัน ทั้งนี้ในช่วง 6 เดือนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาเป็นนายกรัฐมนตรี ฝ่ายไทยและกัมพูชามีการพบกันทุกระดับ ดังนั้น เราต้องมีความมั่นใจว่าทั้ง 2 ประเทศรักสันติภาพ และมีคำมั่นสัญญาต่อกัน อีกทั้งไม่มีใครอยากสู้รบกับใคร เรามีการเจรจากันมาตลอด และเรื่องดังกล่าวถือเป็นมรดกตกทอด
เมื่อถามว่าเป็นความบกพร่องของกระทรวงการต่างประเทศหรือไม่ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ถ้าคิดว่ากระทรวงการต่างประเทศบกพร่อง ก็แล้วแต่จะคิดกัน อย่างไรก็ตาม เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เมื่อถามต่อว่ากัมพูชาอาจไม่เข้าใจฝ่ายไทยในการขอให้คณะกรรมการมรดกโลก องค์การ การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ทบทวนการขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก นายกษิตกล่าวว่า ไม่มี เขาเข้าใจ เพราะสิ่งนี้เป็นเรื่องที่เราพูดกับคณะกรรมการมรดกโลก ไม่ใช่พูดกับกัมพูชา
ต่อข้อถามว่ากังวลต่อการที่กัมพูชามักออกมาให้สัมภาษณ์สื่อในเชิงที่กระทบต่อความสัมพันธ์กับไทยหรือไม่ นายกษิตกล่าวว่า ไม่กังวล เมื่อตนมารับทำหน้าที่แล้ว ถ้ามีปัญหาก็แก้ไขกันไป