xs
xsm
sm
md
lg

“อ๋อย”แหลหลุดโลกพูดความจริงเสี้ยวเดียวปลุก“เสื้อแดง”เชียงราย/เปิดวีดีโอ“แม้ว”กล่อมสาวก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย – “อ๋อย”หลุดโลกปลุกมวลชนเสื้อแดงเชียงราย ยุ ส.ส.เพื่อไทยทั้งจังหวัดนำมวลชนออกมาชุมนุมประท้วง พร้อมกับด่าศาล รธน.เป็นชุด แต่เลือกพูดความจริงครึ่งเดียว มั่วนิ่ม เอาดีเข้าตัว เอาชั่วใส่คนอื่นตลอดงาน “ยิ้ม-วิสาระดี” อ้างไม่ได้จัดงานคนเสื้อแดง แต่คนร่วมล้วนเสื้อแดงทั้งสิ้น แถมเปิด วีดีโอ“แม้ว” กล่อมสาวก

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคงคลล้านนา เขตพื้นที่เชียงราย ตั้งอยู่ ต.ทรายขาว อ.พาน จ.เชียงราย เมื่อ 12 มิ.ย.52 นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้เดินทางไปเป็นวิทยาการในการบรรยายการอบรมสัมมนาเรื่องประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมและช่องทางการทำงานร่วมกับคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญ รัฐวิสาหกิจ องค์กรมหาชนและกองทุน ซึ่งจัดโดยคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าวนำโดย น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เชียงราย เขต 2 พรรคเพื่อไทย ลูกสาวของนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ อดีตกรรมการพรรคไทยรักไทยซึ่งถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี-ผู้ต้องหาที่ร่วมกับคนเสื้อแดงปิดถนนพหลโยธินบริเวณสี่แยกแม่กรณ์ อ.เมือง ในเหตุการณ์เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา

น.ส.วิสาระดี และนายวิสาร ให้การต้อนรับ รวมทั้งมี ส.ส.เชียงราย คือนายรังสรรค์ วันชัยธนวงศ์ และนายสฤษฎ์ อึ้งอภินันท์ ส.ส.พรรคเพื่อไทยเข้าร่วมด้วย ขณะที่ผู้เข้าร่วมรับฟังเป็นกลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเชียงรายนำโดย น.ส.จีรนันท์ จันทวงษ์ กลุ่ม นปช.เชียงราย 52 นำโดยนายณรงค์ ทิพย์นวล ฯลฯ เข้าร่วม

ก่อนการบรรยายมีการเปิดวีดีโอของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคดี ซึ่งอ้างว่าอยู่ที่ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ พูดเป็นภาษาเหนือสั้นๆ ว่า น.ส.วิสาระดี พึ่งจะไปเยี่ยมที่ดูไบ และระบุว่าการอยู่ในต่างประเทศก็ยากลำบากบ้าง โดยเฉพาะวันเกิดครบรอบ 60 ปีในวันที่ 26 ก.ค.นี้คงจะไม่ได้กลับไปฉลองที่ประเทศไทย แต่ที่ประเทศไทยประชาชนก็ยากลำบากเหมือนกัน แต่อนาคตทุกอย่างคงจะดีขึ้นถ้าเราต่อสู้ต่อไป

จากนั้น น.ส.วิสาระดี ได้ปราศรัยต่อกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ครั้งนี้ไม่ได้เป็นงานเสื้อแดงแต่เป็นการอบรมสัมมนาโดยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาบรรยายเท่านั้น ซึ่งขัดกับภาพที่เห็นซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่เต็มห้องประชุมไปหมด

ขณะที่นายรังสรรค์กล่าวกับคนเสื้อแดงที่ไปรับฟังว่า ปัจจุบันมี ส.ส.หลายคนหมุนเวียนกันไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ล่าสุดคือนายสฤษฎ์ และ น.ส.วิสาระดี ซึ่งพึ่งกลับมาเมื่อเย็นวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ดังนั้นพวกเรายืนยันว่ากระแสข่าวที่ว่าจะมีคนย้ายไปพรรคภูมิใจไทยนั้นไม่เป็นความจริง โดยเกือบจะแถลงข่าวในวันที่ 12 มิ.ย.พร้อมกันแล้วว่า ส.ส.ทั้ง 8 คน จากพรรคเพื่อไทยในเชียงรายจะไม่ย้ายไปไหนแต่ติดตรงที่ 2 คนแรกไปพบอดีตนายกรัฐมนตรีที่ดูไบนั่นเอง

ต่อมานายจาตุรนต์ ได้ขึ้นบรรยายโดยเล่าถึงการออกหนังสือเล่มใหม่เพื่ออธิบายวิวัฒนาการเกี่ยวกับการเมืองไทย และได้เล่าถึงปัญหาวิกฤติของประเทศที่ผ่านมาว่าเกิดจากบ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย และต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อแก้ไขวิกฤติ
พร้อมกับได้เล่าเรื่องการเมืองเหมือนเวทีคนเสื้อแดงทั่วไปว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันตั้งกันในค่ายทหาร และเมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาชุมนุมก็ถูกปราบปรามจนมีภาพกลายเป็นผู้ร้าย และทหารออกมาปราบปรามได้ผลและไม่รุนแรง แต่ปัจจุบันก็มีคนออกมาแฉกันมากถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงยังคงชุมนุมกันเป็นดอกเห็ดทั่วประเทศ ต่อมานายอภสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ให้ตั้งคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหา แต่โอกาสแก้รัฐธรรมนูญคงยากเพราะอดีตหัวหน้าพรรค 2 คนก็แสดงความไม่เห็นด้วย

นายจาตุรนต์ บรรยายต่อว่า ระหว่างที่คณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาไปอย่างช้าๆ นี้ ก็เกิดการชุมนุมไปทั่วประเทศยกเว้นที่เชียงราย ซึ่งมีแกนนำคนเสื้อแดงนับ 10 คนถูกดำเนินคดีอยู่ ไม่คึกคักเหมือนที่อื่น ทั้งๆ ที่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทยถึง 8 คน ดังนั้นถ้าอยากแก้ปัญหาด้วยการทำให้เป็นประชาธิปไตยก็ต้องให้ ส.ส.เชียงราย ทั้งหมดรวมทั้งปาร์ตี้ลิสต์อีก 3-4 คน ออกมาประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทั่วจังหวัด มีการชุมนุมกันซักประมาณ 5,000 คน ถ้ามีการจับก็ลองให้ ส.ส.ทั้งหมดเดินขึ้นไปกองบังคับการตำรวจและไปชุมนุมกันที่กองบังคับการดูซิว่าจะทำได้หรือไม่

นายจาตุรนต์ บรรยายต่อไปอย่างดุเดือดว่า ตั้งแต่ปี 2539 เป็นต้นมาพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยได้เสียงในสภามากเป็นอันดับ 1 เลยร่วม 13 ปี แต่ก็เกิดกลุ่มงูเห่าจนทำให้นายชวน หลีกภัย ได้เป็นนายกรัฐมนตรี จากนั้นก็มานายอภสิทธิ์ ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย.49 พรรคประชาธิปัตย์กลับไม่ลงสมัครแต่ปรากฏว่าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ แสดงว่าศาลรัฐธรรมนูญได้ก้าวก่ายอำนาจของประชาชนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาและอำนาจของประชาชนก็ถูกหักล้าง โดยที่นายจาตุรนต์ไม่ได้พูดให้หมดว่าสาเหตุที่การเลือกตั้งนั้นเป็นโมฆะก็เพราะ กกต.จัดการเลือกตั้งโดยผิดกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคไทยรักไทย จน กกต.ชุดดังกล่าวถูกศาลสั่งจำคุกในเวลาต่อมา

นายจาตุรนต์ บอกอีกว่า พอทหารยึดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญก็แยกย้ายกันกลับบ้านตัวใครตัวมัน ไม่เคยออกมาปกป้องรัฐธรรมนูญทั้งๆ ที่ได้ปฏิญาณตนแล้วว่าจะรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญทุกประการ

ช่วงหนึ่งที่นายจาตุรนต์ กล่าวหาศาลรัฐธรรมนูญอย่างมีอารมณ์และยังพาดพิงอย่างต่อเนื่องว่าจากนั้นศาลรัฐธรรมนูญก็ตัดสินยุบพรรคไทยรักไทย พร้อมทั้งตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 111 คน และทำให้เกิดคนบ้านเลขที่ 111 รวมทั้งตนซึ่งไม่มีความผิดหากจะผิดก็แค่คน 2-3 คนเท่านั้น หลังการยึดอำนาจของทหารในปี 2549 ยิ่งทำให้ตนนึกถึงหนังจีนที่ฮ่องเต้ประหารชีวิตคนครั้งละมากๆ แต่เรากลับนำมาใช้ในยุคนี้

ทั้งนี้ นายจาตุรนต์ไม่เคยอธิบายในความผิดของพรรคไทยรักไทยที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยตามรายละเอียดที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษาให้ยุบพรรค เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่ากรรมการบริหารพรรคได้ว่าจ้างผู้สมัครจากพรรคขนาดเล็กให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 2 เม.ย.49 เพื่อหลีกเลี่ยงเงื่อนไขที่ต้องได้คะแนนเสียง 20 % หากมีผู้สมัครเพียงพรรคเดียว ข้อเท็จริงเหล่านี้นายจาตุรนต์ไม่พูดให้ผู้เข้ารับการอบรมสัมมนาครั้งนี้ได้รับทราบเลย

อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวอีกว่าท้ายที่สุดมีการเลือกตั้งใหม่ ส.ส.รวมตัวกันใหม่เป็นพรรคพลังประชาชนและชนะการเลือกตั้งอีก ก็มีการคัดค้านรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่มาจากคณะมนตรีความมั่นคง (คมช.) ซึ่งทำให้เกิดความไม่เป็นประชาธิปไตยและความเป็นธรรมดังกล่าว เมื่อมีความคิดจะแก้รัฐธรรมนูญและพรรคพลังประชาชนบริหารประเทศถูกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมต่อต้านมีการยึดทำเนียบรัฐบาล สนามบิน 2 แห่ง แต่ศาลก็ให้ประกันตัวออกมาและยังกลับไปยึดสถานที่ดังกล่าวได้อีก แต่พอทีนายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นไปทำรายการอาหารคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ก็ยื่นศาลรัฐธรรมนูญชี้มูลความผิดให้นายสมัครพ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรีไป

"เขาได้รับเลือกตั้งมาจากประชาชน คุณเอาออกไปได้อย่างไร ช่างเป็นกฎหมายที่ไร้สาระ รู้ไหมทำไมประเทศพม่าจึงมีการเลือกตั้ง เพราะประชาชนเรียกร้อง แต่ทหารพม่าก็ยังคุมขังนายอองซาน ซูจี เอาไว้อยู่ ว่าจะเลือกตั้งปี 2552-2553 ก็เห็นว่าเลื่อนไปแล้วเพราะถ้าปล่อยให้นางออกซานซูจีลงเลือกตั้งก็ชนะอีก"

อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ นายจาตุรนต์ได้บิดเบือนข้อเท็จจริงอีกครั้ง เพราะการชุมนุมของพันธมิตรฯ เมื่อปี 51 นั้น จุดเริ่มต้นไม่ใช่เพื่อต่อต้านรัฐบาลพรรคพลังประชาชน แต่เป็นการต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 เพื่อให้พรรคพลังประชาชนพ้นจากคดียุบพรรคหลังจากนายยงยุทธ ติยะไพรัช กรรมการบริหารพรรคคนหนึ่งถูกศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตัดสินว่ามีความผิดในคดีซื้อเสียงที่ จ.เชียงราย นอกจากนี้ยังเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พ้นจากคดีความต่างๆ ที่ คตส.ได้ทำการสอบสวนและชี้มูลเอาไว้ ภายหลังจากการชุมนุมของพันธมิตรฯ รัฐบาลนายสมัครได้มีพฤติกรรมที่ส่อทุจริตหลายเรื่อง เช่น การยกพื้นที่ปราสาทพระวิหารให้กัมพูชา การเร่งก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ การเสนอโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 6,000 คันมูลค่า 1 แสนกว่าล้าน รวมทั้งการปล่อยให้นายจักรภพ เพ็ญแข รมต.สำนักนายกฯ หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป้าหมายการชุมนุมของพันธมิตรฯ จึงยกระดับมาเป็นการขับไล่รัฐบาลด้วย

นอกจากนี้ การชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่เข้าไปชุมนุมในสนามบินนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลได้ปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างป่าเถื่อนเมื่อวันที่ 1 ต.ค. หลังจากนั้นก็มีการยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่ผู้ชุมนุมในทำเนียบ จนมีผู้เสียชีวิตแทบทุกคืน โดยที่รัฐบาลไม่สนใจติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี พันธมิตรฯ จึงต้องยกระดับการชุมนุมกดดันรัฐบาล ด้วยการไปชุมนุมในสนามบินดังกล่าว

สำหรับกรณีนายสมัคร ถูกศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาให้พ้นคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีนั้น ไม่ใช่แค่ไปทำรายการอาหาร แต่มีการกระทำที่ขัดกับบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญที่ห้ามไม่ให้นายกรัฐมนตรีเข้าไปมีผลประโยชน์ในธุรกิจของเอกชน โดยกรณีนายสมัคร ไม่ได้แค่ไปทำรายการอาหารแต่มีหลักฐานเรื่องการรับผลประโยชน์จากรายการดังกล่าวนับล้านบาท และการให้นายกฯ ไปเป็นพิธีกรรายการก็ทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรม

ต่อมานายจาตุรนต์ยังได้บรรยายอีกว่า เมื่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแทน การดำเนินคดีกับพันธมิตรฯ ก็ไม่ชัดเจน และต่อมาก็ถอนฟ้องข้อหาเป็นผู้ก่อการร้ายไปเสียอีก แต่ กกต.กลับไปให้ใบแดงกับนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนเรื่องการทุจริตการเลือกตั้ง กกต.แค่ 5 คนซึ่งมาจาก คมช.กลับให้ใบแดงและศาลรัฐธรรมนูญก็ยืนยันว่าเมื่อ กกต.ให้ใบแดงแล้วก็ไม่จำเป็นต้องพิจารณาอีกจึงให้ยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการอีก 5 ปีแสดงว่าคนเพียงแค่ 5 คนจะยุบใครก็ได้ทั้งนั้น

กรณี นายจาตุรนต์บรรยายได้มั่วมาก เพราะขณะที่ชุมนุมในทำเนียบพันธมิตรฯ ไม่เคยถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย มีแต่ข้อหากบฏ ซึ่งศาลอุทธรณ์ชี้ว่าเป็นข้อหาที่เลื่อนลอยจึงต้องถอนข้อหาดังกล่าว ส่วนการให้ใบแดงนายยงยุทธนั้น ไม่ใช่ กกต.ทั้ง 5 คน นึกอยากจะให้ก็ให้ แต่มาจากพยานหลักฐานที่มีการรวบรวมและทำสำนวนขึ้นไป โดยหลักฐานสำคัญคือภาพวิดีโอ นอกจากนี้ กกต.ทั้ง 5 คนก็ไม่ได้มาจาก คมช.แต่มาจาการโหวตเลือกโดยสมาชิกวุฒิสภาชุดก่อนเมื่อครั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯ เพียงแต่ขั้นตอนการแต่งตั้งยังไม่แล้วเสร็จ พ.ต.ท.ทักษิณก็ถูกยึดอำนาจเสียก่อน และเมื่อ คมช.เข้ามาก็ลงนามแต่งตั้ง กกต.ทั้ง 5 คนที่มีการโหวตเลือกไว้แล้ว

สำหรับโทษยุบพรรคนั้น ก็มีข้อบัญญัติในรัฐธรรมนูญมาก่อนหน้านี้แล้วแต่ไม่เคยมีการออกมาคัดค้าน รวมทั้งนายจาตุรนต์เคยออกมาพูดก่อนหน้านี้แล้วว่าจะยอมรับการตัดสินทุกกรณีเพราะเชื่อมั่นในศาล แต่เมื่อพรรคของตัวเองและพรรคพลังประชาชนถูกกระทำ กลับออกมาให้ข้อมูลดังกล่าว ขณะเดียวกันยังกล่าวหาอีกว่าปัจจุบันความไม่เป็นธรรมตามความเข้าใจของนายจาตุรนต์ดังกล่าวลงถึงระดับท้องถิ่นแล้ว โดยมีบางครั้ง กกต.ท้องถิ่นให้ใบขาวแต่เมื่อไปถึง กกต.กลางทั้ง 5 อาจสั่งให้ใบแดงก็ได้ แต่นายจาตุรนต์กลับไม่พูดถึงว่าในบางพื้นที่ เช่น บุรีรัมย์ กกต.พื้นที่ให้แดงผู้สมัครพลังประชาชน แต่ กกต.กลางพิจารณาแล้วให้แค่ใบเหลืองหรือใบขาว

นายจาตุรนต์ ยังย้อนถึงเรื่องในอดีตว่า พรรคไทยรักไทยไม่เคยแทรกแซงองค์กรอิสระตามที่ถูกกล่าวหา ไม่เช่นนั้นคงไม่มีการตัดสินให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะในยุคที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ลงสมัครด้วย แต่ไม่ได้อธิบายให้ผู้เข้ารับการอบรมทราบว่าองค์กรอิสระดังกล่าวหมายถึง กกต.ในยุค “สามหนาห้าห่วง” ซึ่งพยายามช่วยเหลือพรรคไทยรักไทยจนมีความผิดเป็นที่ประจักษ์ตามที่ศาลได้ตัดสินดำเนินคดีไปแล้ว ส่วนการตัดสินให้การเลือกวันที่ 2 เม.ย. 49 เป็นโมฆะนั้น มาจากศาลรัฐธรรมนูญที่ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าไปแทรกแซงไม่ได้ทั้งหมด และขณะนั้นกระแสสังคมออกมาต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณอย่างรุนแรงมาก

อย่างไรก็ตาม ระหว่างนายจาตุรนต์บรรยาย ถึงข้อมูลจะมั่วแค่ไหน ก็มีกลุ่มคนเสื้อแดงให้ความสนใจและปรบมือให้เป็นระยะๆ ขณะที่คนจำนวนน้อยที่อยู่ด้านหลังกลับไม่ค่อยเข้าใจและทยอยกันออกไปรออยู่ด้านนอกห้องประชุม

นายจาตุรนต์ ยังบอกอีกว่า ขณะที่ กกต.ในปัจจุบันมาจาก คมช.และ คมช.ในวันนี้ก็ยังเหลืออยู่คือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.คนซึ่งครั้งหนึ่งกลุ่ม พธม.ออกมายึดทำเนียบรัฐบาลก็บอกว่าทหารจะเป็นกลางทางการเมือง เมื่อมีการยึดสนามบินก็บอกว่าทหารจะไม่ทำร้ายประชาชนและกลับเสนอให้มีการยุบสภาผู้แทนราษฎรเสียอีก แต่พอกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาชุมนุมกันบ้างทหารกลับออกมาเต็มไปหมดทั้งใช้อาวุธหลักคือปืนเอ็ม 16 มีรถฮัมวี รถถัง ปืนกลเต็มอัตราศึกพร้อมจะรบกับกองทัพไหนก็ได้ รวมทั้งเข้าไปจัดการกับประชาชนที่ชุมนุมตอนตี 4 ดังนั้นเมื่อ คมช.ไม่เป็นกลาง กกต.ก็ไม่เป็นกลางเช่นกัน

อย่างไรก็ตามนายจาตุรนต์ไม่ได้อธิบายให้ชัดเจนว่าการชุมนุมของ พธม.ที่ทำเนียบรัฐบาลเพราะพรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นนอมินี่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ นักโทษคดีอาญากำลังแก้รัฐธรรมนูญเพื่อช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ และสาเหตุที่ย้ายไปที่สนามบินก็เพราะถูกปืนเอ็ม 76 ยิง จนเจ็บตายเกือบทุกคืน รวมทั้งก็ไม่ได้ยึดสนามบินเพียงแต่ไปชุมนุมกันภายในลานหน้าสนามบินแต่คนสั่งปิดคือ ผู้บริหารสนามบินสุวรรณภูมิเอง ขณะที่การชุมนุมของคนเสื้อแดงมีการเข้าไปล้มการประชุมผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจาที่พัทยาทำให้ประเทศได้รับความเสียหายอย่างมหาศาล ทั้งยังเหิมเกริมถึงขั้นประกาศจับตัวนายกรัฐมนตรี และปิดการจราจรตามจุดสำคัญๆ ของกรุงเทพฯ จนรัฐบาลต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน ซึ่งทหารมีอำนาจที่จะออกมารักษาความสงบ ส่วนในสมัยรัฐบาลนายสมัครได้ประกาศภาวะฉุกเฉินหลังจากกลุ่มคนเสื้อแดงยกพวกจากสนามหลวงมาไล่ทุบตีการ์ดพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานและถูกตอบโต้ โดยสถานการณ์ได้คลี่คลายไปแล้วจึงมีการประกาศ

นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันมาจากการย้ายขั้ว โดยอ้างอย่างลอยๆ ว่า ทหารขู่ว่าจะปฏิวัติ ทำให้สังคมไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่สมดุลทำให้การปกครองโดยราบรื่นทำได้ยาก นักลงทุนก็ไม่กล้าเข้ามาลงทุน กฎหมายก็ไม่เป็นกฎหมายเพราะมีการใช้ 2 มาตรฐาน กลุ่ม พธม.ถูกถอนข้อหาก่อการร้าย แต่พอกลุ่มคนเสื้อแดงไปก่อเหตุที่พัทยาในการประชุมนานาชาติแกนนำกลับถูกจับกุมใส่กุญแจมือทันที ส่วนนายกษิต ภิรมย์ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ ที่เป็นกลุ่ม พธม.กลับได้รับตำแหน่ง แสดงว่าบ้านเมืองไม่มีขื่นมีแป

กรณีนี้นายจาตุรนต์ก็มั่วเหมือนเคย เพราะการใช้ 2 มาตรฐานนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ ต่างหาก และพันธมิตรฯ ไม่เคยถูกถอนข้อหาก่อการร้าย มีแต่ถอนข้อหากบฏ เพราะเป็นข้อหาที่เลื่อนลอย ส่วนข้อหาก่อการร้ายกรณีที่เขาไปชุมนุมในสนามบินนั้นยังอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ และข้อหาการก่อการร้ายนั้นจะเข้าข่ายก็ต่อเมื่อทำความเสียหายร้ายแรงให้กับระบบขนส่งคมนาคม แต่พันธมิตรฯ ไม่ได้ทำลายข้าวของใดๆ เลย จะเห็นว่าหลังจากยุติชุมนุมเพียง 1 วัน สนามบินสุวรรณภูมิก็เปิดบริการได้ตามปกติ ส่วนการล้มประชุมอาเซียนของคนเสื้อแดงเป็นความผิดซึ่งหน้า เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการจับกุมได้ทันที แต่ก็ยังบมีการอลุ้มอะหล่วยออกหมายจับในภายหลัง

ส่วนที่อ้างว่านายกษิตได้เป็นรัฐมนตรีทั้งที่เป็นพันธมิตรฯ เท่ากับบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแปนั้น ก็เป็นคำกล่าวที่มาจากข้อสรุปแบบเหมารวมว่าถ้าเป็นพันธมิตรฯ ต้องมีความผิดติดตัว ห้ามมีตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น โดยที่นายจาตุรนต์ไม่พูดถึงแกนนำ นปช.ที่ก่อคดีที่หน้าบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ แต่บางคนได้เป็นรัฐมนตรี ได้เป็นโฆษกรัฐบาลและบางคนก็ยังเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทยอยู่จนทุกวันนี้ ซึ่งการพูดของนายจาตุรนต์สะท้อนถึงความเห็นแก่ตัว ต้องการปกป้องพรรคพวกของตัวเอง และให้ร้ายคนอื่น โดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริง

ท้ายสุดนายจาตุรนต์ สรุปว่า การจะออกมาชุมนุมกันมากๆ คงจะเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเรียกคืนประชาธิปไตยกลับมาไม่ได้ เพราะแม้แต่กลุ่ม พธม.ที่ชุมนุมกันมากก็ยังไม่ได้ผลเพราะมีปัจจัยอื่นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเองหมด จึงต้องใช้การแก้รัฐธรรมนูญคือให้ได้รับการเลือกตั้งเข้าไปมากๆ ภายใต้การชุมนุมของประชาชนจำนวนมากๆ เพื่อสนับสนุนการแก้ไขดังกล่าว

จากนั้นเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปซักถามและแสดงความเห็น ปรากฎว่ามีคนเสื้อแดงคนหนึ่งแสดงความเห็นอยากให้ ส.ส.เชียงราย ทั้ง 8 คนสนับสนุนคนเสื้อแดงด้วยการจัดหาสถานที่กลางในการชุมนุมด้วย แต่นายสฤษฏ์ อึ้งอภินันท์ ส.ส. เชียงรายพรรคเพื่อไทย กลับตัดบทด้วยการขึ้นกล่าวถึงเรื่องอื่น ก่อนที่จะกล่าวขอบคุณนายจาตุรนต์และพิธีกรก็เชิญมอบของที่ระลึกอันเป็นการจบการอบรมสัมมนาไปโดยปริยาย


กำลังโหลดความคิดเห็น