xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนาเชียงรายลุ้น ครม.เพิ่มโควตาจำนำข้าวอีกรอบวันนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย - ชาวนาปรังลุ้น ครม.อีกเฮือก พิจารณาขยายโควตาจำนำข้าวให้อีกรอบ ขณะที่ตำรวจเชิญแกนนำรับข้อหาปิดถนนทำคนอื่นเดือดร้อน

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (12 มิ.ย.) พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.เชียงราย ได้มีหนังสือเชิญให้แกนนำกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังซึ่งประสบความเดือดร้อนจากราคาผลผลิตในปีนี้ตกต่ำ ถึงขั้นมีการรวมตัวกันปิดถนนสายสำคัญๆ ใน จ.เชียงราย มาแล้วหลายครั้งไปชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจะดำเนินคดีกับแกนนำที่ทำการปิดถนนดังกล่าว โดยการปิดถนนมีขึ้นในวันที่ 30 พ.ค.บนถนนพหลโยธินสายเชียงราย-แม่จัน หน้าศาลเจ้ากิ่วทัพยั้ง ต.แม่จัน อ.แม่จัน และหลังจากยื่นข้อเสนอไปยังรัฐบาลให้ขยายโควตาและระยะเวลารับจำนำออกไปแล้วไม่เป็นผลก็กลับไปปิดกันอีกรอบในวันที่ 4 มิ.ย. ควบคู่กับกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ อ.พาน

ทั้งนี้ แกนนำที่ไปรับฟังคำชี้แจงที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงราย นำโดยนายบุญแต่ง ธรรมสาร แกนนำ อ.แม่สาย นายบุญเรียน โนพะเส้า แกนนำ อ.เชียงแสน นายอำพล เวียงสิมา แกนนำจาก อ.พาน และยังมีแกนนำคนอื่นๆ ไปให้กำลังใจอีกหลายคน

โดย พล.ต.ต.ทรงธรรม ได้ให้ พ.ต.อ.ณรงค์ชัย วงศ์สามี รอง ผบก.ภ.เชียงราย ได้ชี้แจงถึงความจำเป็นของตำรวจในการดำเนินคดีว่ากรณีการปิดถนนดังกล่าวเกิดขึ้นจริงเป็นที่ประจักษ์ว่าได้ทำให้ผู้สัญจรไปมาเดือดร้อน ทางตำรวจจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ด้วยเหตุนี้จึงดำเนินคดีต่อแกนนำจำนวน 6 คนใน 3 ข้อหาคือพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการจราจร พระราชบัญญัติเกี่ยวกับทางหลวง และมีการใช้เครื่องเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่เนื่องจากเห็นใจต่อชาวนาซึ่งประสบปัญหาอย่างแท้จริงทางตำรวจจึงไม่อยากจะดำเนินคดี

แต่เพราะกฎหมายกำหนดและเพื่อไม่ให้ถูกมองว่าเลือกปฏิบัติ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยดำเนินคดีทางการเมืองมาแล้ว จึงขอให้แกนนำแต่ละอำเภอได้ทำหนังสือขอความเป็นธรรมหรือเห็นใจต่อตำรวจ อัยการ และศาล เพื่อให้เข้าใจในเจตนารมณ์ว่าการกระทำดังกล่าวไม่ได้มุ่งสร้างความวุ่นวาย แต่เพื่อสื่อสารไปถึงรัฐบาลให้เข้าไปช่วยเหลือแก้ไขปัญหาของชาวนาซึ่งเชื่อว่าจะทำให้คดีผ่อนหนักเป็นเบาได้

พล.ต.ต.ทรงธรรม กล่าวว่า เห็นใจในความทุกร้อนของชาวนามากแต่ก็จำเป็นต้องดำเนินคดี แต่กรณีของพระราชบัญญัติการจราจรและการใช้เครื่องเสียงนั้นไม่มีปัญหาเพราะโทษแค่เปรียบเทียบปรับ แต่กรณีพระราชบัญญัติทางหลวงนั้นโทษสูงสุดถึงขั้นจำคุก 3 ปีและเคยมีคนถูกดำเนินคดีมาแล้วหลังปิดถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน แต่ด้วยความเห็นใจชาวนาตำรวจจึงจะไม่ดำเนินคดีอย่างเข้มและไม่ต้องประกันตัวใดๆ เพราะเรื่องนี้ไม่มีการเมืองและไม่มีเจตนามุ่งปลุกปั่นสร้างความวุ่นวาย เพียงแต่อยากสื่อสารไปยังรัฐบาลเท่านั้น

ดังนั้น จึงให้ชาวนาได้เขียนถึงเจตนาที่แท้จริง เล่าถึงความทุกข์ยากเพื่อชี้ให้อัยการและศาลเห็น สำหรับในอนาคตเชื่อว่ายังคงจะต้องมีม็อบลักษณะนี้อีกแน่เพราะยังมีผลผลิตอีกหลายอย่าง เช่น ข้าวนาปี มันสัมปะหลัง ข้าวโพด ฯลฯ ในอนาคตจึงขอให้มีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง ใช้สถานที่ที่ไม่กระทบสิทธิผู้อื่น ฯลฯ เพราะหากทุกกลุ่มปิดถนนกันหมด ปัญหาก็จะเกิดขึ้นไม่รู้จบ


ด้านแกนนำกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง แจ้งกับตำรวจว่า ชาวนามีความจำเป็นเพราะต้องเร่งขายเร่งเกี่ยวหนีฝนน้ำก็จะท่วมนาปีก็ต้องรีบทำ แต่มาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาลช้ามาก แม้จะมีการปิดถนนก็ไม่มีเจตนาทางการเมืองเพราะพบว่ามีกลุ่มคนเสื้อแดงบางกลุ่มพยายามจะเข้าไปร่วมด้วย แต่กลุ่มชาวนาห้ามปรามไว้เพราะไม่อยากให้การเมืองเข้าไปยุ่งด้วย

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า หลังรับฟังคำชี้แจงต่างๆ แล้ว แกนนำชาวนาได้เข้าพบนายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เพื่อขอความชัดเจนในมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาลที่ศาลากลาง จ.เชียงราย ซึ่งนายสุเมธ พร้อมด้วยนายไพบูลย์ ขันธบุญ การค้าภายใน จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (12 มิ.ย.) คณะรัฐมนตรีจะประชุมกันเรื่องนี้อีกครั้งและคงจะมีการขยายปริมาณข้าวตามโครงการรับจำนำต่อไป แต่คงไม่ได้เต็ม 1 แสนกว่าตันตามที่ชาวนาระบุว่าเป็นผลผลิตคงค้าง แต่อาจจะนำร่องก่อนด้วยการนำโควตากลางประมาณ 4,000-5,000 ตัน ออกมาช่วยก่อนและค่อยพิจารณาต่อไป ตามราคาจำนำคือข้าวจ้าว 5% ความชื้นไม่เกิน 15% ราคาตันละ 11,800 บาท ข้าวเหนียวคละความชื้นไม่เกิน 15% ราคาตันละ 9,000 บาท แลข้าวเหนียว 10% เมล็ดยาวความชื้นไม่เกิน 15% ราคาตันละ 10,000 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น