xs
xsm
sm
md
lg

ยก“พังกำไล”ขึ้นเตียงเหล็กไฮดรอลิกราบรื่น – ทีมแพทย์พระราชทานระบุอาการดีขึ้นมาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทีมสัตวแพทย์พระราชทาน ระดมกำลังเจ้าหน้าที่สารวัตรปศุสัตว์ –ทหาร และเอกชน ใช้เครนยกช้าง “พังกำไล” ขึ้นเตียงเหล็กไฮดรอลิกขนาดใหญ่ ล่าสุดอาการดีขึ้นมาก วันนี้ ( 11 มิ.ย.)
สุรินทร์ - ทีมสัตวแพทย์พระราชทาน ระดมกำลังเจ้าหน้าที่สารวัตรปศุสัตว์ -ทหารและเอกชน ใช้เครนยกช้าง “พังกำไล” ขึ้นเตียงเหล็กไฮดรอลิกขนาดใหญ่ราบรื่นสำเร็จตามเป้าหมาย เผยออกแบบขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อให้รักษาได้สะดวกและระบบไหลเวียนเลือดช้างดีขึ้น ระบุผลการรักษาล่าสุดอาการช้างดีขึ้นมาก เตรียมถอนทีมสัตวแพทย์พระราชทานพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) แต่ยังคงติดตามและให้คำปรึกษาทีมสัตวแพทย์ประจำ รพ.ช้างสุรินทร์อย่างใกล้ชิด

วันนี้ (11 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น. ทีมสัตวแพทย์พระราชทานสถาบันวิจัยและบริการสุขภาพแห่งช้างชาติ จังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สารวัตรปศุสัตว์ ทหาร จาก กองกำลังสุรนารี ,จังหวัดทหารบกสุรินทร์, กรมสรรพวุธทหารบก ,กองพลทหารราบที่ 6 กองทัพภาคที่ 2 และ องค์กรภาคเอกชนจังหวัดสุรินทร์ ได้ร่วมใช้รถเครนและเครนของโรงพยาบาลช้าง ภายในสถาบันวิจัยและบริการสุขภาพแห่งช้างชาติ จ.สุรินทร์ ทำการยกช้าง “พังกำไล” หรือ “พังแต๋น” ขึ้นเตียงเหล็กไฮดรอริกขนาดใหญ่ซึ่งทีมสัตวแพทย์พระราชทานได้ทำการออกแบบ เพื่อใช้สำหรับรักษาช้างพังกำไลหรือพังแต๋นเป็นการเฉพาะ

โดยเตียงเหล็กไฮดรอลิกดังกล่ว ได้ออกแบบให้สามารถปรับระดับตั้งชันได้ถึง 90 องศา เหมือนกับช้างยืนได้ ทำให้ระบบไหลเวียนของโลหิตช้างดีขึ้นและปรับระดับลาดเอียงได้ตามต้องการ ซึ่งจะทำให้การรักษาช้างสะดวกมากขึ้น นอกจากนั้นยังทำการเจาะพื้นเตียงให้เป็นรูตรงกับบริเวณบาดแผลของช้างพังแต๋น เพื่อให้สะดวกต่อการล้างทำความสะอาดบาดแผล

การปฎิบัติการยกช้างพังแต๋นขึ้นเตียงเหล็กในครั้งนี้ ได้มีการชักซ้อมทีมงาน และแบ่งภาระกิจกันอย่างชัดเจน เพื่อให้สามารถปฎิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว และช้างไม่ได้รับความกระทบกระเทือนมากนัก ซึ่งดำเนินไปอย่างราบรื่น ช้างพังแต๋นไม่แสดงอาการดื้อขัดขืนแต่อย่างใด และให้ความร่วมมือในการปฎิบัติงานเป็นอย่างดี ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็สามารถยกช้างพังแต๋นขึ้นเตียงเหล็กไฮดรอลิกได้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ทำให้ทีมงานทั้งหมดโล่งใจไปตามๆ กัน และ จากนี้ไปการรักษาช้างพังแต๋นก็จะสะดวกมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ส่วนการทำสเต็มเซลล์ ครั้งที่ 2 เพื่อรักษาช้างพังแต๋น ซึ่งมีกำหนดการทำสเต็มเซลล์ในเช้าวันนี้ต้องระงับลง เนื่องจากทีมสัตวแพทย์พระราชทานได้ตรวจเม็ดเลือดของช้างพังแต๋นพบว่าเม็ดเลือดไม่สมบูรณ์มีลักษณะเลือดจางไม่เข้มข้น ประกอบกับบาดแผลบริเวณเท้าซ้ายที่ช้างนอนกดทับในขณะนี้ บาดแผลยังลึกและมีเนื้อตายจึงระงับการทำสเต็มเซลล์ในครั้งที่ 2 ไว้ก่อน

ทางด้านทีมสัตวแพทย์พระราชทานรายงานผลการรักษาและอาการของช้างพังแต๋น ล่าสุดวันนี้ (10 มิ.ย.) ระบุ ว่า อาการช้างพังกำไลหรือพังแต๋นมีอาการดีขึ้น มีการตอบสนองที่ดี กินอาหารและดื่มน้ำได้มาก วันนี้ได้ให้กินสารพลาสมาเพิ่มอีก 4 ขวด กินอาหารได้หลากหลาย สัตวแพทย์พบบาดแผลที่ขาหนีบ ใต้ท้อง ต้นขาหลังขวา โหนกแก้มซ้าย คิ้วซ้ายใต้คาง ขาหนีบ ข้างซ้าย ซึ่งเกิดจากการนอนกดทับเป็นเวลานาน พบเนื้อตายบางส่วนที่บริเวณบาดแผลขาซ้ายหน้า ที่ปากมีบาดแผลเล็กน้อย ช่องปากมีแผลเล็กน้อย บาดแผลเริ่มดีขึ้น โดยทั่วไปอาการช้างพังกำไลดีขึ้นตามลำดับเป็นที่พอใจของคณะสัตวแพทย์พระราชทานที่ทำการรักษามาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้สัตวแพทย์ได้ให้การรักษาด้วยการล้างบาดแผล นวดตามลำตัวบริเวณกดทับ เพื่อกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ ให้น้ำเกลือผสมวิตามินซีเข้มข้น น้ำเกลือผสมวิตามินบี ในการบำรุงร่างกาย ฉีดยาปฏิชีวนะ บรรเทาอาการปวด ให้วิตามินอีและธาตุซีลีเนียมเสริมให้กับช้าง ทำการตรวจค่าเลือดในห้องปฏิบัติการเพื่อหาค่าเลือดในการใช้ยารักษาอาการบาดเจ็บของช้าง ซึ่งการนำช้างขึ้นเตียงไฮดรอริกได้สำเร็จจะทำให้สะดวกในการทำความสะอาดบาดแผลของช้าง บริเวณกดทับ และ จะทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทีมสัตวแพทย์พระราชทานทั้งหมดจะถอนกำลังเจ้าหน้าที่แพทย์ทั้งหมด ในวันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) เพื่อไปปฎิบัติงานในพื้นที่ จ.เพชรบุรี โดยจะจัดส่งทีมแพทย์พระราชทานเดินทางมาติดตามความคืบหน้าของการรักษาช้างพังกำไล หรือพังแต๋นและให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดแก่ทีมสัตวแพทย์ประจำอยู่ที่สถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติ ในการรักษาช้างพังแต๋นต่อไป เพราะขณะนี้ช้างพังแต๋น มีอาการดีขึ้นมากแล้ว







กำลังโหลดความคิดเห็น