ฉะเชิงเทรา - ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เรียกผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ถกด่วนกลางดึก หวังหาช่องแก้ปัญหาการต่อต้านโรงไฟฟ้า
เมื่อค่ำวานนี้ (9 มิ.ย.) ที่ห้องประชุม 2 ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เรียกประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้าน นักการเมืองท้องถิ่น ในพื้นที่โดยรอบโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเสม็ดเหนือ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวนกว่า 100 คน ประชุมด่วนเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหา ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมปิดถนนต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้า
ในการรับฟังความคิดเห็นจากผู้นำชุมชนและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพลังงานจังหวัด การไฟฟ้าฝ่ายผลิต และอัยการจังหวัด ที่ต้องตอบข้อซักถามจากผู้นำชุมชน ที่ต่างตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการเข้ามาเตรียมการก่อสร้างโรงไฟฟ้าของผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชน ว่ามีโครงการดังกล่าวเข้ามาในพื้นที่ได้อย่างไร
ขณะที่พลังงานจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่างตอบข้อซักถามตรงกันว่า หากผู้ประกอบการทำประชาพิจารณ์จากภาคประชาชนไม่ผ่านก็ไม่สามารถที่จะก่อสร้างได้ และยังมีกระบวนการที่จะต้องผ่านอีกหลายขั้นตอน ทั้งการทำอีไอเอ (EIA หรือรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม) และการขอดำเนินการปลูกสร้างจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งหากองค์กรท้องถิ่นไม่อนุญาตให้ทำการก่อสร้างก็ไม่สามารถที่จะทำการก่อสร้างได้เช่นเดียวกัน
แต่จะเกิดผลเสียหายต่อทางภาครัฐเองที่ต้องเสียผลประโยชน์ในภาพรวมด้านพลังงานของประเทศ ที่ทางฝ่ายภาครัฐเป็นผู้เสียเปรียบ หากผิดสัญญาสัมปทาน ต่อทางฝ่ายบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนเสียเอง หากมีคำสั่งไม่ให้ดำเนินการก่อสร้างโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จนกระทั่งเวลา 23.00 น. พ.ต.อ.ณรัฐ รัตนจินดา ผกก. สภ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นผู้แทน พล.ต.ต.สุรพงษ์ กายตะวัน ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เดินทางเข้าร่วมประชุมด้วย และ ได้กล่าวเปิดเผยถึงผลการประชุมร่วมกันว่า ในที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุปอะไรที่ชัดเจนออกมา โดยในการประชุมครั้งนี้ เป็นเพียงการหารือรับฟังความคิดเห็นร่วมกัน ระหว่าง นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และนักการเมืองท้องถิ่น รวมถึงผู้แทนจากกระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต รวมถึงหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเท่านั้น พร้อมทั้งเป็นการชี้แจงถึงที่มาที่ไปของโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าว ให้แก่ผู้นำท้องถิ่นทราบถึงข้อเท็จจริง ก่อนที่การประชุมจะยุติลง
ส่วนในการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เข้าปิดล้อม กักตัวหัวหน้าคนงาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อคืนที่ผ่านมานั้น จากการกระทำที่เกิดขึ้นถือว่าผิดกฎหมายอย่างชัดเจน แต่ยังไม่มีการเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมจากผู้เสียหาย ซึ่งถือเป็นเรื่องส่วนบุคคลของผู้เสียหายเองว่าจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อกลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าโชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง แต่เนื่องจากอากาศจัด จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกปิดล้อมติดอยู่ภายในรถเป็นลมไปเท่านั้น ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถยนต์ตราโล่ ที่ถูกทุบกระจก และถูกปล่อยลมยางนั้น ต้องรอให้ทางโรงพักเจ้าของรถคันดังกล่าว ซึ่งเป็นของ สภ.คลองเขื่อน ที่ถูกส่งเข้ามาช่วยควบคุมฝูงชนนั้น เข้าแจ้งความดำเนินคดีเช่นเดียวกันต่อไป