ประมงต้านเจาะตู้คอนเทนเนอร์หวั่นสารพิษรั่วไหลทำให้ประมง-ท่องเที่ยวพัง

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ประมงตื่นตัวออกมาต่อต้าน การเจาะตู้คอนเทนเนอร์ใต้น้ำ หวั่นสารพิษแพร่กระจาย ส่งผลธุรกิจประมงและท่องเที่ยวพังยับเยิน หลังจากรัฐบาลให้ทัพเรือเป็นหน่วยงานหลักในการสำรวจตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ปริศนาใต้ทะเลแสมสาร

จากกรณีที่ นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นประธานในการประชุมหาแนวทางการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ โดยมี พลเรือโทชุมนุม อาจวงษ์ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารเรือฝ่ายยุทธการ ผู้แทนทัพเรือภาคที่ 1 กระทรวงยุติธรรม กรมควบคุมมลพิษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกหลายหน่วย ร่วมกับ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติ วิทยาศาสตร์ ประชุมหารือวางแผนการค้นหา ตรวจสอบ และรับฟัง ความคิดเห็น กรณีพิสูจน์ทราบตู้คอนเทนเนอร์ บริเวณอ่าวแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

ทั้งนี้ ที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่า การตรวจพิสูจน์ตู้คอนเทนเนอร์นี้ใช้อำนาจกรมสอบสวนคดีพิเศษในการเข้าไปสืบสวนได้ จึงไม่จำเป็นต้องตั้งคณะทำงาน

สำหรับการดำเนินการในเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติให้เบิกงบกลางจากรัฐบาลเป็นงบประมาณจำนวน 8 ล้านบาท เพื่อใช้ในการตรวจสอบ เบื้องต้นข้อมูลจากการตรวจฟองน้ำที่นำขึ้นมาจากตู้คอนเทนเนอร์ไม่พบสารกัมมันตรังสี ดังนั้น การลงปฏิบัติการใต้น้ำจึงปลอดภัย โดยจะให้ดีเอสไอตรวจสอบพิกัดของตู้คอนเทนเนอร์ให้ชัดเจน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบ

ในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ ชุดปฏิบัติการจะประชุมร่วมกันที่ดีเอสไอ เพื่อเตรียมลงปฏิบัติการใต้น้ำในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ หากผลการตรวจสอบพบว่าภายในตู้คอนเทนเนอร์เป็นขยะพิษ ที่ถูกต่างประเทศลักลอบนำมาทิ้งในประเทศไทย จะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีและเรียกค่าเสียหาย

ส่วนการปฏิบัติการใต้น้ำจะแบ่งเป็นหลายชุด โดยกำหนดจุดตรวจสอบไว้ 3 พิกัด คือ พิกัดที่พบตู้คอนเทนเนอร์บริเวณอ่าวแสมสาร บริเวณที่มีข่าวลือเรื่องตู้ผี และพิกัดอื่นที่ดีเอสไอจะตรวจสอบว่ามีตู้คอนเทนเนอร์อื่นอีกหรือไม่

นายปราโมทย์ โถวสกุล กำนันตำบลแสมสาร กล่าวว่า ถ้าจะใช้วิธีเจาะตู้พิสูจน์ทราบภายในไม่สมควรทำอย่างยิ่ง เพราะชาวบ้านไม่มีใครรับรู้เลยว่ารัฐบาลจะทำอะไร ซึ่งการประชุมที่ผ่านมาก็ไม่มีภาคประชาชนและชาวประมงในพื้นที่ เข้าไปร่วมการประชุมด้วยเลยถ้าเจาะตู้จริงแล้วเอากล้องส่องเข้าไปถ่ายสมมุติเจอถัง 200 ลิตรอยู่ข้างในแล้วไม่ได้มีสารพิษรั่วไหลออกมาจะรู้ได้อย่างไรว่า ข้างในเป็นอะไร

ทางที่ดีสมควรจะบอกประชาชนในพื้นที่อำเภอสัตหีบ เมืองพัทยา ศรีราชา และพื้นที่ชายทะเลใกล้เคีง ตามแนวชายฝั่งมาร่วมการประชุมด้วย เพื่อจะได้หาแนวทางการกู้ตู้ให้ดีที่สุด ผลกระทบน้อยที่สุดกับชาวบ้าน หากเจาะตู้แล้วสารเคมีรั่วไหลออกมาการประมงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เจ๋งหมดแน่นอน โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรีเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่ชาวต่างประเทศต่างมาเที่ยวชมปะการัง ชาดหาดสวย หากเกิดมีสารพิษขึ้นมาใครจะมาเที่ยว

“อยากเรียนถึงผู้มีอำนาจในรัฐบาลดูแลเรื่องตู้คอนเทนเนอร์ให้มีประสิทธิภาพ อย่าดำเนินการโดยอาศัยความง่าย ความสะดวก และให้เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับชาวบ้านหน่อยและหาวิถีให้ชาวบ้านปลอดภัยไม่ให้มีผลกระทบต่อชาวบ้านถ้าปล่อยให้สารพิษแพร่กระจายออกมาในท้องทะเล จะเกิดปัญหาใหญ่กับธุรกิจประมง อันตรายชีวิตสัตว์ ชีวิตมนุษย์ อย่างมหันต์”