ศูนย์ข่าวศรีราชา - กองทัพเรือได้รับมติเอกฉันท์ให้ทัพเรือภาคที่ 1 สัตหีบ ชลบุรี เป็นเจ้าภาพกู้พิสูจน์ตู้คอนเทนเนอร์ปริศนา กะโหลก กับสารพิษ คลายกังวล เปิดประชุมร่วมหน่วยงานกระทรวง ทบวง กรม รับผิดชอบทะเล ร่วมวางแผนการเก็บกู้ และหาข้อยุติงบประมาณในการดำเนินการ
จากกรณีที่ได้มีข่าวพบตู้คอนเทเนอร์ในทะเลอ่าวแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จนในที่สุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม พร้อมทีมงานดีเอสไอ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อเท็จจริง
โดย พล.ร.ท.ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้รับการสนับสนุนเรือหลวงภูเก็ต เรือหลวงวังนอก เรือตรวจการณ์ 224 และอากาศยาน นักประดาน้ำ กรมสรรพาวุธทหารเรือ ลงไปตรวจสอบบันทึกภาพ ปรากฏเด่นชัดว่ามีตู้คอนเทนเนอร์ ขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 6เมตร จมอยู่ในพื้นดินทราย มีปะการัง หญ้าทะเล สัตว์ทะเลเกราะอยู่จำนวนมาก คาดว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้อายุประมาณ 20 ปี แต่ไม่สามารถดำเนินการเก็บกู้และพิสูจน์ภายในตู้ได้ว่ามีอะไร ต้องนำข้อมูลไปเสนอรัฐบาลเพื่อหาแนวทางในการดำเนินการ โดยเฉพาะงบประมาณในการเก็บกู้พิสูจน์
ล่าสุด พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบหมายให้ พล.ร.ท.ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เป็นหน่วยงานหลักในการค้นหา และพิสูจน์ตู้คอนเทนเนอร์ ร่วมกับหน่วยงานของกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในทะเล และสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยเฉพาะสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นำโดยแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ พร้อมทีมงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องของการพิสูจน์หลักฐานทางวิทยาศาสตร์
ด้านผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้รับมอบนโยบายพร้อมกับมอบหมายให้ผู้เกี่ยวของร่วมประชุมวางแผนค้นหา เก็บกู้ ตรวจพิสูจน์ที่กองทัพเรือ พระราชวังเดิม บางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ ในวันนี้ (2 มิ.ย.) เพื่อหาข้อยุติในเรื่องของงบประมาณในการดำเนินการทั้งหมด พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมควบคุมมลพิษ กรมศุลกากร สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และกรมสอบสวนพิเศษ ฯลฯ
พล.ร.ท.ชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพบว่า พิกัดของตู้คอนเทนเนอร์หลายตู้ผิดเพี้ยนไปจากเดิมอย่างมาก เพราะถ้าไม่หาพิกัดให้แม่นยำรับรองว่าจะค้นหาได้ยากมาก ผิดเพียง 1 ฟิลิปดาก็จะห่างไกลจากเป้าหมายจริงจำนวนมาก ซึ่งได้ให้ พล.ร.ต.วรศักดิ์ จันหนู รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 41 และ พล.ร.ต.ทวีป สุขพินิจ เสนาธิการ หาข้อมูลจาก กรมอุทกศาสตร์ ข้อมูลจากเรือประมงที่ได้มาร์กจุดที่แน่นอนไว้แล้ว ทราบว่าบางจุดเรือประมงได้แจ้งเป็นพิกัดลวงไว้เพราะเกรงว่าจะมีคนไปตกปลา และลากปลาในบริเวณดังกล่าวทั้ง 8 จุดก่อนที่แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์จะลงไปตรวจสอบให้รู้แน่ชัดว่าภายในตู้มีอะไร จะต้องหาพิกัดของตู้คอนเทนเนอร์ที่แน่นอน แม่นยำไว้ก่อน เพื่อป้องกันการเสียเวลาในการค้นหา
นายปราโมทย์ โถวสกุล กำนันตำบลแสมสาร เปิดเผยว่า เรื่องการพิสูจน์ตู้คอนเทเนอร์ ยอมรับว่ามีกระแสแรงมากสำหรับประชาชน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ส่วนตนเอง และชาวประมงหวั่นว่าในตู้คอนเทนเนอร์อาจเป็นสารพิษ ส่วนหัวกะโหลกนั้นไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก เพราะไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับปกระเทศชาติ สิ่งแวดล้อม และทำลายสภาพแวดล้อมในทะเล ถ้าเป็นสารพิษจริง และปล่อยให้แพร่กระจายออกมาในท้องทะเล จะเกิดปัญหาใหญ่กับธุรกิจประมง อันตรายชีวิตสัตว์ ชีวิตมนุษย์อย่างมหันต์
สาเหตุที่ออกมาให้ข้อมูลก็เพราะเกรงว่าจะเป็นสารพิษอันตราย ไม่ได้มีวัตถุประสงค์จะย้อนไปในเรื่องเหตุการณ์พฤษภาทมิฬแต่อย่างใด เพราะความสำคัญคนละแบบกัน อีกทั้งไม่ได้ลดเครดิตหน่วยงานใดทั้งสิ้น ทั้งหมดล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น ไปสำรวจก็เจอตู้จริงๆ ส่วนข้างในจะเป็นอะไรก็น่าจะสันนิษฐานกันได้บ้างว่าของดี ของมีค่า ไม่มีมนุษย์ในโลกนี้นำมาทิ้ง ต้องเป็นของเสีย ของไร้ค่า และมีอันตรายจึงได้นำมาทิ้ง ดีใจที่นายกรัฐมนตรีให้กองทัพเรือเป็นแม่งานในการค้นหา ตรวจพิสูจน์ ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง จะได้คลายปริศนาเสียที