ทุ่นผูกตู้คอนเทนเนอร์หาย ทร.สั่งสำรวจพิกัดให้แน่ชัด

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ทัพเรือภาคที่ 1 กองทัพเรือ สั่งเรือ อากาศยาน ปรับแผนลาดตระเวนสำรวจความเคลื่อนไหวจุดตู้คอนเทนเนอร์ พบทุ่นผูกบอกพิกัดหาย ประกาศชาวเรือห้ามเข้าใกล้ เกรงลากอวนตู้แตกสารพิษแตกกระจาย ทัพเรือสั่งสำรวจพิกัดให้แน่นอน ผิดเพียง 1 ลิปดา ระยะ 1,800 เมตร หมอพรทิพย์ ไม่ยืนยันภายในตู้ใช่สารพิษหรือไม่ และไม่ทิ้งประเด็นกะโหลก

จากกรณีที่ได้มีชาวประมงพื้นบ้าน และต่างถิ่น พบตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 8 ตู้ จมอยู่ในอ่าวไทย ด้านแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มาตั้งแต่ประมาณปลายปี 2535 และต้นปี 2536 ซึ่งได้มีนักดำน้ำอิสระดำลงไปสำรวจเพื่อหาทรัพย์สินมีค่า พบว่าภายในตู้มีซากมนุษย์หัวกะโหลกจำนวนมากจึงไม่กล้าเปิดตู้อื่นๆ ที่เหลือ เพราะบางตู้ได้ใช้เหล็กเชื่อมปิดประตูตู้ไว้อย่างแน่นหนา ทำให้เชื่อว่าภายในตู้ต้องเป็นวัตถุอันตราย หรือวัตถุไม่พึงปรารถนาอย่างแน่นอน

ด้าน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้เดินทางมาขอรับการสนับสนุนเรือรบจากทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมกับนักประดาน้ำดำลงไปเก็บวัตถุใกล้ และติดอยู่ที่ตู้คอนเทนเนอร์มาทำการตรวจพิสูจน์ เบื้องต้นยังไม่พบว่าต้นไม้ทะเล ก้อนหิน มีการปนเปื้อนของสารพิษแต่อย่างใด แต่ยังไม่สามารถรับรองได้ว่าภายในตู้มีสารพิษ หรือซากมนุษย์หรือไม่ ต้องพิสูจน์อย่างละเอียดภายในตู้จึงจะทราบว่าภายในมีอะไร

วันนี้ (26 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องการกู้ซากตู้คอนเทนเนอร์ จนทราบว่าขณะนี้ พล.ร.ท.ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 กองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับนโยบายจาก พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ให้ความสนใจเกี่ยวกับการพบตู้คอนเทนเนอร์ในทะเลอ่าวสัตหีบจำนวนหลายตู้ พร้อมทั้งได้ให้ทัพเรือภาคที่ 1 เตรียมความพร้อมให้การสนับสนุนหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้มาตรวจสอบข้อเท็จจริง

อีกทั้งอำนวยความสะดวกในเรื่องของการสำรวจหาพิกัดตู้คอนเทนเนอร์ที่แน่นอน เพราะในปัจจุบันพิกัดที่มีอยู่ยังมีการคาดเคลื่อนอยู่บ้าง ถ้าพิกัดคาดเคลื่อนเพียง 1 ฟิลิปดา จะมีระยะถึง 33.33 หลา หรือ 29 เมตร ถ้าผิด 1 ลิปดา จะห่างถึง 1,800 เมตร หรือ 1 ไมล์ทะเล สาเหตุที่เกิดความคาดเคลื่อนเกิดจาก อุปกรณ์ เครื่องมือที่มีความละเอียด และแม่นยำแตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องให้เรือ และเจ้าหน้าที่ออกไปสำรวจใหม่ให้แม่นยำ เมื่อเวลาออกไปสำรวจจริงจะได้ไม่เสียเวลาในการค้นหา

แหล่งข่าวเรือประมงในทะเล แจ้งมาว่าทุ่นที่ผูกยึดไว้กับตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อบอกตำแหน่งที่แท้จริงตู้ที่ดำน้ำไปตรวจสอบได้หายไปแล้ว โดยไม่ทราบว่าผู้ใดตัดหรือขโมยไป ทัพเรือภาคที่ 1 จึงได้ตรวจสอบ ปรากฏว่าทุ่นได้หายไปจริง ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเรืออวนลากเข้ามาลากในเขตทิ้งตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้ทุ่นขาดหายติดอวนไปด้วย

ทัพเรือภาคที่ 1 จึงได้ออกประกาศชาวเรือ แจ้งให้สมาคมประมงทุกแห่งทราบ ว่ากองทัพเรือขอความร่วมมืออย่านำเรือเข้าไปลากอวนในพื้นที่พบตู้ เพราะอาจจะทำให้ตู้ที่มีอายุการใช้งานสูง จมอยู่ในทะเลนานๆ แตกได้ ถ้าเป็นสารพิษจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต สภาพแวดล้อมในทะเลเสียหาย ส่งผลกระทบต่อธุรกิจประมง ธุรกิจท่องเที่ยว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกระแสข่าวที่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ออกมาให้ข่าวว่าได้มีการตรวจพิสูจน์วัสดุมีชีวิต และก้อนหินที่ติดอยู่กับตู้คอนเทนเนอร์ว่าไม่พบสารพิษนั้น หมอพรทิพย์บอกว่าเป็นความคลาดเคลื่อนในการเสนอข่อมูลข่าวไปบ้าง เพราะผลพิสูจน์เป็นเพียงวัตถุใต้น้ำที่อยู่โดยรอบตู้เท่านั้น แต่ไม่ได้นำสิ่งของในตู้ออกมาพิสูจน์ จึงมิอาจสามารถยืนยันได้ว่า ภายในตู้จะมีสารพิษหรือไม่ ต้องรอการพิสูจน์อย่างละเอียดว่าเป็นสารพิษ หรือกะโหลก