ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่เผยภาวะเศรษฐกิจ 4 เดือนแรกปี 52 ทรุด ยอดสั่งซื้อลด 20-30% เกือบทุกประเภทอุตสาหกรรม ชี้กลุ่มหัตถกรรมและของฝากของที่ระลึกเจอหนักสุดยอดขายหาย 80% เหตุท่องเที่ยวซบเซา ขณะเดียวกันจี้รัฐเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชนก่อนคิดเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ
นายวีระยุทธ สุขวัฑฒโก ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงภาพรวมของภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดเชียงใหม่ตลอดช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาของปี 2552 ว่า ในอุตสาหกรรมเกือบทุกประเภทอยู่ในภาวะที่ไม่ดีนัก เนื่องจากมียอดการสั่งซื้อหดหายไปเหมือนกันทั้งหมด โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละอุตสาหกรรมมียอดการสั่งซื้อลดลงไปประมาณร้อยละ 20-30 สาเหตุหลักก็เนื่องมาจากภาวะตกต่ำของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศไทย ทั้งนี้มีเพียงกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรเท่านั้น ที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนักและยังคงมียอดการสั่งซื้ออยู่ในเกณฑ์ปกติ
สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเป็นกลุ่มหัตถกรรม เซรามิก และสินค้าของฝากของที่ระลึก เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องอาศัยพึ่งพิงอยู่กับการท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่ปรากฏว่าตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ตกอยู่ในภาวะซบเซาอย่างหนัก เห็นได้จากในช่วงปีใหม่และสงกรานต์ ที่มีนักท่องเที่ยวลดจำนวนลงมากอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเบื้องต้นมีการประเมินว่ายอดการซื้อขายของสินค้ากลุ่มนี้น่าจะลดลงไปจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 80
ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่กำลังร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำการประเมินภาพรวมภาวะเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ตลอดช่วง 4 เดือนแรกของปี 2552 เพื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 โดยการออกแบบสอบถามไปยังผู้ประกอบการและภาคธุรกิจที่เป็นสมาชิกของสภาอุตสาหกรรรม หอการค้า ชมรมธนาคาร สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว และกลุ่มหัตถกรรม ซึ่งคาดว่าจะสรุปข้อมูลได้ในช่วงกลางเดือน พ.ค.52 นี้ และจะมีการส่งข้อมูลที่ได้ พร้อมข้อเสนอแนะให้แก่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อพิจารณาและมีแนวทางช่วยเหลือแก้ไขปัญหาต่อไป
ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา นายวีระยุทธ แสดงความเห็นว่า ในส่วนของเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท มองว่ามีส่วนในการช่วยเพิ่มเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามไม่แน่ใจว่าทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบได้หลายรอบหรือไม่ ขณะที่การลดเงินสมทบกองทุนประกันสังคม เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี และช่วยผู้ประกอบการรวมทั้งลูกจ้างได้ไม่น้อย ส่วนการขึ้นภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น่าจะช่วยให้รัฐสามารถจัดเก็บรายได้เพื่อนำไปใช้จ่ายได้มากขึ้น
ขณะเดียวกันยังแสดงความเห็นด้วยว่า ปัญหาเร่งด่วนที่อยากให้รัฐบาลดำเนินการมากที่สุดในขณะนี้ คือ การทุ่มเทเวลาและกำลังความสามารถในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ และแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นอันดับหนึ่ง เพราะเป็นปัญหาที่ควรจะให้ความสำคัญ และมีความจำเป็นเร่งด่วน มากกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสียอีก เนื่องจากถ้าหากเศรษฐกิจอยู่ในภาวะที่ย่ำแย่ ย่อมเป็นการยากที่จะพัฒนาประเทศให้ก้าวเดินไปข้างหน้าได้ พร้อมกันนี้อยากวิงวอนไปยังทุกฝ่ายให้ยึดหลักความสมานฉันท์ และมองเห็นประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นที่ตั้ง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ และเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักท่องเที่ยวกลับคืนมา
นายวีระยุทธ สุขวัฑฒโก ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงภาพรวมของภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดเชียงใหม่ตลอดช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาของปี 2552 ว่า ในอุตสาหกรรมเกือบทุกประเภทอยู่ในภาวะที่ไม่ดีนัก เนื่องจากมียอดการสั่งซื้อหดหายไปเหมือนกันทั้งหมด โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละอุตสาหกรรมมียอดการสั่งซื้อลดลงไปประมาณร้อยละ 20-30 สาเหตุหลักก็เนื่องมาจากภาวะตกต่ำของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศไทย ทั้งนี้มีเพียงกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรเท่านั้น ที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนักและยังคงมียอดการสั่งซื้ออยู่ในเกณฑ์ปกติ
สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเป็นกลุ่มหัตถกรรม เซรามิก และสินค้าของฝากของที่ระลึก เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องอาศัยพึ่งพิงอยู่กับการท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่ปรากฏว่าตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ตกอยู่ในภาวะซบเซาอย่างหนัก เห็นได้จากในช่วงปีใหม่และสงกรานต์ ที่มีนักท่องเที่ยวลดจำนวนลงมากอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเบื้องต้นมีการประเมินว่ายอดการซื้อขายของสินค้ากลุ่มนี้น่าจะลดลงไปจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 80
ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่กำลังร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำการประเมินภาพรวมภาวะเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ตลอดช่วง 4 เดือนแรกของปี 2552 เพื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 โดยการออกแบบสอบถามไปยังผู้ประกอบการและภาคธุรกิจที่เป็นสมาชิกของสภาอุตสาหกรรรม หอการค้า ชมรมธนาคาร สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว และกลุ่มหัตถกรรม ซึ่งคาดว่าจะสรุปข้อมูลได้ในช่วงกลางเดือน พ.ค.52 นี้ และจะมีการส่งข้อมูลที่ได้ พร้อมข้อเสนอแนะให้แก่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อพิจารณาและมีแนวทางช่วยเหลือแก้ไขปัญหาต่อไป
ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา นายวีระยุทธ แสดงความเห็นว่า ในส่วนของเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท มองว่ามีส่วนในการช่วยเพิ่มเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามไม่แน่ใจว่าทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบได้หลายรอบหรือไม่ ขณะที่การลดเงินสมทบกองทุนประกันสังคม เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี และช่วยผู้ประกอบการรวมทั้งลูกจ้างได้ไม่น้อย ส่วนการขึ้นภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น่าจะช่วยให้รัฐสามารถจัดเก็บรายได้เพื่อนำไปใช้จ่ายได้มากขึ้น
ขณะเดียวกันยังแสดงความเห็นด้วยว่า ปัญหาเร่งด่วนที่อยากให้รัฐบาลดำเนินการมากที่สุดในขณะนี้ คือ การทุ่มเทเวลาและกำลังความสามารถในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ และแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นอันดับหนึ่ง เพราะเป็นปัญหาที่ควรจะให้ความสำคัญ และมีความจำเป็นเร่งด่วน มากกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสียอีก เนื่องจากถ้าหากเศรษฐกิจอยู่ในภาวะที่ย่ำแย่ ย่อมเป็นการยากที่จะพัฒนาประเทศให้ก้าวเดินไปข้างหน้าได้ พร้อมกันนี้อยากวิงวอนไปยังทุกฝ่ายให้ยึดหลักความสมานฉันท์ และมองเห็นประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นที่ตั้ง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ และเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักท่องเที่ยวกลับคืนมา