ศูนย์ข่าวภูเก็ต - นักธุรกิจภูเก็ตวอนทุกฝ่ายใช้ความสงบและสันติในการแก้ไขปัญหา ชี้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นการซ้ำเติมประเทศไทยทั้งด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่กำลังเผชิญกับปัญหาวิกฤติทางการเงินในต่างประเทศ
นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงเหตุการณ์ตำรวจสลายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ปักหลักชุมนุมอยู่ที่หน้ารัฐสภา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นน่าเป็นห่วงมากต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ เพราะขณะนี้นอกจากจะประสบปัญหาวิกฤตทางการเงินในต่างประเทศแล้ว การเมืองภายในประเทศก็ยังวุ่นวายอีก ก่อนหน้านี้คิดว่าการเมืองน่าที่จะพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นแต่ก็กลับมามีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นอีก
สิ่งที่ต้องดำเนินการในขณะนี้คือ จะทำให้อย่างไรนักลงทุนและนักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจในประเทศไทย ซึ่งจุดนี้คิดว่าทุกฝ่ายจะต้องสงบ มีสติอารมณ์ แล้วหันมาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยสันติ
ขณะที่นายธนันท์ ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานชมรมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวถึงเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่บริเวณหน้ารัฐสภา เพื่อช่วงเช้า (7 ตค.) ที่ผ่านมา ว่า ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวจะขึ้น เพราะในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลภายใต้การนำของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้แสดงออกถึงความสมานฉันท์ แต่เมื่อมาเกิดการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมคิดว่าความยุ่งยากก็จะเกิดขึ้นตามมา ซึ่งจะยิ่งเหมือนเป็นการซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันซึ่งเราได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกอยู่แล้ว
“เป็นที่ทราบกันดีว่าภาวะเศรษฐกิจโลกเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในภาพรวมอยู่แล้ว เมื่อมีสถานการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นภายในประเทศอีก ก็เหมือนเป็นการซ้ำเติมเหตุการณ์ให้ยิ่งเลวร้ายเข้าไปอีก แทนที่จะประคับประคองเพื่อจะต่อสู้กับเศรษฐกิจโลกเพียงด้านเดียว ดังนั้นทางออกก็คงจะต้องเร่งหาทางยุติปัญหาต่างๆ โดยเร็ว และจะต้องไม่มีเหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้”
นายธนันท์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการปิดสนามบินภูเก็ตนั้นเท่าที่ทราบคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นอีก เพราะในครั้งที่แล้วยังเป็นบทเรียนได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่าในครั้งนี้ความเคลื่อนไหวต่างๆ ก็จะมุ่งเน้นไปที่ส่วนกลางมากกว่า
นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงเหตุการณ์ตำรวจสลายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ปักหลักชุมนุมอยู่ที่หน้ารัฐสภา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นน่าเป็นห่วงมากต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ เพราะขณะนี้นอกจากจะประสบปัญหาวิกฤตทางการเงินในต่างประเทศแล้ว การเมืองภายในประเทศก็ยังวุ่นวายอีก ก่อนหน้านี้คิดว่าการเมืองน่าที่จะพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นแต่ก็กลับมามีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นอีก
สิ่งที่ต้องดำเนินการในขณะนี้คือ จะทำให้อย่างไรนักลงทุนและนักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจในประเทศไทย ซึ่งจุดนี้คิดว่าทุกฝ่ายจะต้องสงบ มีสติอารมณ์ แล้วหันมาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยสันติ
ขณะที่นายธนันท์ ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานชมรมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวถึงเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่บริเวณหน้ารัฐสภา เพื่อช่วงเช้า (7 ตค.) ที่ผ่านมา ว่า ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวจะขึ้น เพราะในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลภายใต้การนำของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้แสดงออกถึงความสมานฉันท์ แต่เมื่อมาเกิดการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมคิดว่าความยุ่งยากก็จะเกิดขึ้นตามมา ซึ่งจะยิ่งเหมือนเป็นการซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันซึ่งเราได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกอยู่แล้ว
“เป็นที่ทราบกันดีว่าภาวะเศรษฐกิจโลกเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในภาพรวมอยู่แล้ว เมื่อมีสถานการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นภายในประเทศอีก ก็เหมือนเป็นการซ้ำเติมเหตุการณ์ให้ยิ่งเลวร้ายเข้าไปอีก แทนที่จะประคับประคองเพื่อจะต่อสู้กับเศรษฐกิจโลกเพียงด้านเดียว ดังนั้นทางออกก็คงจะต้องเร่งหาทางยุติปัญหาต่างๆ โดยเร็ว และจะต้องไม่มีเหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้”
นายธนันท์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการปิดสนามบินภูเก็ตนั้นเท่าที่ทราบคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นอีก เพราะในครั้งที่แล้วยังเป็นบทเรียนได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่าในครั้งนี้ความเคลื่อนไหวต่างๆ ก็จะมุ่งเน้นไปที่ส่วนกลางมากกว่า