นายกสมาคมนักวิเคราะห์ฯ ไม่ห่วงรัฐบาลอุ้มโจรหน้าเหลี่ยมปล้นชาติหนีคดี แต่กังวลการชุมนุมใหญ่พัธมิตรฯ 23 พ.ย.นี้ เพื่อต่อต้านสภาทาสรับใช้รัฐบาลฆาตรกร ตีหน้ามึนบอกไม่อยากเห็นเหตุรุนแรงซ้ำเติมเศรษฐกิจ แนะเจรจาหาทางออก โดยไม่ประเมินถึงการใช้อำนาจมืดทำร้ายประชาชน ที่ชุมนุมอย่างสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ โดยมีรัฐบาลมือเปื้อนเลืดที่คอยหนุนอยู่เบื้อหลัง
วันนี้ ( 22 พ.ย.) นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ นายกสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวถึง การนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) โดยระบุว่าภาคเอกชนกำลังเป็นห่วงสถานการณ์การชุมนุมฯ โดยไม่อยากเห็นการใช้ความรุนแรงในประเทศ เพื่อไม่ให้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศรุนแรงมากขึ้น ทั้งจากปัจจัยภายนอกประเทศ ที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวและปัจจัยการเมืองภายในประเทศที่รุมเร้า
นอกจากนี้ นายก้องเกียรติ ยังกล่าวอีกว่า ทางออกสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ มีทางเดียวคือการเจรจาร่วมกันหากไม่เกิดขึ้น ก็จะไม่มีทางออก
นายก้องเกียรติ ยังกล่าวถึง การจัดสรรงบประมาณขาดดุลกลางปี 2552 จำนวน 100,000 ล้านบาท โดยระบุว่า รัฐบาลควรนำมาใช้เร่งกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคประชาชน โดยการเพิ่มรายได้ในทันที และไม่ควรแบ่งงบประมาณกระตุ้นยาวไปจนถึงปี 2553 โดยมองว่าเงินจำนวน 100,000 ล้านบาท นั้นไม่มาก คิดเป็นประมาณ 1% ของรายได้ประชาชาติ (GDP) เท่านั้น หากไม่สามารถใช้ได้ตรงจุด ก็จะไม่เกิดประโยชน์
นอกจากนี้ นายก้องเกียรติ ยังกล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ รัฐบาลควรมีแนวทางในการกำหนดราคาจำหน่ายปลีกน้ำมันขั้นต่ำ เพื่อไม่ให้ประชาชนใช้น้ำมันอย่างฟุ่มเฟือย เพราะจะเป็นภาระของประเทศในการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ