ศูนย์ข่าวศรีราชา - กองทัพเรือส่งนักประดาน้ำ กรมสรรพาวุธทหารเรือ พร้อมอุปกรณ์ลงเรือหลวงวังนอก ฐานปฏิบัติการสนับสนุนภารกิจ “หมอพรทิพย์” พิสูจน์คอนเทนเนอร์ปริศนากลางทะเล ลือทั่วคุ้งน้ำ พฤษภา 35 ชนพฤษภา 52 ครบ 17 ปี วิญญาณเฮี้ยนได้เวลาเปิดสุสานในทะเล
เวลา 07.30 น.วันนี้ (15 พ.ค.) ณ ท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้มีทีมงานของ นักประดาน้ำ กองทดสอบสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารเรือ นำโดย น.ต.สุรชัย บุตรเสถียร หัวหน้าชุดปฏิบัติงานได้นำเรือยาง อุปกรณ์การดำน้ำครบชุด มาลงเรือหลวงวังนอก ซึ่งเทียบอยู่ที่ท่าเรือแหลมเทียน ซึ่งเรือหลวงวังนอกจะต้องออกเดินทางล่วงหน้าไปก่อน เรือหลวงภูเก็ต เรือ ต.224 และเรือตำรวจน้ำสัตหีบ โดยจะต้องไปรวมกันอยู่ ณ จุดแรกของการตรวจสอบ ก็คือ พิกัดตู้ที่ 2 ละติจูด 12 องศา 2935 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 101 องศา 04.5 องศาตะวันออก น้ำลึกประมาณ 20 เมตร เนื่องจากจุดนี้เคยมีนักดำน้ำไปดำตรวจสอบมาแล้ว
ต่อมาในเวลา 09.30 น. แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ พร้อมทีมงาน และพลเรือโทชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้มอบหมายให้ พลเรือตรีทวีป สุขพินิจ เสนาธิการ ทัพเรือภาคที่ 1 นาวาเอกพนม ควรประดิษฐ์ รองผู้อำนวยการกองยุทธการ (รอง ผอ.ยก.ทรภ.1 ) นาวาเอกศุภสิทธิ์ บูรณะโอสถ รองผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน (รอง ผอ.กพร.ทรภ.1) พันตำรวจโทสยามรัฐ รุ่งเรือง รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ พันตำรวจโทธนวัตถ์ พุ่มอยู่ สารวัตรตำรวจน้ำ ได้นำเรือตำรวจน้ำไปเสริมการดำน้ำ
ผู้สื่อข่าวทุกแขนงที่ติดตามข่าวตู้คอนเทนเนอร์ สุสานกะโหลกใต้ทะเลแสมสาร ได้ร่วมเดินทางไปกับเรือหลวงภูเก็ต โดยมี นาวาตรีวีระ สกุลเต็ม ผู้บังคับการเรือ และประจำเรือ ได้ออกเรือไปจากท่าเทียบเรือแหลมเทียน พากันมาลงเรือหลวงภูเก็ต ณ ท่าเรือรูปตัวแอล ท่าเทียบเรือแหลมเทียน เพื่อออกเดินทางไปทำการตรวจพิสูจน์ตู้คอนเทนเนอร์ที่มีการพบ และมีการยืนยันแล้วว่ามีจริง
แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ เปิดเผยว่า แผนการดำน้ำในวันนี้คงกระทำได้เพียงการลงไปดำหาตู้คอนเทนเนอร์ในพิกัดแรกเท่านั้น เพื่อหาแนวทางในการกู้ขึ้นมาพิสูจน์ทราบบนบก เพื่อความโปร่งใสในการปฏิบัติงานจะไม่มีการเปิดตู้ในทะเลอย่างเด็ดขาด ถึงอย่างไรก็ต้องมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในตู้แน่นอนถ้ามีการล็อกและปิดอย่างมิดชิด ล่าสุดได้สอบถามพยานบุคคลในท้องถิ่น นายปราโมทย์ โถวสกุล กำนันตำบลแสมสาร และพระสมุวิชัย อิสระธรรมโม พระลูกวัดวัดช่องแสมสาร อดีตก่อนอุปสมบทเคยเป็นอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมาก่อน ทราบว่าหัวกะโหลกมีการพบบ่อยครั้งรวมกันหลายปีจำนวนก็มากขึ้น บางส่วนได้ทำการเผาไปแล้ว
มีพยานบุคคลยืนยันว่าได้เคยรับฟังจากกลุ่มนักล่าวัตถุโบราณใต้ทะเล ดำน้ำไปค้นหาในซากเรือสินค้า เรือเดินทะเล และซากเรือจมสมัยเก่าว่าเรื่องการที่มีข่าวลือว่ามีคนดำน้ำลงไปสำรวจและเปิดตู้ดูนั้นเป็นเรื่องจริง เมื่อเปิดพบว่าข้างในเป็นซากศพจึงได้รีบหนีขึ้นมา จึงไม่กล้าไปเปิดตู้อื่นๆ อีกต่อไป แต่ไม่กล้านำเรื่องนี้ไปแจ้งกับใครเพราะลักษณะเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา อีกทั้งไม่มีใครต้องการนำตัวเองเข้าไปพัวพันกับเรื่องเหล่านี้ หรือต้องเป็นพยานบุคคล
