ดีเอสไอส่งชุดสืบสวนเก็บข้อมูลตู้คอนเทนเนอร์ที่จมอยู่ก้นอ่าวแสมสาร เผยต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ชัดเจนทุกประเด็นก่อนกู้เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า
วันนี้ (13 พ.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ที่จมอยู่ก้นทะเลอ่าวแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผอ.สำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ตั้งชุดสืบสวนเพื่อลงพื้นที่ อ.สัตหีบ ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นเกี่ยวกับตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าว โดยมอบหมายให้สอบปากคำพยานบุคคลในพื้นที่ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้พบเห็นกะโหลกศีรษะมนุษย์ถูกทิ้งไว้ก้นทะเล นอกจากนี้ ให้ประสานกับชุดประดาน้ำลงไปตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์เพื่อสกัดเพรียงและปะการังที่เกาะอยู่กับตู้คอนเทรนเนอร์ และนำมาตรวจสอบว่ามีอายุกี่ปี นอกจากนี้ยังกำชับให้ตรวจหาเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์บนตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อนำมาตรวจสอบถึงเจ้าของตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าว จากนั้นจะนำข้อมูลทั้งหมดจากการสืบสวนมาประเมินอีกครั้งว่าตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวบรรจุวัตถุสิ่งของชนิดใดอยู่ภายใน แต่จะไม่มีการเปิดตู้คอนเทนเนอร์ใต้ทะเลซึ่งมีแรงกดอากาศสูง ที่สำคัญหากภายในตู้คอนเทนเนอร์เป็นซากขยะพิษ การเปิดตู้ใต้ทะเลจะส่งผลเสียหายต่อทรัพยากรทางทะเลอย่างประเมินค่าไม่ได้
“ดีเอสไอจะยังไม่กู้ตู้คอนเทนเนอร์ขึ้นมาจากก้นอ่าวจนกว่าจะได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน และคุ้มค่าต่อการนำงบประมาณไปใช้ในการกู้ตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าว ซึ่งจะเป็นค่าใช้จ่ายที่มีวงเงินมหาศาล ดังนั้น ดีเอสไอจึงต้องการข้อมูลที่ค่อนข้างชัดเจนและสมบูรณ์เพียงพอ ขณะนี้มีเพียงข้อสันนิษฐานเบื้องต้นว่าภายในตู้คอนเทนเนอร์อาจมีศพแรงงานต่างด้าวซึ่งเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ หรือผู้เสียชีวิตจากเหตุพฤษภาทมิฬ ตามที่มีการกล่าวอ้างแบบปากต่อปาก หรืออาจจะเป็นขยะพิษที่ถูกลักลอบนำมาทิ้งลงสู่ก้นทะเล หรืออาจจะเป็นอุบัติเหตุจากการขนส่งสินค้าทางทะเลทำให้ตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวจมลงสู่ก้นอ่าว โดยบริษัทผู้ขนส่งสินค้าไม่ติดใจลงไปเก็บกู้เพราะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน” พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าว
ด้านพ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผอ.สำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ในวันที่ 18 พ.ค.จะส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ที่จมอยู่ก้นทะเลอ่าวแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยเบื้องต้นตนได้รับรายงานว่าพบตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวจำนวน 3 ตู้ แต่อยู่คนละจุด โดยแต่ละตู้อยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 10 ,20 และ30 ไมล์ทะเลตามลำดับ ซึ่งพิกัดยังไม่แน่นอน ที่ผ่านมา พ.ต.อ.วีระศักดิ์ มีนะกนิษฐ์ ช่วยราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษเคยลงไปตรวจสอบแล้ว แต่นักประดาน้ำไม่สามารถเข้าไปงมได้เนื่องจากอยู่ในระดับที่ลึกมาก และอาจไม่คุ้มกับงบประมาณเพราะอาจไม่พบกระดูกมนุษย์ตามที่เป็นข่าวได้ จึงไม่ได้ดำเนินการต่อ
ทางด้าน พ.ต.อ.วีระศักดิ์ กล่าวว่า เคยได้รับร้องเรียนในปลายปี 2550 ว่าพบตู้คอนเทนเนอร์ 2 ตู้จมอยู่ในทะเลแสมสาร ต่อมาในปี 2551 จึงได้นำทีมชุดนักประดาน้ำเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งบริเวณดังกล่าวลึกมาก และไม่พบความผิดปกติ แต่พบชิ้นส่วนกะโหลกมนุษย์ โครงกระดูก ในบริเวณใกล้เคียงซึ่งเป็นเรื่องปกติเนื่องจากอาจมีชาวประมงจมน้ำ ส่วนสาเหตุที่ยุติการขุดค้นเพราะเห็นว่าหากทำต่อไปก็ต้องใช้งบประมาณมาก