ศูนย์ข่าวศรีราชา- “หมอพรทิพย์” บุกพิสูจน์คอนเทนเนอร์โครงกระดูกกลางทะเลชลบุรี คลายข้อสงสัยญาติวีรชนพฤษภาฯ ด้าน ผบ.ทร.สั่งทัพเรือภาคที่ 1 สนับสนุนยุทโธปกรณ์ อากาศยาน เรือรบหลวง ในภารกิจค้นหาและยกตู้คอนเทนเนอร์ขึ้นเปิดบนบก เบื้องต้นตรวจสอบหัวกะโหลกที่มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ พบไม่มีเนื้อเยื่อเหลืออยู่ ยากต่อการพิสูจน์
จากกรณีที่ได้มีข่าวลือมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2536 ว่า ได้มีเรือประมงลากอวนติดตู้คอนเทนเนอร์ จำนวนหลายตู้ และในบริเวณทะเลอ่าวสัตหีบ อีกทั้งได้มีเรือประมงประเภทอวนลากเดี่ยว อวนลากคู่ ลากติดหัวกะโหลกมนุษย์ขึ้นมาแล้วจำนวนมาก ในระยะเวลาตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2536 เป็นต้นมา
เมื่อเร็วๆ นี้ นายปราโมทย์ โถวสกุล กำนันตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และ นายแดงระ (นามสมมติ) นักดำน้ำอาวุโสที่สามารถดำน้ำลึกได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ดำน้ำ ได้เปิดเผยว่า มีกระแสข่าวแพร่สะพัดในหมู่เรือประมงมาตั้งแต่ปี 2536 ว่ามีชาวประมงพบสุสานกะโหลกมนุษย์ในทะเลอ่าวไทย และพบตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 8 ตู้ ถูกปิดสนิทจมอยู่ในทะเลหลายจุด ในระดับน้ำลึก 25, 30 และ 50 เมตร
จุดแรก ในร่องน้ำทะเลเส้นทางเดินเรือสินค้าระหว่างเกาะไผ่ กับเกาะคราม จุดที่ 2 ห่างจากเกาะจวงไปทางด้านทิศใต้ประมาณ 30 ไมล์ทะเล และจุดที่ 3 ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะจาน อ่าวแสมสาร พิกัด แลตติจูด 29 องศา 04 ลิปดา และพิกัด แลตติจูด 30 องศา 05 ลิปดา ซึ่งบริเวณใกล้เคียงแต่ละจุด เคยมีเรือประมงอวนลากเอาหัวกะโหลกติดอวนมาแล้วจำนวนมาก เมื่อประมวลเหตุการณ์ ระยะเวลา ทำให้ทุกฝ่ายวิเคราะห์และตั้งข้อสงสัยกันว่า หัวกะโหลกที่พบอาจมีที่มาจากผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 ที่ถูกบรรจุใส่ตู้คอนเทนเนอร์มาทิ้งในทะเลหรือไม่
ล่าสุดวันนี้ (14 พ.ค.) แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้รับการประสานจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้ลงพื้นที่เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง ซึ่งคุณหญิงแพทย์หญิงพรทิพย์เปิดเผยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีให้ความสนใจ พร้อมกับให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองทัพเรือ ตำรวจน้ำสนับสนุนอำนวยความสะดวกให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีพบตู้คอนเทนเนอร์ปริศนาในทะเล จำนวนหลายตู้ หัวกะโหลกที่เรือลากอวนได้ เพื่อให้เกิดความกระจ่างกับกลุ่มญาติพฤษภาทมิฬ และประชาชนทั้งในและต่างประเทศ เพราะขณะนี้มีกระแสข่าวแรงมากมีการพูดกันทุกหย่อมหญ้า จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรีบเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง
แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ เปิดเผยอีกว่า ในวันนี้ได้เดินทางมาที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อประสานกับ พลเรือโทชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 และได้ร่วมกันประชุมวางแผนร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น ทัพเรือภาคที่ 1 หมวดประดาน้ำ และจู่โจม กรมสรรพาวุธทหารเรือ กรมอุทกศาสตร์ กรมวิทยาศาสตร์ มูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพบโครงกระดูก หัวกะโหลก
ผลสรุปได้ว่า ทัพเรือภาคที่ 1 จะให้การสนับสนุน อากาศยานชนิดซีฮอว์ค และซูเปอร์ลิงก์ เรือรบ เรือช่วยรบ เรือเครนยกวัตถุหนักในทะเล ห้องแชมเบอร์ปรับอากาศแรงดันสูง โดยใช้เรือหลวงวังนอก เป็นฐานปฏิบัติการตรวจพิสูจน์ตู้คอนเทนเนอร์ เรือตรวจการหมายเลข 93 เป็นเรือสนับสนุนการค้นหา และเรือตรวจการณ์ หมายเลข 224 ร่วมการพิสูจน์
พล.ร.ท.ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เปิดเผยว่า พลเรือเอกกำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ให้นโยบายในการสนับสนุนยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่ของทัพเรือภาคที่ 1 ให้กับคณะทำงานของ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อย่างเต็มความสามารถ ในเบื้องต้นได้หารือกันในแนวทางการค้นหาตู้คอนเทนเนอร์ตามพิกัด จำนวน 5 จุด
จุดแรกเป็นจุดที่ใกล้ที่สุด ห่างจากชายฝั่งประมาณ 18 ไมล์ ความลึกไม่มากนักง่ายต่อการปฏิบัติ เพราะตอนนี้ทัศนวิสัยทางอากาศ และทางทะเลไม่อำนวยการบินสำรวจ หรือดำน้ำ และเดินทาง แต่จะดำเนินการอย่างสุดความสามารถ เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจว่า กองทัพเรือมิได้นิ่งดูดายในการตรวจสอบ ต่อเมื่อมีหน่วยงานขอรับการสนับสนุน และรัฐบาลเห็นชอบก็จะดำเนินการให้เร็วที่สุด สามารถบอกประชาชนได้ว่าภายในตู้คอนเทนเนอร์มีอะไร ซึ่งต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ และขนยกขึ้นมาบนเรือขนาดใหญ่ ต้องมีการเตรียมการทั้งหมด ซึ่งไม่แน่ว่าอาจจะเป็นสารเคมีอันตรายอยู่ภายในก็เป็นได้ โดยในวันที่ 14 พ.ค.นี้ กองทัพเรือภาคที่ 1 ได้จัดเรือจำนวน 3 ลำในการสนับสนุนคณะของแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์
ต่อมา แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ พร้อมคณะจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้เดินทางมายังหน่วยกู้ภัย มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ เพื่อตรวจสอบเบื้องต้นหัวกะโหลกที่ชาวประมงเก็บขึ้นมาได้จากทะเล โดยมี นายบรัศ บุญบรรเจิดศรี รองประธานมูลนิธิให้การต้อนรับ พบว่า หัวกะโหลกมีเพรียงหอยเกาะเป็นจำนวนมาก ยากต่อการตรวจสอบ เพราะไม่มีเยื่อเนื้อ เส้นผม เบื้องต้นกะโหลกน่าจะมีอายุประมาณ 30-40 ปี ยังไม่สามารถระบุเพศได้ หลังจากนั้นจะเดินทางไปสำรวจที่สุสานเก็บศพไร้ญาติ และวัดช่องแสมสารเพราะทราบว่า มีลูกเรือประมงได้นำหัวกะโหลกมาถวายวัดไว้จำนวนมาก ถ้าวัดยังไม่เผาก็จะได้เก็บไว้ตรวจพิสูจน์ต่อไป