บุรีรัมย์ - ชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ร่วม 200 ครัวเรือน ชุมนุมประท้วงหน้าศาลากลางจังหวัด เรียกร้องให้รัฐนำพื้นที่ป่าสงวนดงใหญ่ กว่า 22,000 ไร่ ที่นายทุนหมดสัญญาเช่า และใกล้จะหมดสัญญาเช่า จัดสรรให้ชาวบ้านไร้ที่ทำกินเข้าไปทำกินในรูปแบบ “โฉนดชุมชน” ป้องกันการซื้อขายเปลี่ยนมือตามนโยบายรัฐบาลนายกฯ มาร์ค
วันนี้ ( 4 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ชาวบ้าน หมู่ที่ 1 และ หมู่ที่ 10 บ.ลำนางรอง ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ร่วม 200 ครัวเรือน นำโดย นายไพฑูรย์ สร้อยสน อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 162 ม.1 ต.ลำนางรอง แกนนำชาวบ้าน ได้เดินทางมาชุมนุมประท้วง ที่หน้าศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อคัดค้านไม่ให้องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ลำนางรอง อ.โนนดินแดง และทางจังหวัดฯ อนุมัติให้บริษัทเอกชนเช่าที่ดินป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ ต่อไปอีก ทั้งแปลงที่เพิ่งหมดสัญญาไป และ ใกล้จะหมดสัญญา รวมพื้นที่กว่า 22,000 ไร่
โดยเรียกร้องให้นำที่ดินดังกล่าวมาจัดสรรเป็นรูปแบบ “โฉนดชุมชน” ให้ชาวบ้านบ้านลำนางรอง หมู่ 1 ซึ่งไม่มีที่ทำกินได้เข้าไปทำกินเป็นหมู่บ้านนำร่อง
นายไพฑูรย์ สร้อยสน แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า การจัดสรรให้ชาวบ้านที่ไม่มีที่ทำกินเข้าไปทำกินหรือทำการเกษตรตามข้อเรียกร้องดังกล่าว รัฐควรทำเป็นโฉนดชุมชน แทนแบบโฉนดเดิม เพราะผู้ที่เข้าทำกินจะไม่สามารถนำไปขาย ให้กับผู้อื่นหรือกลุ่มนายทุนได้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา ในข้อที่ 4.2 .1.8 แต่หากรัฐบาลไม่ทำตามสัญญากลุ่มชาวบ้าน ก็จะร่วมกับเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งชาติ เคลื่อนไหวเรียกร้องจนถึงที่สุด
“ทางอบต.ลำนางรอง และรัฐบาล ควรจะพิจารณาจัดสรรที่ดินดังกล่าวให้กับชาวบ้านที่ไม่มีที่ทำกิน ไม่ควรจะต่อสัญญาเช่าให้กับบริษัทเอกชนทั้ง 22,000 ไร่ ที่จะหมดสัญญาเช่า เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายในการแก้ไขปัญหาความยากจนของรัฐบาล ไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนเดือดร้อน แต่นายทุนสบาย” นายไพฑูรย์ กล่าว
ต่อมา นายเสริม ไชยณรงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงมารับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้าน พร้อมรับปากว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะกรรมการระดับจังหวัด และมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วนต่อไป