กาฬสินธุ์ - แกนนำกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย กาฬสินธุ์-สกลนคร จวกรัฐบาลตั้งกรรมการแก้ปัญหา ผรท.ไม่ทั่วถึง เลือกคนแอบอิงการเมืองเข้าไปมีตำแหน่ง จี้เเปลี่ยนแปลงโดยด่วน ก่อนตัดสินใจจับอาวุธขึ้นสู้อีกครั้ง ยันเคลื่อนไหวไม่เกี่ยวข้อนายกฯ คนใด
วันนี้ (30 เม.ย.) ที่บ้านดินจี่ ตำบลดินจี่ อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ นายบุญใส ก้อนดินจี่ แกนนำกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (2) หรือ ผรท.โซน 2 ได้เรียกประชุม อดีตผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จ.สกลนคร เพื่อชี้แจงถึงคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีเลขที่ 97/2552 ลงวันที่ 7 เมษายน และลงนามโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้แต่งตั้งคณะกรรมการประกอบด้วย รัฐบาลกับแกนนำ ผรท.ในการแก้ไขปัญหาให้กับกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยทั่วประเทศ
นายบุญใส ก้อนดินจี่ แกนนำ ผรท.(2) จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า คำสั่งที่ออกมาเป็นคำสั่งที่ทำให้ ผรท.ทั่วประเทศ ไม่พอใจรัฐบาล เพราะการตั้งคณะกรรมการโดยเฉพาะในฝ่าย ผรท. รัฐบาลได้สร้างเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรม เพราะเจาะจงที่จะใช้ ผรท.เพียงบางกลุ่ม ที่ไม่มีอุดมการณ์และยังไปเป็นทาสนักการเมือง
สำหรับพี่น้อง ผรท.ที่เฝ้ารอให้ภาครัฐเข้าช่วยเหลือตามนโยบาย 66/23 ที่ยาวนาจึงทำให้วันนี้ จึงมีความเห็นว่า รัฐบาลไม่มีความจริงใจ โดยเฉพาะในส่วนกองทัพภาคที่ 2 ไม่เคยที่จะลงพื้นที่เข้ารับฟังปัญหาเพื่อหาทางแก้ไข จึงไม่ใช่เรื่องแปลก หาก ผรท.ที่มีความรู้สึกว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จะหวนกลับมาจับปืนเพื่อโค่นล้มรัฐบาลอีกครั้ง
นายบุญใสกล่าวยืนยันว่า ตัวแทน ผรท.ในคำสั่งดังกล่าวเป็น ผรท.ที่ไม่มีอุดมการณ์ เป็นกลุ่ม ผรท.ที่หากินบนความทุกข์ยากของ สหายพี่น้องที่ออกมาจากป่า เพราะที่ผ่านมาคนกลุ่มนี้มีการระดมทุนทำให้พี่น้อง ผรท.เดือดร้อน จึงไม่ใช่การทำงานของชนชั้นกรรมาชีพ มันเป็นการทำงานของนายทุน
ผรท.ส่วนใหญ่จึงไม่เชื่อว่าบุคคลที่ถูกตั้งขึ้นเป็นตัวแทนของพี่น้อง ผรท.ที่เดือดร้อนจริงๆ และแน่นอนคนกลุ่มนี้ก็จะเป็นกลุ่มที่ทำงานให้กับ รัฐมนตรีบางคนที่นายกรัฐมนตรีเกรงใจอยู่ในขณะนี้ การออกคำสั่งขึ้นมาจึงขาดความคิดที่รอบคอบในการแก้ไขปัญหาให้กับ ผรท.
นายบุญใสเปิดเผยว่า โครงการของกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย หรือ ผรท.จาก อดีตถึงปัจจุบัน โดยพื้นฐานของพี่น้อง ผรท.ทั่วประเทศ ส่วนใหญ่ได้เข้าไปปะปนในทุกองค์กร ทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็น กลุ่มสมัชชาคนจน พี่น้อง นปช. พี่น้องพันธมิตรหรือไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายเกษตรกรภาคอีสาน ซึ่งมีปะปนอยู่ทุกกลุ่ม ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังมีการเคลื่อนไหวใต้ดินที่ยังคงมีการติดต่อประสานงานกันมาโดยตลอด และแน่นอนหาก ผรท.ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน รู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม แนวทางการทำงานก็จะเกิดขึ้นมาในเชิงนโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในขั้นเด็ดขาดเช่นกัน
“แต่ก่อนที่จะเกิดความรุนแรงดังกล่าว แกนนำ ผรท.(2) กาฬสินธุ์ แนะนำว่า หากรัฐบาลต้องการที่จะยุติปัญหานี้ สิ่งที่ควรทำอันดับแรกก็คือการยกเลิกคำสั่งตั้งกรรมการชุดนี้ จากนั้นก็ควรที่จะให้มีการตั้งตัวแทนจาก กลุ่มผรท.ทั่วประเทศใหม่อีกครั้ง ซึ่งหากในอนาคตอันใกล้นี้ รัฐบาลยังคงนิ่งเฉย อนาคตที่รัฐบาลจะได้เห็นก็คงเป็นความรุนแรงจาก ผรท. ที่คงจะเดินทางเข้าไปร่วมโค่นล้มรัฐบาลกับกลุ่มคนเสื้อแดงก็เป็นได้”นายบุญใสกล่าว
นายบุญใสกล่าวย้ำว่า ปรากฏการณ์ทางกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงเกิดจากการเข้าไปแก้ไขปัญหาให้กับกลุ่ม ผรท.ล้มเหลว เพราะรัฐบาลมองข้าม กลุ่มพี่น้อง ผรท.ใน จ.กาฬสินธุ์ จ.เลย จ.ชัยภูมิ จ.สกลนครและในอีกหลายแห่งที่ ยังมีอีกหลายกลุ่มที่ไม่ได้เข้าไปร่วม เพราะบุคคลที่รัฐบาลแต่งตั้งเป็นกลุ่มบุคคลกลุ่มเดียวก็คือ นายไสว แสงชาติ และบุคคลที่อ้างว่าอยู่ในหลายๆจังหวัดก็เป็นกลุ่มคนของนายไสวจึงทำให้ไม่พอใจ ทั้งนี้ในอนาคตหากมีการเคลื่อนไหวจริง
“ขอยืนยันว่า ผรท.(2) จ.กาฬสินธุ์ ไม่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และไม่เกี่ยวข้อง กับ นายกรัฐมนตรีคนหนึ่งคนใด แต่เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องแก้ไขปัญหาปากท้องกับความเป็นธรรม ตามคำสั่ง 66/23 เท่านั้น” แกนนำ ผรท.กล่าวในที่สุด