ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ เชื่อ “นช.แม้ว” อาจพึ่งพึงฝ่ายซ้ายบางกลุ่ม ดันขึ้นมาแทนกลุ่มแกนนำ นปช.ที่กำลังจะติดซังเต แต่เชื่อจะเจอแรงต้านจากสังคม เพราะไม่นิยมความรุนแรงทุกรูปแบบ แนะ “อีเพ็ญ” ไปศึกษาบทเรียนฝ่ายซ้ายระดับสากล หวังพึ่งความรุนแรงจนถูกประณามกลายเป็นโจรก่อการร้าย เย้ยทำจริงแค่เด็กไร้เดียงสา ชี้แนวทางเคลื่อนไหวต่อต้านขึ้นบนดินหมดแล้ว
วันนี้ (28 เม.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูงที่กลุ่ม นปช.โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะแปรขบวนการเคลื่อนไหวโดยเฉพาะการปรับบทบาทส่วนนำด้วยการสร้างแกนนำคนอื่นๆ ขึ้นมาแทนแกนนำ นปช.ชุดเดิม ซึ่งกำลังตกเป็นจำเลยของสังคมกรณีการก่อจลาจล และมีความเป็นไปได้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจใช้ฝ่ายซ้ายเก่าที่อยู่แวดล้อมตัวเองเข้ามามีบทบาทในส่วนนำของ นปช.และเครือข่ายทักษิณมากขึ้น ต้องไม่ลืมว่าบนความผิดพลาดและพ่ายแพ้ในการเคลื่อนไหวก่อจราจลของ นปช.ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เป็นชัยชนะของฝ่ายซ้ายบางกลุ่มที่ใช้กระแสทักษิณนิยมและการเคลื่อนไหวของ นปช.เป็นเครื่องมือ เพื่อโจมตีสถาบันเบื้องสูงและระบอบอำมาตยาธิปไตย ภายใต้ทฤษฎีชี้นำทุนก้าวหน้าดีกว่าศักดินาล้าหลัง ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับกันว่าอย่างน้อยฝ่ายซ้ายกลุ่มนี้ก็สามารถปักธงเปิดประเด็นยึดกุมพื้นที่สาธารณะได้มากทีเดียว
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า แต่ในบรรดาฝ่ายซ้ายรอบตัวคุณทักษิณ ก็มีแนวทางขัดแย้งกันระหว่างฝ่ายซ้ายดั้งเดิมที่นิยมความรุนแรง กับฝ่ายซ้ายแนวปฏิรูปที่พยายามเข้ามาต่อสู้ในแนวทางรัฐสภาและสันติวิธี เพราะในทางสากลกระแสฝ่ายซ้ายแนวปฏิรูปขึ้นมาบนดินและละทิ้งแนวทางความรุนแรงหมดแล้ว มีการตั้งพรรคการเมืองแนวสังคมนิยมจนได้รับชัยชนะและเป็นรัฐบาลในหลายๆ ประเทศ เช่น แถบละตินอเมริกาอย่างบราซิล อุรุกวัย โคลอมเบีย โบลิเวีย หรือแม้แต่ในแถบยุโรปอย่างสเปน และเยอรมนี
“ดังนั้น นายจักรภพ เพ็ญแข ต้องไปดูเป็นตัวอย่าง ถ้าคิดจับอาวุธจริงๆ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นซ้ายไร้เดียงสา และทำลายภาพพจน์อุดมการณ์ฝ่ายซ้ายหมด ตัวอย่างในประเทศฟิลิปปินส์ที่เรียกกันว่า กบฏอาบูซายาฟ จริงๆ แล้ว คือ ฝ่ายซ้ายเก่าทั้งนั้น แต่พอจับอาวุธก็ถูกประณามจากสังคมว่าเป็นขบวนการก่อการร้ายทันที เพราะเห็นว่าการจับอาวุธจำเป็นเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลเป็นเผด็จการหรือสังคมปิดเท่านั้น” ผู้ประสานงานพันธมิตรฯระบุ
นอกจากนี้ ฝ่ายซ้ายที่ยังอยู่กับระบอบทักษิณ ถ้าไม่ระวังจะกลายก็เป็นดาบสองคมในคราเดียวกัน เพราะสังคมยังมีภาพหลอนกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) และบรรดาสหายหรือฝ่ายซ้ายเก่า รวมทั้งแนวทางการเคลื่อนไหวที่ผูกโยงอยู่กับความรุนแรง ฉะนั้นในทางสาธารณะอาจจะเคลื่อนไหวลำบาก แต่คงไปเน้นการปฏิบัติการใต้ดินซึ่งอันนี้น่าเป็นห่วง และฝ่ายซ้ายที่พยายามปรับตัวอาจตกเป็นเป้าของฝ่ายความมั่นคงได้เช่นกัน
ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ระบุอีกว่า ช่วงวิกฤตการณ์การเมือง 3-4 ปีที่ผ่านมา ในชุมชนของฝ่ายซ้ายเองก็เห็นต่างกันมาก จนถึงขั้นแตกแยกกันเอง โดยเฉพาะชุดวิเคราะห์ต่อระบอบทักษิณ และสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไป จนมีฝ่ายซ้ายจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่เข้าร่วมต่อสู้กับพันธมิตรฯ เพราะเห็นว่าทักษิณไม่ใช่ทุนก้าวหน้า แต่เป็นทุนผูกขาดล้าหลังและสามานย์ นอกจากนี้ ฝ่ายซ้ายที่เข้าร่วมกับพันธมิตรฯ เหล่านี้สรุปบทเรียนเป็น และเห็นว่า ฐานคิดทฤษฎีการต่อสู้ทางชนชั้นต้องทบทวนกันใหม่ และสถาบันพระมหากษัตริย์ยังจำเป็นในการผนึกความเป็นชาติเพื่อรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ หรือทุนนิยมโลกาภิวัตน์