บุรีรัมย์ - ท่ามกลางปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ และการทำลายล้างทรัพยากรธรรมชาติอย่างรุนแรงในปัจจุบัน ยังมีสิ่งที่น่ายินดียิ่ง เมื่อ “โรงเรียนบ้านตะโคงสามัคคี” จ.บุรีรัมย์ นำพานักเรียนร่วมอนุรักษ์ “แย้” สัตว์ที่ถูกล่าจนใกล้สูญพันธุ์ นับเป็นกิจกรรมการสอนเด็กที่มีคุณค่าและสมเด็จพระเทพฯ ทรงให้ทุกคนอนุรักษ์ เผยประสบผลสำเร็จประกาศเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์แย้รวมกว่า 300-400 ตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนบ้านตะโคงสามัคคี ตั้งอยู่เลขที่ 232 ม.1 ต.บ้านด่านอ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ก่อตั้งเมื่อ 1 มิถุนายน 2479 รวมถึงปัจจุบันเป็นเวลา 73 ปี มีพื้นที่ 57 ไร่ อยู่ห่างจาก อ.บ้านด่าน 1.5 กิโลเมตร และ ห่างจาก จ.บุรีรัมย์ 12 กิโลเมตร เขตบริการครอบคลุม 4 หมู่บ้าน ประกอบด้วย บ.ตะโคง ม.1, บ.ทุ่งสว่าง ม.8, บ.โนนเจริญ ม.14 และ บ.หัวถนน ม.17 เปิดการสอนระดับปฐมวัยและประถมศึกษา มีนักเรียนทั้งหมด 270 คน ครู 13 คน พนักงานบริการ 1 คน สังกัดสำนักงานเขตพื้นการศึกษา (สพท.) บุรีรัมย์ เขต 1
นายขจรพัฒน์ วิภาคสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตะโคงสามัคคี กล่าวอย่างภาคภูมิใจ ว่า “โครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แย้” เริ่มมาตั้งแต่เมื่อก่อตั้งโรงเรียน เนื่องจากสภาพแวดล้อมของโรงเรียนเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ ร่มรื่น จึงมีแย้เข้ามาอาศัยอยู่ตามรูในป่าโดยเฉพาะในสนามฟุตบอล สนามด้านหลังโรงเรียนและบริเวณทั่วไปของโรงเรียน
“แย้” เป็นสัตว์เลื้อยคลานจำพวกเดียวกับกิ้งก่า ที่พบในโรงเรียนบ้านตะโคงสามัคคี เรียกว่า “แย้นา” หรือ “แย้ผีเสื้อ” ตัวผู้จะมีสีแสดเข้มสลับกับแถบสีดำอยู่ชิดกับโคนขาคู่หน้าทั้งสองข้างของลำตัว พาดเป็นเส้นทแยงจากด้านหน้าลงสู่หน้าท้อง ตัวผู้จะมีลักษณะปากเป็นรูป “วงรี” ส่วนเพศเมียจะมีสีแสดจาง ๆ บนสีข้างของลำตัวปากจะมีลักษณะ “วงกลม”
“แย้” จะผสมพันธุ์ในช่วงปลายฤดูหนาวถึงฤดูร้อน หรือเรียกว่า “แย้กัดกัน” โดยจะวิ่งไล่งับกันไปมาหลังผสมพันธุ์ก็จะแยกย้ายกันไป ออกไข่ครั้งละประมาณ 5-9 ฟอง “ลูกแย้”ใช้ชีวิตอยู่ในไข่นาน 70-90 วัน จะอยู่กับแม่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ในช่วงเดือนเมษายนจะพบ “ลูกแย้” ตัวน้อย อยู่ทั่วไป “แย้” เป็นสัตว์เลือดเย็นชอบผึ่งแดดในตอนสาย ๆ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นเลือดไหลเวียนได้ดี อาหารของแย้ คือแมลงที่อยู่ตามธรรมชาติ ยอดอ่อนของพืชและข้าวตู น้ำค้าง บางครั้งก็น้ำแข็ง ส่วนศัตรูของแย้คือ แมว สุนัข เหยี่ยว อีกา ไก่ และ ที่สำคัญในปัจจุบันคือ “คน” ที่กำลังนิยมล่าไปเป็นอาหาร
ปัจจุบันที่โรงเรียนบ้านตะโคงสามัคคี มีแย้อาศัยอยู่ประมาณ 300-400 ตัว นักเรียนและครูรวมทั้งชาวบ้านต่างคุ้นเคยกับแย้และประกาศเป็นเขตอนุรักษ์แย้ พร้อมจัดงานวันอนุรักษ์แย้ ทุกปี ในช่วงเดือนมีนาคม มีประชาชนจากหลายจังหวัดแวะเวียนมาชมจำนวนมาก
ด.ญ.ลิซา บุทลี อายุ 9 ปี เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (ป.3) กล่าวถึงแย้ด้วยความชื่นชมและผูกพันว่า มาเรียนโรงเรียนแห่งนี้ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนปัจจุบัน ตนรักแย้มากและได้รับรางวัลวาดภาพจากจินตนาการถึงแย้หลายปี ครูนักเรียนทุกคนต่างสนุกสนานกับแย้ ทุกวันเวลาเข้าแถวเคารพธงชาติ แย้จะขึ้นจากหลุมวิ่งเล่นที่สนามจำนวนมาก จากความรักความผูกพันกับแย้ พวกเราถึงจะไปพบกิ้งก่าหรือแย้ตามป่า เราจะไม่ทำร้ายเด็ดขาด
จึงอยากฝากบอกและวิงวอนไปยังทุกคนว่า “ผู้คนต่างล่า แย้ และกิ้งก่า มาทำอาหารหนูสงสารมาก”
นายบรรจง สิงทพ นายอำเภอบ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ว่า ภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก ที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงมีความประสงค์ให้ทุกคนร่วมกัน อนุรักษ์แย้ เพราะเป็นทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่า เป็นสัตว์ที่หายากนับวันใกล้จะสูญพันธุ์ไป เนื่องจากถูกไล่ล่าเพื่อนำไปเป็นอาหาร แหล่งที่อยู่อาศัยถูกทำลาย การที่โรงเรียนส่งเสริมนักเรียนให้อนุรักษ์รวมทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้ในการศึกษาสภาพธรรมชาติและความเป็นอยู่ของแย้นั้น เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมและควรให้การสนับสนุนอย่างยิ่ง