xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่าย ปชช.เหนือวอน “มาร์ค” สั่งห้ามอุทธรณ์คดีมาบตาพุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เชียงใหม่ – เครือข่ายองค์กร ปชช.เหนือ ออกแถลงการณ์จี้ “มาร์ค” สั่งห้ามอุทธรณ์คดีมาบตาพุด หวั่นผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมขยายวงไม่สิ้นสุด พร้อมยึดคำพิพากษาเป็นบรรทัดฐานแก้ปัญหา สวล.ของประเทศ

รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า เครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ ประกอบด้วย คณะกรรมการประสานงานองค์พัฒนาเอกชนภาคเหนือ (กป.อพช.เหนือ),สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ, เครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง, กลุ่มเพื่อนประชาชนบนพื้นที่สูง, ภาคีฮักเชียงใหม่,ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น ได้ออกแถลงการณ์กรณีศาลปกครองระยองพิพากษาให้พื้นที่มาบตาพุดและบริเวณข้างเคียงเป็นเขตควบคุม โดยระบุว่า

ตามที่ศาลปกครองระยองได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ ที่ 192/2550 ระหว่างนายเจริญ เดชคุ้ม กับพวกรวม 27 คน ยื่นฟ้องคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฐานละเลยไม่ประกาศให้พื้นที่ตำบลมาบตาพุดและเทศบาลเมืองมาบตาพุด ตลอดจนพื้นที่ข้างเคียงที่มีปัญหาสิ่งแวดล้อมรุนแรงเป็นเขตควบคุมมลพิษเพื่อดำเนินการควบคุมลดและขจัดมลพิษตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ว่าคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่

และพิพากษาให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ประกาศให้พื้นที่เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด รวม 5 ตำบล คือ ต.มาบตาพุด ต.ห้วยโป่ง ต.เนินพระ ต.มาบข่า และ ต.ทับมา รวมทั้งท้องที่ ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง ทั้งตำบล เป็น “เขตควบคุมมลพิษ” โดยมีผลภายใน 60 วันหลังศาลมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2552 นั้น

เครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ ซึ่งมีรายชื่อแนบท้ายแถงการณ์ฉบับนี้ ได้ติดตามสถานการณ์มลพิษในพื้นที่มาบตาพุดมาอย่างใกล้ชิด ขอแสดงท่าทีและข้อเรียกร้องต่อสถานการณ์ดังกล่าว ดังนี้

1.คำพิพากษาดังกล่าวเป็นหลักบรรทัดฐานในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมของประเทศ จะทำให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชนในพื้นที่ ที่ได้รับมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม จะนำมาซึ่งการเยียวยาแก้ไขปัญหาและฟื้นวิถีชีวิตของชุมชนอย่างแท้จริง

2.องค์กรเครือข่ายประชาชนภาคเหนือ ขอเรียกร้องต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยึดหลักธรรมาภิบาลในการดูแลชีวิตและสุขภาพของประชาชนบนฐานการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ดังนั้นรัฐบาลควรมีความเห็นไปยังคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยว่า อย่าอุทธรณ์คำพิพากษาในคดีดังกล่าวนี้เลย เพราะการอุทธรณ์จะทำให้การดำเนินการตามคำสั่งศาลในคดีนี้ยืดเยื้อออกไปและต้องใช้เวลาอีกหลายปี อันจะมาซึ่งโรงงานอุตสาหกรรมจะเกิดขึ้นและมีประกาศพื้นที่สีม่วงเพิ่มขึ้นอีก

3.รัฐบาลต้องเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดทำแผนงานและมาตรการฟื้นฟูชุมชนมาบตาพุดโดยจะต้องยึดหลักการที่ว่า “ผู้ได้รับผลกระทบต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าเดิม” ซึ่งจะต้องให้ชุมชนในพื้นที่มีส่วนร่วมและเห็นชอบในทุกกระบวนการเพื่อเป็นหลักประกันในการสร้างชีวิตใหม่ให้กับชุมชน

กำลังโหลดความคิดเห็น