จากกรณีที่ศาลปกครองระยอง มีคำพิพากษาให้พื้นที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง เป็นเขตควบคุมมลพิษ นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมต้องการให้มีการศึกษาถึงปัญหามลพิษในพื้นที่มาบตาพุดก่อน เพื่อให้ได้ผลการศึกษาเกี่ยวกับมลพิษที่เป็นที่ยอมรับ เพื่อจะได้วางแผนและตัดสินใจดำเนินการแก้ไขได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ซึ่งหากผลการศึกษาออกมาว่า ระดับมลพิษที่มาบตาพุดแย่มาก คงจะไม่มีการให้ภาคอุตสาหกรรมขยายการลงทุนต่อไป แต่หากผลเป็นไปในทิศทางตรงข้าม คือ ระดับมลพิษลดลง จะทำให้ภาคอุตสาหกรรมมีภาพลักษณ์ ที่ดีมากขึ้นและสามารถขยายการลงทุนได้ ซึ่งผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในจังหวัดระยอง ส่วนมากจะเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มีการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อมเกินกว่ามาตรฐานอยู่แล้ว เพราะเป็นบริษัทต่างชาติที่มีเทคโนโลยีทันสมัย รวมทั้งบริษัทร่วมทุน
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาได้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดทำแผนปฏิบัติการลดและขจัดมลพิษในพื้นที่จังหวัดระยอง ปี 50-54 ซึ่งมีโครงการย่อยถึง 70 โครงการ ทั้งโครงการระยะสั้น 1 ปี และโครงการระยะยาวไปจนถึงปี 53-54 โดยฝ่ายโรงงานและผู้เกี่ยวข้อง มีการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อมถึง 20,000 ล้านบาท เพื่อให้ระดับมลพิษต่ำกว่าค่ามาตรฐานที่ทางการกำหนด และการลงทุนแต่ละครั้งของนักลงทุน ได้พิจารณาถึงมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม หากเป็นไปได้จะดูว่าเทคโนโลยีสามารถดูแลสิ่งแวดล้อมได้ดีกว่ามาตรฐานด้วย
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาได้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดทำแผนปฏิบัติการลดและขจัดมลพิษในพื้นที่จังหวัดระยอง ปี 50-54 ซึ่งมีโครงการย่อยถึง 70 โครงการ ทั้งโครงการระยะสั้น 1 ปี และโครงการระยะยาวไปจนถึงปี 53-54 โดยฝ่ายโรงงานและผู้เกี่ยวข้อง มีการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อมถึง 20,000 ล้านบาท เพื่อให้ระดับมลพิษต่ำกว่าค่ามาตรฐานที่ทางการกำหนด และการลงทุนแต่ละครั้งของนักลงทุน ได้พิจารณาถึงมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม หากเป็นไปได้จะดูว่าเทคโนโลยีสามารถดูแลสิ่งแวดล้อมได้ดีกว่ามาตรฐานด้วย